ผู้เขียน หัวข้อ: วิเคราะห์ปัจจัยที่มีผลต่อราคายาง วันศุกร์ที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2559  (อ่าน 1007 ครั้ง)

Rakayang.Com

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 82556
    • ดูรายละเอียด

วิเคราะห์ปัจจัยที่มีผลต่อราคายาง
วันศุกร์ที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2559


ปัจจัย วิเคราะห์
1. สภาพภูมิอากาศ - ประเทศไทยยังคงมีฝนตกต่อเนื่อง และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ซึ่งมีฝน
ร้อยละ 70 ของพื้นที่ ส่วนภาคใต้มีฝนร้อยละ 40 - 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณทาง
ตอนบนของภาค เป็นอุปสรรคต่อการกรีดยาง


2. การใช้ยาง - สำนักข่าว The Economic Times รายงานว่า ปริมาณการผลิตยางธรรมชาติของ
สมาชิกรวมกันอยู่ที่ประมาณ 4.93 ล้านตันในช่วงเดือนมกราคม - มิถุนายน ลดลงร้อยละ
0.3 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยอ้างอิงจากรายงานของสมาคมประเทศผู้ผลิต
ยางธรรมชาติ (ANRPC) ระบุว่า
? ปริมาณการผลิตยางธรรมชาติของไทยเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.0
? ปริมาณการผลิตยางธรรมชาติของเวียดนามเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.3
? ปริมาณการผลิตยางธรรมชาติของอินโดนีเซียลดลงร้อยละ 0.3
? ปริมาณการผลิตยางธรรมชาติของจีนลดลงร้อยละ 12.0
? ปริมาณการผลิตยางธรรมชาติของมาเลเซียลดลงร้อยละ 3.8
? ปริมาณการผลิตยางธรรมชาติของอินเดียลดลงร้อยละ 3.0

3. เศรษฐกิจโลก - ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) กล่าวว่า ECB มีความพร้อมที่จะใช้เครื่องมือทุกอย่าง
สร้างเสถียรภาพในตลาด ขณะที่ Brexit เป็นอุปสรรคต่อการฟื้นตัวเศรษฐกิจยูโรโซน
เช่นเดียวกับความล่าช้าในการปรับโครงสร้างในภูมิภาค และการชะลอตัวในตลาดเกิดใหม่
- กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เรียกร้องให้สมาชิกกลุ่ม G20 ใช้นโยบายที่หลากหลาย
เพื่อควบคุมความเสี่ยงและกระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจ โดย IMF ระบุว่าการ
ขยายตัวเศรษฐกิจโลกยังอ่อนแอและเปราะบาง ขณะที่การแยกตัวของสหราชอาณาจักร
ออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ได้สร้างความเสี่ยงในช่วงขาลงต่อเศรษฐกิจโลก
- ธนาคารกลางยุโรป (ECB) จัดการประชุมนโยบายการเงิน ซึ่งเป็นการประชุมครั้งแรก
หลังจากที่สหราชอาณาจักรจัดทำประชามติแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) เมื่อ
วันที่ 23 มิถุนายน 2559 โดยที่ประชุมมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งเป็นอัตรา
ดอกเบี้ยไฟแนนซ์ที่ร้อยละ 0 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ นอกจากนี้ ECB ยังคง
อัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ธนาคารพาณิชย์ฝากไว้กับ ECB ที่ระดับร้อยละ -0.4 และอัตรา
ดอกเบี้ยเงินกู้ที่ระดับร้อยละ 0.25 ขณะเดียวกันได้ประกาศคงวงเงินในการซื้อพันธบัตร
ตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ที่ระดับ 8 หมื่นล้านยูโรต่อเดือน
- ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เปิดเผยว่า ขณะนี้ตัวเขายังไม่มีความสนใจที่จะใช้
นโยบาย ?เฮลิคอปเตอร์ มันนี่? ซึ่งเป็นนโยบายหนึ่งที่ทางธนาคารกลางญี่ปุ่นสามารถ
นำมาใช้ ด้วยการจัดพิมพ์ธนบัตรและแจกจ่ายให้ประชาชนนำไปใช้ โดยให้เหตุผลว่ายัง
ไม่มีความจำเป็นในการใช้นโยบายดังกล่าว
- สำนักงานสถิติแห่งชาติฝรั่งเศสรายงานว่า ความเชื่อมั่นภาคธุรกิจการผลิตเดือน
กรกฎาคมเพิ่มขึ้นแตะ 103 จาก 102 ในเดือนมิถุนายน
- ธนาคารกลางจีน (PBOC) เปิดเผยว่า ธนาคารได้อัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ตลาดทั้งหมด 3
หมื่นล้านหยวน (4.49 พันล้านดอลล่าร์สหรัฐ) เพื่อเสริมสภาพคล่องให้กับระบบการเงิน


4. อัตราแลกเปลี่ยน - เงินบาทอยู่ที่ 34.94 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ แข็งค่าขึ้น 0.10 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ
- เงินเยนอยู่ที่ 105.78 เยนต่อดอลลาร์สหรัฐ แข็งค่าขึ้น 1.49 เยนต่อดอลลาร์สหรัฐ


5. ราคาน้ำมัน - สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาด Nymex ส่งมอบเดือนสิงหาคม ปิดตลาดที่
44.75 ดอลล่าร์สหรัฐต่อบาร์เรล ลดลง 1.0 ดอลล่าร์สหรัฐต่อบาร์เรล เนื่องจากนักลงทุน
เริ่มกลับมาวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานน้ำมันล้นตลาดอีกครั้ง หลังจากสำนักงาน
สารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) ระบุว่าสต๊อคน้ำมันเบนซินปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่าง
ผิดคาดในสัปดาห์ที่ผ่านมา
- สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (Brent) ตลาดลอนดอนส่งมอบเดือนกันยายน ปิดตลาดที่
46.20 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ลดลง 0.97 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล

6. การเก็งกำไร - ราคา TOCOM ส่งมอบเดือนสิงหาคม อยู่ที่ 182.3 เยนต่อกิโลกรัม เพิ่มขึ้น 0.3 เยนต่อ
กิโลกรัม และส่งมอบเดือนธันวาคม อยู่ที่ 162.7 เยนต่อกิโลกรัม เพิ่มขึ้น 1.6 เยนต่อ
ดอลล่าร์สหรัฐ
- ราคา SICOM เปิดตลาดที่ 198.8 เซนต์สหรัฐต่อกิโลกรัม เพิ่มขึ้น 6.8 เซนต์สหรัฐต่อกิโลกรัม

7. ข่าว - กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงาน
ครั้งแรกแตะระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือน โดยลดลง 1,000 ราย อยู่ที่ 253,000 รายใน
สัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 16 กรกฎาคม 2559 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเมษายน และ
ใกล้ระดับ 248,000 ราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 43 ปี ที่ทำไว้กลางเดือนเมษายน
- นายกรัฐมนตรีอังกฤษกล่าวกับนายกรัฐมนตรีเยอรมันว่า อังกฤษจะยังไม่ประกาศใช้
มาตรา 50 ตามสนธิสัญญาลิสบอน เพื่อแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (EU) และเริ่ม
กระบวนการเจรจาจนกว่าวัตถุประสงค์ของอังกฤษจะมีความชัดเจน และสิ่งนี้จะไม่เกิดขึ้น
ภายในปีนี้
- สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติสหรัฐฯ (NAR) เปิดเผยว่า ยอดจำหน่ายบ้าน
มือสองเดือนมิถุนายนพุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบกว่า 9 ปี โดยได้แรงหนุนจากอัตรา
ดอกเบี้ยเงินกู้จำนองที่อยู่ในระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่ปี 2556 ทั้งนี้ยอดจำหน่ายบ้านมือสอง
เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.1 ในเดือนมิถุนายน เมื่อเทียบเป็นรายเดือน สู่ระดับ 5.57 ล้านยูนิต
นับเป็นระดับสูงสุดตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2550

8. ข้อคิดเห็นของประกอบการ
- ราคายางทรงตัวหรือสูงขึ้นได้เล็กน้อย เพราะมีแรงหนุนจากปริมาณผลผลิตที่ยังออกสู่
ตลาดน้อย อย่างไรก็ตาม การเสนอขายในราคาตลาดล่วงหน้าสิงคโปร์ซึ่งอยู่ในระดับสูง
ยังคงขายยาก ถ้าผู้ซื้อไม่ต้องการจริง ๆ ก็จะไม่ซื้อ นอกจากขาดแคลนยางส่งมอบจึงจะซื้อ
ในปริมาณที่จำกัด ดังนั้น ราคาที่ขายได้ยังขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้ซื้อเป็นหลัก



แนวโน้ม ราคายางมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น โดยมีปัจจัยบวกจากอุปทานยางที่ออกสู่ตลาดค่อนข้างน้อย และ
ความต้องการซื้อของผู้ประกอบการในประเทศที่ขาดแคลนวัตถุดิบเพื่อส่งมอบ อย่างไรก็ตาม ราคายางยังมีแรงกดดนั
จากราคาชี้นำตลาดล่วงหน้าโตเกียวผันผวนจากการแข็งค่าของเงินเยน และราคาน้ำมันปิดตลาดปรับตัวลดลง อีกทั้ง
นักลงทุนระมัดระวังในการซื้อขายก่อนที่การประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) และธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ)
จะมีขึ้นในสัปดาห์หน้า




สำนักงานตลาดกลางยางพาราจังหวัดสงขลา