ผู้เขียน หัวข้อ: ค่า?เงิน?บาท?เช้า?นี้?เปิดที่? 32.68 บ./ดอลลาร์? วันนี้?คาดเคลื่อนไหว?ในกรอบ? 32.60-32.80 บาท  (อ่าน 277 ครั้ง)

Rakayang.Com

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 82594
    • ดูรายละเอียด

ค่า?เงิน?บาท?เช้า?นี้?เปิดที่? 32.68  บ./ดอลลาร์? วันนี้?คาดเคลื่อนไหว?ในกรอบ? 32.60-32.80 บาท

วันที่ 13 เมษายน 2563 - 08:24 น.

ดร.จิติพล พฤกษาเมธานันท์? นักวิเคราะห์ตลาดการเงินและการลงทุน? บริษัทหลักทรัพย์ไทยพาณิชย์  เปิดเผย?ว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้? (13? เม.ย.)? ที่ระดับ 32.68 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ? อ่อนค่าจากช่วงปิดสิ้นวันทำการก่อนที่ระดับ 32.65 บาทต่อดอลลาร์ โดย?กรอบเงินบาทวันนี้อยู่?ระหว่าง? 32.60-32.80 บาทต่อดอลลาร์? ส่วน?กรอบเงินบาทสัปดาห์นี้อยู่น่าจะ?เคลื่อนไหว?ที่? 32.45-32.95 บาทต่อดอลลาร์

ทั้งนี้? ในช่วงวันทำการก่อน หุ้นทั่วโลกอยู่ในโหมดเปิดรับความเสี่ยง (Risk On) โดยดัชนี S&P500 ของสหรัฐปรับตัวบวกขึ้น 1.4% ขณะที่ Euro Stoxx 600 ปรับตัวขึ้น 1.6% จากแรงหนุนของนโยบายการเงินและการครั้งที่มีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ดี ในช่วงเช้านี้ราคาน้ำมันดิบ กลับปรับตัวขึ้นได้ไม่นาน แม้กลุ่มผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ (OPEC+) สามารถบรรลุข้อตกลงเพื่อร่วมกันลดกำลังการผลิตได้จริง แต่กลับมีความกังวลเรื่องการใช้น้ำมันที่จะหายไปในช่วงหนึ่งถึงสองเดือนข้างหน้ากลับมากดดันให้ราคาน้ำมัน WTI ปรับตัวกลับมาอยู่ที่เดิมที่ระดับ 22.40 ดอลลาร์/บาร์เรล

สำหรับในสัปดาห์นี้? (1317  เม.ย.)?  ประเด็นที่ต้องติดตาม คือทิศทางของนโยบายการเงินและการคลังที่น่าจะมีออกมาเพิ่มเติมเพื่อต่อสู้กับเศรษฐกิจที่ชะลอตัวจากปัญหาไวรัสระบาด ขณะเดียวกันก็จะมีการประเมินภาพรวมเศรษฐกิจขององค์การการเงินระหว่างประเทศหรือ IMF ในวันอังคาร? (14? เม.ย.)? และตลอดสัปดาห์ก็จะมีการประกาศผลกำไรช่วงไตรมาสที่หนึ่งของกลุ่มธนาคารสหรัฐรวมไปจนถึงบริษัทใหญ่ทั่วโลกที่จะต้องรายงานกำไรและปรับประมาณการรายได้ในปีนี้ด้วย

ในฝั่งของตลาดเงินสัปดาห์นี้ จะเคลื่อนไหวในกรอบแคบลงเพราะนักลงทุนส่วนใหญ่อยู่ในภาวะระมัดระวังตัวสูง เห็นได้จากเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงเพียง 0.1% เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักในช่วงวันศุกร์ โดยสกุลเงินปลอดภัยอย่างเยนญี่ปุ่น (JPY) และฟรังก์สวิส (CHF) จะเป็นสกลุเงินที่ตลาดเลือกถือช่วงนี้

ฟากเงินบาทในช่วงนี้ก็ยังคงมีปริมาณการซื้อขายที่ลดลงไปอย่างชัดเจน ทั้งจากฝั่งธุรกิจพลังงาน และผู้ผลิตรถยนต์ที่อาจต้องรอให้ทุกอย่างกลับมาเปิดเป็นปกติก่อน และแม้แรงขายในหุ้นและตราสาร?หนี้? (บอนด์)? จะเริ่มลดลง แต่กลับยังไม่มีทีท่าที่จะมีเงินลงทุนกลับมาเป็นปรกติเหมือนช่วงที่มีการทำ QE ครั้งก่อนๆ เนื่องจากนักลงทุนส่วนมาก ดูจะเลือกลงทุนในฝั่ง Developed Asia ก่อน ขณะที่เงินลงทุนใน Emerging Markets ก็ตกไปอยู่ที่ฝั่งละตินอเมริกาและยุโรปแทนที่ฝั่งเอเชีย

?ในช่วงสัปดาห์นี้ ถ้าไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามาจึงมีความเป็นไปได้ที่จะเห็นเงินบาทแกว่งตัวในกรอบแคบ?  ด?ร.จิ?ติ?พล?กล่าว?