ตอบ

Warning: this topic has not been posted in for at least 120 days.
Unless you're sure you want to reply, please consider starting a new topic.
ชื่อ:
อีเมล์:
หัวข้อ:
ไอค่อนข้อความ:

แนบไฟล์:
(Clear Attachment)
(แนบไฟล์เพิ่ม)
Restrictions: 4 per post, maximum total size 192KB, maximum individual size 128KB
Verification:
กรุณาพิมพ์ชื่อนี้ Rakayang เป็น???าษาไทย:

shortcuts: กด alt+s เพื่อตั้งกระทู้ หรือ alt+p แสดงตัวอย่าง


สรุปหัวข้อ

ข้อความโดย: Rakayang.Com
« เมื่อ: ธันวาคม 10, 2019, 07:56:01 PM »

สูญกว่าสองพันล้านโรคใบร่วงระบาดหนักสวนยาง

8 ธันวาคม 2562 - 00:00 น.
กยท,การยางแห่งประเทศไทย,โรคใบร่วงชนิดใหม่ในยางพารา,ยางพารา

กยท.เดินหน้ายับยั้งสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคใบร่วงชนิดใหม่ในยางพารา สูญรายได้2,400 ล้าน ส่อลามพืชอื่นอีกหลายชนิด8 ธันวาคม 2562 จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคใบร่วงชนิดใหม่ในยางพารา (Pestalotiopsis sp., Colletotrichum sp. ) มีการแพร่ระบาดเข้ามาพื้นที่ภาคใต้ของประเทศไทย ทั้งนี้เมื่อเดือนกันยายน 2562 ทำให้ต้นยางมีใบร่วงรุนแรง สภาพเสื่อมโทรม ผลผลิตน้ำยางทยอยลดลงๆ ส่งผลให้เกษตรกรชาวสวนยางต้องหยุดกรีดยาง และขาดรายได้ ข้อมูลล่าสุดเมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2562 พบการระบาดของโรคใน 8 จังหวัด ได้แก่ นราธิวาส ยะลา ปัตตานี สงขลา ตรัง กระบี่ พังงา และสุราษฎร์ธานี รวมพื้นที่ประมาณ 450,433 ไร่ มีเกษตรกรชาวสวนยางทั้งที่ขึ้นทะเบียนและแจ้งข้อมูลกับ กยท. ได้รับผลกระทบ 43,563 ราย ผลผลิตลดลงประมาณ 60,000 ตัน เกษตรกรสูญเสียรายได้ในภาพรวมมูลค่า 2,400 ล้านบาท และพบการระบาดของโรคนี้ในพืชอื่นบริเวณข้างเคียง เช่น ปาล์มน้ำมัน ทุเรียน กล้วย มะละกอ มันสำปะหลัง ไม้ดอกไม้ประดับ พืชผัก และวัชพืชอีกหลายชนิดด้วยนั้น


นายขจรจักษณ์ นวลพรหมสกุล รักษาการผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย กล่าวถึงความคืบหน้าเรื่องนี้ว่า กยท. ได้ดำเนินการช่วยบรรเทาสถานการณ์การระบาดของโรคไปแล้วหลายวิธี ได้แก่ การสำรวจเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค การประสานขอความร่วมมือ GISTDA ในการประเมินการระบาดของโรคจากการร่วงของใบด้วยภาพถ่ายจากดาวเทียมการสาธิตการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมโดยการใช้อากาศยานไร้คนขับ (โดรน) ฉีดพ่นสารเคมีควบคุมและกำจัดเชื้อรา ในพื้นที่นราธิวาส ตรัง และพังงา นำร่องจังหวัดละ 300 ไร่ รวม 900 ไร่ เร่งศึกษาวิจัยหาเชื้อสาเหตุและกลไกการเข้าทำลาย ทดสอบประสิทธิภาพของสารเคมีในการป้องกันกำจัดในพื้นที่เกิดโรค วิจัยและพัฒนาพันธุ์ต้านทาน
โดยกยท.ได้ประสานความร่วมมือกับหน่วยงานอื่นทั้งในประเทศ อาทิ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กรมวิชาการเกษตร กรมส่งเสริมการเกษตร GISTDA และองค์กรระหว่างประเทศ อาทิ ANRPC IRRDB รวมถึงประชาสัมพันธ์ข้อมูลการตรวจสอบลักษณะอาการของโรคและคำแนะนำในการป้องกันกำจัดโรค การกำจัดใบเป็นโรคที่ร่วงหล่นและวัชพืชในสวนยางแก่เจ้าหน้าที่ บุคลากร และเกษตรกรชาวสวนยาง ในพื้นที่ประสบโรคและพื้นที่เสี่ยง
รักษาการ ผวก.กยท. กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมากยท. มิได้นิ่งนอนใจ ได้จัดสรรงบประมาณดำเนินการต่างๆ เพื่อป้องกันและเยียวยา แต่เนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคที่รวดเร็วและรุนแรง ขณะนี้ กยท.ได้ประสานงานกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งพร้อมสนับสนุนจัดสรรงบประมาณเพิ่มเติม เพื่อเดินหน้ามาตรการที่จำเป็นต่อการเร่งยับยั้งสถานการณ์แพร่ระบาดของโรค บรรเทาความเดือดร้อน และช่วยเยียวยาเกษตรกรชาวสวนยางที่ขึ้นทะเบียนและแจ้งข้อมูลกับ กยท.
รวมถึงเกษตรกรผู้ปลูกพืชชนิดอื่นที่ได้รับผลกระทบจากโรคนี้อย่างเร่งด่วน เช่น มาตรการควบคุมและกำจัดโรคในสวนยางพาราที่พบการระบาดแล้ว จำนวนพื้นที่ 500,000 ไร่ โดยใช้ยาป้องกันกำจัดเชื้อรา มาตรการเยียวยาเกษตรกรชาวสวนยางที่ได้รับผลกระทบจากโรคระบาด จำนวน 50,000 ราย มาตรการป้องกันโรคในสวนยางในพื้นที่ที่มีความเสี่ยง จำนวนพื้นที่ 2,000,000 ไร่ โดยใช้ยาป้องกันกำจัดเชื้อรา การจัดการธาตุอาหารพืชให้ต้นยางสมบูรณ์แข็งแรง มาตรการเฝ้าระวัง เตือนภัยและประเมินสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค

รวมถึงมาตรการเตรียมความพร้อมในการรับมือการแพร่ระบาดของโรคในภาคส่วนของเกษตรกร เพื่อสร้างการรับรู้และความเข้าใจที่ถูกต้องในการร่วมมือป้องกันกำจัดโรคนี้ ทั้งหมดนี้ คาดว่าจะช่วยยับยั้งสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคและจัดการปัญหาให้คลี่คลายโดยเร็วต่อไป สำหรับเกษตรกรชาวสวนยางที่เจอสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคนี้ ติดต่อขอคำปรึกษาและข้อแนะนำได้จาก กยท. ในพื้นที่ใกล้บ้าน