ผู้เขียน หัวข้อ: ทำไมจึงจำกัดการส่งออกยางเหลือแค่ 50% เพียง 3 ชนิด คือ ยางแผ่นรมควัน ยางคอมปาวด์ และยางแท่ง STR20 แต่ไม่จำกัดการส่งออกน้ำ  (อ่าน 916 ครั้ง)

Rakayang.Com

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 82667
    • ดูรายละเอียด

ทำไมจึงจำกัดการส่งออกยางเหลือแค่ 50% เพียง 3 ชนิด คือ ยางแผ่นรมควัน ยางคอมปาวด์ และยางแท่ง STR20 แต่ไม่จำกัดการส่งออกน้ำยางข้นและยางก้อนถ้วย



สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 11 มกราคม 2561 12:09:04 น.
 
นายทศพล ขวัญรอด ประธานภาคีเครือข่ายเกษตรกรชาวสวนยางและปาล์มน้ำมันแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า อยากให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องเข้าไปตรวจสอบหลังมีกระแสข่าวว่า มีผู้บริหารการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) ไปมีส่วนได้ส่วนเสียกับบริษัทผลิตน้ำยางข้นแห่งหนึ่งที่ตั้งอยู่ในจังหวัดสงขลา และต้องการให้ตรวจสอบว่าทำไมจึงจำกัดการส่งออกยางเหลือแค่ 50% เพียง 3 ชนิด คือ ยางแผ่นรมควัน ยางคอมปาวด์ และยางแท่ง STR20 แต่ไม่จำกัดการส่งออกน้ำยางข้นและยางก้อนถ้วย


"มีผู้บริหารระดับสูงของ กยท.ไปนั่งเป็นที่ปรึกษาของโรงงานน้ำยางข้นและทำไมจำกัดการส่งออกยางแผ่นรมควัน ยางคอมปาวด์และยางแท่ง แต่ไม่จำกัดการส่งออกน้ำยางข้นกับยางก้อนถ้วย เหมือนเปิดช่องให้การส่งออกน้ำยางข้นกับยางก้อนถ้วยซึ่งเป็นวัตถุดิบไปให้ต่างประเทศแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่าและทำเป็นผลิตภัณฑ์ส่งกลับมาขายเราในราคาแพงๆ แทนที่เราจะแปรรูปเพิ่มมูลค่าภายในประเทศก่อนส่งออก" นายทศพล กล่าวผ่านรายการโทรทัศน์
 
ทั้งนี้ เกษตรกรทุกเครือข่าย ได้ยื่นหนังสือให้รัฐบาลจับมือกับบริษัทร่วมทุนยางพาราระหว่างประเทศ เพื่อจำกัดการส่งออกยางทุกชนิด
 
"ที่สำคัญสิ่งที่ทำให้ราคายางไม่ขึ้นเลย...ประมาณเดือนครึ่งแล้วตั้งแต่รัฐบาลชุดใหม่ออกนโยบายมาและขอเวลา 3 เดือน นี่ผ่านมาครึ่งทางแล้ว อยากถามว่านโยบายการแก้ไขที่ออกมามันตอบโจทย์หรือยัง เพราะเราคัดค้านไปแล้วโดยเฉพาะการที่ให้โรงงานกู้ 2 หมื่นล้านบาทโดยรัฐชดเชยดอกเบี้ย 3% เพื่อให้พ่อค้าดูดซับยางแท่งเข้าเก็บในสต็อก วันนี้ราคายางขยับขึ้นหรือยัง ได้ผลหรือยัง...แทนที่จะมาเสริมความเข้มแข็งให้สถาบันเกษตรกร กลุ่มเกษตรกร แต่กลับไปสร้างมั่นคงให้โรงงาน สุดท้ายเงินที่ให้โรงงานกู้เพื่อดูดซับยางออกจากตลาด แต่ราคาขยับขึ้นหรือยัง เพราะฉะนั้นการที่ไม่จำกัดการส่งออกทุกชั้นยางทำให้น้ำยางข้นและยางก้อนถ้วยไหลออกจากประเทศ"นายทศพล กล่าว
 
นายทศพล กล่าวต่อว่า ต้องการให้มีการตรวจสอบและอุดรูรั่ว และอยากให้เร่งดำเนินการก่อนจะถึงฤดูการปิดกรีด ซึ่งภาคเหนือและอีสาน ฤดูปิดกรีดจะอยู่ระหว่างกลางเดือนมกราคมเป็นต้นไปและจะกลับมากรีดอีกครั้งประมาณเดือนพฤษภาคม ส่วนภาคใต้เริ่มปิดกรีดมีนาคมและเปิดกรีดปลายพฤษภาคมจนถึงต้นเดือนมิถุนายน
 
ดังนั้น ที่รัฐมนตรีขอเวลาเอาไว้ 3 เดือน จึงไม่มีประโยชน์เพราะพอครบ 3 เดือนก็ตรงกับช่วงปิดกรีด ราคายางขยับขึ้นก็ไม่มีประโยชน์ และช่วงปิดกรีดราคายางก็ขยับขึ้นโดยธรรมชาติอยู่แล้วแต่ชาวสวนไม่ได้ประโยชน์เพราะไม่มีของจะขาย เพราะฉะนั้นการที่รัฐบาลปล่อย 2 หมื่นล้านบาทให้โรงงานซื้อเก็บเข้าสต็อก ผลประโยชน์จึงตกอยู่ที่พ่อค้า
 
"การที่รัฐบาลให้งบประมาณโรงงานมากว้านซื้อยางในราคา 40 บาท/กก. พอถึงฤดูปิดกรีดราคาขยับขึ้น โรงงานจะทำการส่งออกราคายางน่าจะขยับขึ้นไปถึง 50 บาท/กก. โรงงานก็ได้ประโยชน์อีก"นายทศพล กล่าว



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 11, 2018, 10:18:41 PM โดย Rakayang.Com »