ผู้เขียน หัวข้อ: ซื้อหุ้นได้กำไรไม่ใช่เรื่องยาก ถ้ารู้จักใช้เครื่องมือ  (อ่าน 397 ครั้ง)

Rakayang.Com

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 82480
    • ดูรายละเอียด
ซื้อหุ้นได้กำไรไม่ใช่เรื่องยาก ถ้ารู้จักใช้เครื่องมือ


 Update: 15.20 น.  20 เม.ย. 61 หมวด MoneyCoach

 

?รู้สึกกันหรือไม่ว่า ทุกวันนี้ทำไมจะหาซื้อ หุ้นให้ได้กำไร ทำไมยากเหลือเกิน? เป็นคำถาม ชวนให้สงสัยของ ปริพรรห์ ปริยอุดมทรัพย์, CFP นักวางแผนการลงทุน บล.บัวหลวง อารมณ์ประมาณว่าหุ้นที่ซื้อก็ขาดทุน ซื้อตัวนี้ ก็ผิดทิศผิดทาง กว่าจะเจอหุ้นที่ใช่และทำกำไรก็ยากเหลือเกิน ถ้านักลงทุนกำลังเผชิญเหตุการณ์แบบนี้ มีทางออกถ้าหาต้นสายปลายเหตุเจอ จากนั้นก็วางกลยุทธ์ใหม่เพื่อทำให้มีกำไรมากกว่าขาดทุน

   ทางออกประเด็นนี้  นักลงทุนต้องอาศัย เครื่องมือการวิเคราะห์ทางเทคนิคที่เป็นเครื่องชี้ภาวะตลาด (Market Indicator) ที่มีชื่อว่า Advance-Decline Line (AD-Line) เป็นเครื่องมือ วัดสภาพตลาดโดยรวม อย่างกว้างๆ โดยอาศัยแนวคิดว่าตลาดจะปรับขึ้นก็ต่อเมื่อราคาหุ้นที่อยู่ในตลาดส่วนใหญ่ขยับขึ้น แต่ถ้าราคาหุ้นส่วนใหญ่ไม่ได้ปรับขึ้น ถึงแม้ดัชนีหุ้นจะปรับขึ้นก็เป็นสัญญาณที่ ต้องเพิ่มความระมัดระวัง
         ดังนั้น นักลงทุนสาย เทคนิคมักจะใช้ AD-Line เข้ามาช่วยเพื่อวัดความน่าลงทุนหรือความแข็งแกร่งของตลาดหุ้นในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง โดย AD-Line จะปรับขึ้นเมื่อตลาดในช่วงนั้นมีหุ้นจำนวนมากที่มีราคาปรับขึ้น ตรงกันข้าม AD-Line  จะปักหัวลง หมายถึงช่วงนั้น มีหุ้นที่มีราคาปรับลดลง มากกว่าปรับขึ้น




   จากภาพด้านบน ปริพรรห์อธิบายว่า เส้นสีเหลือง คือ ดัชนีหุ้นไทย ส่วนเส้นสีเขียว คือ AD-Line โดยเป็นเส้นบอกการสะสมยอดการเพิ่มขึ้นหรือลดลงของจำนวนหุ้นที่ราคาปรับสูงขึ้น ?พูดง่ายๆ ถ้าเส้น AD-Line ขึ้น แปลว่าวันนั้นมีหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบ? ปริพรรห์ ย้ำ


AD-Line มีความหมายแค่ไหน
   ถ้าราคาหุ้นปรับขึ้นมากๆ แต่จำนวนหุ้นบวกในตลาดมีจำนวนน้อยตัว แสดงว่าการขึ้นของตลาดในช่วงนั้น ถูกดันด้วยหุ้นไม่กี่ตัวและอาจเป็นหุ้นที่มีมาร์เก็ตแคปใหญ่พยุงดัชนีหุ้นให้ซื้อขายอยู่ในแดนบวกได้
   อย่างไรก็ตาม การที่ดัชนีหุ้นปรับขึ้นในลักษณะแบบนี้ไม่ได้หมายถึงสามารถลงทุนได้ปลอดภัย เพราะข้อเสียของ AD-Lind คือ จะสนใจเฉพาะหุ้นที่มีราคาเปลี่ยนแปลงเท่านั้น จะไม่สนใจหุ้นที่ไม่มีการซื้อขายหรือราคาไม่เปลี่ยนแปลง รวมถึงไม่สนใจระดับความรุนแรงของการเปลี่ยนแปลงของราคาด้วย
   กรณีตัวอย่าง (พิจารณาภาพ) พบว่านับตั้งแต่จบวิกฤติเศรษฐกิจปี 2540 ดัชนีหุ้นไทยและ AD-Line ขยับขึ้นอย่างต่อเนื่อง หมายความว่า ราคาหุ้นปรับขึ้นเกือบทั้งตลาด แต่หลังจากปี 2556 เป็นต้นมา AD-Line ปักหัวลง แต่ดัชนีหุ้นไทยยังคงขยับขึ้น และเมื่อเข้าไปนับจำนวนหุ้นที่มีราคาปรับขึ้นมีน้อย (ส่วนใหญ่ราคาปรับลดลง)
   ?ถ้าหลับหูหลับตาเทรดหุ้นมีโอกาสสูงที่จะเลือกหุ้นผิดตัว? ปริพรรห์ บอก
   เขาแนะนำทางออกเพื่อลดความเสี่ยงว่า ถ้ารู้ตัวว่าใจไม่นิ่งพอ เลือกหุ้นไม่เก่ง ?อย่าเลือกหุ้นเอง ควรนำเงินไปลงทุนผ่านกองทุนรวมหุ้น ซึ่งมีผู้จัดการกองทุนคอยดูแล หรือไม่ก็ซื้อกองทุนหุ้นที่มีกลยุทธ์แบบ Passive เกาะไปกับดัชนี SET50 นั่นคือดัชนีหุ้นไปทางไหน  ผลตอบแทนก็ไปทางนั้น?
   เมื่อตลาดหุ้นกลับมาเข้าที่เข้าทาง หรือเห็นสัญญาณดัชนีหุ้นปรับขึ้น ขณะเดียวกัน AD-Lind ก็ชี้ขึ้น ค่อยกลับมาพิจารณาลงทุนหุ้นอีกครั้ง ด้วยการเลือกหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง การดำเนินธุรกิจเติบโตต่อเนื่อง รวมถึงหุ้นที่มีนโยบายจ่ายเงินปันผลสม่ำเสมอ


เขียนโดย : ฐิติเมธ โภคชัย ผู้บริหารงาน ฝ่ายพัฒนาความรู้ผู้ลงทุน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
จากคอลัมน์ The Number ของนิตยสาร Money & Wealth ฉบับที่ 180 เดือนเมษายน 2561