« เมื่อ: สิงหาคม 30, 2016, 09:38:51 PM »
(ข่าวเก่า เล่าใหม่) รง.ผลิตยางระดับโลก จ่อไม่รับซื้อยางอีสาน หลังพบใช้ "กรดซัลฟิวริก"วันที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2558 เวลา 18:20:00 น(11 ก.ย.58) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัทผลิตยางรถจากต่างประเทศมีท่าทียกเลิกการสั่งซื้อยางพาราก้อนถ้วยจากภาคอีสานของไทย หลังพบว่า คุณภาพยางตกต่ำลง จากการใช้กรดซัลฟิวริกหรือกรดกำมะถัน โดยพบปริมาณของซัลเฟตในยางที่สูง จนได้กลายเป็นปัญหาใหม่ที่กระทบกระเทือนต่ออุตสาหกรรมยางในภาคอีสาน นอกจากการใช้กรดดังกล่าวในกลุ่มเกษตรกรชาวสวนยาง ซึ่งได้ก่อมลพิษต่อสุขภาพของแรงงานตามสวนยางและที่รับซื้อ รวมถึงปัญหาน้ำยางเหม็นไหลลงตามถนน จนสร้างความเดือดร้อนต่อผู้ใช้รถใช้ถนนและชุมชนทางผ่านปัญหาคุณภาพยางตกต่ำลงนี้ สืบเนื่องจากเมื่อปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ทางสมาคมยาพาราไทยได้มีหนังสือ ถึงอธิบดีกรมวิชาการเกษตร ให้แก้ไขปัญหาคุณภาพยางก้อนถ้วย 3 ประเด็น หนึ่งในนั้นคือ การใช้กรดซัลฟิวริกให้ยางจับตัว ซึ่งเป็นวัตถุดิบผลิตยางแท่ง ส่งผลต่อคุณภาพยางลดลง ขณะที่ บ.อี คิว รับเบอร์ จก. ผู้ส่งออกยางแท่ง ได้มีหนังสือถึงสมาคมฯ ว่าได้รับแจ้งจากผู้ผลิตยางล้อรายใหญ่ของโลก พบปัญหาในการผลิตยางล้อ จากยางก้อนถ้วยในภาคอีสาน โดยพบว่ามีระดับของซัลเฟตสูงจึงตัดสินใจจะไม่รับซื้อยางแท่งที่ผลิตจากยางก้อนถ้วยในภาคอีสาน จนกว่าได้รับการแก้ไข (จากเอกสาร)นายพยุงศักดิ์ อภิรัตนกุล ผอ.กองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง (สกย.) อุดรธานี เปิดเผยว่า สกย.ส่งเสริมชาวสวนใช้ "กรดฟอร์มิค" เพราะเป็นกรดอินทรีย์สลายตัวเอง จะทำให้คุณภาพยางดีไม่เปลี่ยนแปลง อย่างไรก็ตาม กลับพบว่า มีกลุ่มผู้ประกอบการค้าบางรายผลิต"กรดซัลฟิวริก"ซึ่งเป็นกรดกำมะถัน ผสมน้ำแล้วบรรจุขวดขาย ในราคาต่ำกว่าประมาณเท่าตัว ซึ่งชาวยางนิยมใช้กันมาก เพราะราคาถูกกว่า ล่าสุดยังพบว่ามีการใช้ "กรดสู้ฝน" หรือเกลือแคลเซียม ซึ่งเป็นกรด 2 ชนิดหลังที่ทำให้คุณภาพยางลดลงจริงนายพยุงศักดิ์ยังกล่าวว่า สกย.ทำได้เพียงการส่งเสริม และรณรงค์ให้ชาวสวนยาง ตระหนักถึงความสำคัญเรื่องคุณภาพ แต่หากจะให้ สกย.ไปบังคับคงทำไม่ได้ ซึ่งก็ต้องรณรงค์มากขึ้น ถ้าจะให้มีการบังคับห้ามใช้ กรมวิชาการเกษตรสามารถออกประกาศ เมื่อเห็นว่าสารเคมีใด หรือสารสังเคราะห์ใด ส่งผลกระทบต่อคุณภาพยาง หรืออื่นๆ ก็ออกประกาศเป็นสารต้องห้ามไม่ให้นำมาใช้กับยางพาราด้านนายธนวรรธน์ เลิศสุคนธ์ อุตสาหกรรม จ.อุดรธานี เปิดเผยว่า เมื่อช่วงปีเศษที่ผ่านมา จ.อุดรธานี ได้รณรงค์ให้ชาวสวนยางเลิกใช้ ?กรดซัลฟิวริก? เพราะทำให้ยางมีกลิ่นเหม็น ถนนลื่นเกิดอุบัติเหตุ และโรงงานแก้กลิ่นเหม็นไม่ได้ แต่กลับไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร ล่าสุดมีข้อทักท้วงของผู้รับซื้อ และมีข่าวว่าจะไม่รับซื้อยางอีสาน เมื่อเดือนที่แล้ว รมว.อุตสาหกรรมคนก่อนจึงต้องเดินทางมาดูข้อเท็จจริง และเห็นควรให้กระทรวงอุตสาหกรรมออกมาตรการมาแก้ไขโดยด่วน ทั้งนี้ ขณะที่กำลังรออยู่ จะมีการส่งเสริมให้คู่ค้าหรือชาวสวนยาง หันมาใช้กรดฟอร์มิค หรือกรดอินทรีย์อื่นแทน ด้วยการจัดหากรดให้ และแยกกลุ่มรับซื้อออกมาต่างหาก และแจ้งให้ผู้ประกอบการจำหน่ายกรดซัลฟิวริกว่าให้ยุติการผลิตและจำหน่าย หากฝ่าฝืนจะมีความผิดฐานผลิตกรดออกมาโดยไม่ได้รับอนุญาตทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้เดินทางสำรวจตามร้านจำหน่ายสินค้าอุปกรณ์การเกษตร ในเขต ทต.บ้านผือ อ.บ้านผือ อุดรธานี พบว่าจะมีกรดซัลฟิวริก จำหน่ายทั้งปลีกและส่ง ในรูปแบบบรรจุขวดกว่า 5 ยี่ห้อ แต่ไม่ระบุว่าเป็นกรดซัลฟิวริก มีเพียงฉลากบอกสรรพคุณ มีทั้งน้ำที่เป็นสีขาวใส น้ำสีเหลืองใส โดยแบบขวดเล็กขายเป็นแพ็คแพ็คละ 6 ขวด ขวดละ 70 บาท และขวดแก้วบรรจุลังแบบเข้มข้น ขณะที่ ?กรดฟอร์มิค? บรรจุในแกลลอนสีน้ำเงิน มีหลายยี่ห้อเช่นกันราคา 270 บาท ซึ่งผู้ค้าระบุว่ากรดซัลฟิวริกบรรจุขวด ขายเป็นแพ็คได้รับความนิยมมากกว่า เพราะราคาถูกและสะดวกในการใช้งาน ที่มา มติชนออนไลน์ http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1441963781
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 30, 2016, 09:43:11 PM โดย Rakayang.Com »