ขอคสช.2หมื่นล้านปล่อยกู้แปรรูปยาง ปลัดเกษตรฯติงอสย. ล้ำเส้นซื้อประกันไม่ปรึกษา
คสช.สั่งเดินหน้าปล่อยกู้ 2 หมื่นล้านบาท หนุนผู้ประกอบการ - สถาบันเกษตรกรแปรรูปยาง ถกกระทรวงอุตสาหกรรมวันนี้วางกรอบช่วยผู้ประกอบการ
นางอารีย์ โสมวดี รองเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร(สศก.) เปิดเผยว่า คณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ให้การสนับสนุนมาตรการแก้ไขปัญหาราคายางพาราในประเทศให้มีเสถียรภาพมากขึ้น ซึ่งที่ผ่านมาคณะกรรมการนโยบายยางธรรมชาติ(กนย.)ชุดที่ผ่านมาเห็นชอบให้สนับสนุนผู้ประกอบการในประเทศ ปรับปรุงกระบวนการผลิตยางแปรรูป วงเงิน 15,000 ล้านบาท และสนับสนุนสถาบันเกษตรกรและกลุ่มเกษตรกรแปรรูปยางขั้นต้น วงเงิน 5,000 ล้านบาท
ดังนั้นเพื่อเดินหน้าโครงการดังกล่าวให้เป็นรูปธรรม กระทรวงเกษตรฯโดยกรมส่งเสริมสหกรณ์ได้เปิดให้สถาบันเกษตรกรต่างๆเสนอโครงการให้พิจารณา พบว่ามีสถาบันเกษตรกรให้ความสนใจจำนวนมาก
ทั้งนี้การแปรรูปขั้นต้นของสหกรณ์ สามารถทำยางแผ่นรมควัน ยางแท่ง และ ยางคอมปาวน์
สำหรับการสนับสนุนผู้ประกอบการนั้น กระทรวงเกษตรฯจะหารือกับกระทรวงอุตสาหกรรมในวันที่ 9 ก.ค. นี้ เพื่อผลักดันให้มาตรการนี้เดินหน้าต่อไป ซึ่งมีผู้ประกอบการจำนวนมากให้ความสนใจ โดยเฉพาะการปรับปรุงโรงงานผลิตถุงมือยาง ที่ต้องการเครื่องจักรใหม่ๆ ที่มีประสิทธิภาพทัดเทียมกับมาเลเซีย โดยคาดว่าจะสามารถแข่งขันกับมาเลเซียผู้ผลิตรายใหญ่ได้
อย่างไรก็ตามการพิจารณาปล่อยกู้งบประมาณดังกล่าว จะต้องพิจารณาถึงผลประโยชน์ที่สามารถตอบโจทย์ของประเทศได้ด้วย ไม่ใช่ให้ผู้ประกอบการเพียงกลุ่มเดียว ซึ่งกระทรวงอุตสาหกรรมจะต้องร่วมกันพิจารณา เพื่อผลักดันให้นำไปสู่ขั้นตอนการปฏิบัติที่เหมาะสม ขั้นต้นอาจไม่ได้ผลสรุปที่ชัดเจน เพราะต้องกำหนดขั้นตอนการพิจารณาแต่ละโครงการอย่างรอบคอบ
"ไทยมีผู้ประกอบการที่มีศักยภาพจำนวนมาก บางรายต้องการงบประมาณ เพื่อปรับปรุงโรงงานใหม่ บางรายต้องการซื้อเครื่องจักร ขยายโรงงานเพิ่มกำลังการผลิต ซึ่งต้องดูความเหมาะสมและเชื่อมโยงกับอุตสาหกรรมต้นน้ำด้วย" นางอารีย์ กล่าว
อย่างไรก็ตามทุกโครงการตามข้อเสนอของผู้ประกอบการยางรวมทั้งสถาบันเกษตรกรต่างๆ จะต้องเสนอให้คสช.พิจารณาและอนุมัติ เนื่องจากเป็นโครงการที่รัฐต้องผูกพันงบประมาณ
แหล่งข่าวจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ในการประชุมผู้บริหารระดับสูงกระทรวง พล.อ.ยอดยุทธ บุญญาธิการ ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)ได้สอบถามความคืบหน้าของมาตรการระบายยางพาราในสต็อกรัฐบาล 2 .1 แสนตัน โดยเฉพาะเรื่องการดำเนินการทำถนนยางพาราที่ต้องเร่งหารือกับกระทรวงคมนาคม
นอกจากนี้ยังได้สอบถามถึงการจ่ายประกันภัย และการเช่าโกดังสำหรับเก็บยางพารา ที่องค์การสวนยาง (อ.ส.ย.)ดูแลอยู่ โดยมีค่าใช้จ่ายเป็นรายเดือน โดยได้สั่งการให้ อ.ส.ย.ทำรายละเอียดเพื่อเสนอความคืบหน้าให้ คสช.รับทราบอีกครั้งว่าทุกโครงการที่อนุมัติมีความคืบหน้าหรือไม่อย่างไร
ทั้งนี้ในที่ประชุม ตัวแทน อ.ส.ย.ระบุว่ามีความเดือดร้อนมาก เพราะหลังคสช.เข้ามาทางอ.ส.ย.ก็มีค่าใช้จ่ายในเรื่องของการประกันภัย ค่าเช่าโกดังที่ยังค้างชำระ ทำให้นายชนะชัย เปล่งศิริวัธน์ ผู้อำนวยการอ.ส.ย.ต้องใช้อำนาจผู้บริหารอนุมัติเงินต่อประกันภัยไปก่อน เพื่อคุ้มครองหากเกิดเหตุเพลิงไหม้
อย่างไรก็ตามนายชวลิต ชูขจร ปลัดกระทรวงเกษตรฯ กล่าวในที่ประชุมว่า กรณีที่ผู้อำนวยการ อ.ส.ย.ใช้อำนาจผู้บริหารต่อประกันภัยไปก่อนนั้น เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง เพราะยังไม่มีใครอนุมัติให้ดำเนินการ ดังนั้นต้องหารือและดูในรายละเอียดว่าผู้อำนวยการ อ.ส.ย.ต่อประกันเป็นหน้าที่และอำนาจของใคร ซึ่งจากนี้ไป คสช.ต้องดูรายละเอียดทั้งหมด
Souce: เว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจ
