ผู้เขียน หัวข้อ: ยางร้อน STA ชูราคาหุ้น 55บาท โควิดมา STGT ฟู131บ.  (อ่าน 980 ครั้ง)

Rakayang.Com

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 82597
    • ดูรายละเอียด
ยางร้อนSTAชู55บาท โควิดมาSTGTฟู131บ.

ทริสฯ เพิ่มอันดับเครดิตองค์กร-หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน "STA" เป็น A- จาก BBB+

STA เก็งกำไรฝั่ง Long ตามทิศทางราคายางขาขึ้น




ดูข้อมูลบริษัท
ทันหุ้น-สู้โควิด- ฤดูหนาวทำสถานการณ์โควิด-19 ลุกลาม ผู้ติดเชื้อสหรัฐทำลายสถิติ ยุโรประวังเพิ่ม หวั่นไบเดนชนะเลือกตั้งสั่งล็อกดาวน์ ดึงเศรษฐกิจ ด้านนักวิเคราะห์ชี้ STGT ? STA ยังเด่นอีก 2 ปี แนวโน้มราคาถุงมือยางยังขึ้นไม่หยุด มีโอกาสเห็น 90 ดอลลาร์ต่อพันชิ้น หรือ 3 บาทต่อชิ้นเฉลี่ยปีหน้า อัพเป้าราคาเพิ่ม STGT แตะ 131.50 บาท ส่วน STA ยางฟื้นเป้า 55 บาท ลุ้นปันผลระหว่างกาล

นายสรพล วีระเมธีกุล ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย  เปิดเผยว่า สถานการณ์โควิด-19 ขณะนี้กลับมาน่ากังวลอีกระลอกหลังจากที่ประเทศสหรัฐอมเริกา มีจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันที่เพิ่มขึ้นทำลายสถิติ จากการเข้าสู่ช่วงหน้าหนาวที่จะมีการกระจายของผู้ติดเชื้อที่ง่ายกว่า ขณะที่ ยุโรป หลายประเทศเริ่มกลับมาล็อกดาวน์ มากขึ้น นอกจากนี้ยังมีความกังวลเพิ่มเติมในแง่ของเศรษฐกิจ หาก ?โจ ไบเดน? ชนะการเลือกตั้งและขึ้นดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอาจจะทำให้อเมริกากลับมาล็อกดาวน์ และมีความเข้มงวดเพิ่มขึ้นในการดูแลโควิด-19 เนื่องจากที่ผ่านมา ?ไบเดน? ได้โจมตีการแผนรับมือโควิดของ ทรัมป์ ซึ่งจากโพล์ขณะนี้ ไบเดน มีโอกาสชนะสูงอยู่

@ถุงมือยางปรับราคาขึ้น

นางสาวหมิ่นหลิง หวัง นักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย ได้ออกบทวิเคราะห์ประเมินว่า บริษัท ศรีตรังโกลฟส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ STGT จะได้รับผลดีจาก สถานการณ์โควิด-19ที่กลับมาลุกลามทำสถิติใหม่ ออเดอร์ล่วงหน้าของถุงมือยางที่ถึงสิ้นปี 2565 และการปรับเพิ่มขึ้นราคาสินค้าบางรายการของผู้ประกอบการทั้ง STGT และ ผู้ประกอบการถุงมือยางเบอร์ 1 ของโลก อย่าง TOPGLOVE ทำให้ฝ่ายวิจัยได้ปรับเป้าหมาย STGT ขึ้น

ทั้งนี้บทวิเคราะห์ระบุว่า STGT จะรายงานกำไรไตรมาส 3/2563 คาดกำไรหลักอยู่ที่ 3.96 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 4,582% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) และ เพิ่มขึ้น 254% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน (QoQ) จากราคาขายถุงมือยางเฉลี่ย (ASP) ที่สูงขึ้น 79.6% YoY และ 70.2% QoQ เป็น 35.3 เหรียญสหรัฐต่อ 1,000 ชิ้น หรือ ประมาณ 1.10 บาทต่อชิ้น ประเมินรายได้สำหรับไตรมาสนี้ที่ 8.34 พันล้านบาทหรือเติบโต 171% YoY และ 68.3% QoQ ส่วนอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) จะขึ้นแตะ 54.5% ตามราคาขาย แม้จะมีต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้น (ต่อ 1,000 ชิ้น) ที่ 15.3% QoQ

สำหรับกำไรหลักในช่วง 9 เดือนแรกปีนี้ คิดเป็น 47.1% ของประมาณการกำไรหลักปี 2563 ที่ 11,740 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 1,993% (YoY) ดังนั้นจึงได้ทบทวนกำไรหลักปี 2563-2565 โดนปรับเพิ่มขึ้น 26.6% , 191% , 194% ตามลำดับ ด้วยสาเหตุ 1) ปริมาณสั่งซื้อถุงมือยางได้ขยายไปถึงกลางปี ??2565 สำหรับถุงมือ NBR และถึงธันวาคม 2565 สำหรับถุงมือ NR 2) ราคาขายปลีกของสินค้าสูงขึ้น และ 3) จำนวนผู้ป่วย COVID-19 พุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ในหลายประเทศ นอกจากนี้ยังมีการตั้งสมมติฐานราคาขายถุงมือยางเฉลี่ย (ASP) ใหม่ สำหรับปี 2563-2565 คือ 31.7 / 61.2 / 47.6 เหรียญสหรัฐต่อ 1,000 ชิ้น โดยเฉพาะถุงมือยางไนไตร (NBR) ที่จะมีราคาเฉลี่ยสูงถึง 90 เหรียญสหรัฐต่อ 1,000 ชิ้น หรือ  3 บาทต่อชิ้น ในปีหน้า

@เป้าSTGTแตะ131.5บ.

บทวิเคราะห์ระบุด้วยว่า อุปสงค์ถุงมือยางจะยังเกินอุปทานอย่างน้อยอีกสองปี แม้ว่าผู้ผลิตถุงมือยางทั้ง 5 จะมีแผนการขยายกำลังการผลิต ปรับเพิ่มราคาเป้าหมายเป็น 131.5 บาทจาก 109 บาท คำนวนบนพีอีที่17.8 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยล่วงหน้า 7 ปีของอุตสาหกรรมที่ 21.3 เท่า นอกจากนี้ยังคาดว่า STGT จะจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลหลังประกาศผลประกอบการไตรมาส 3/2563 สมมติฐานอัตราการจ่ายเงินที่ 50%

บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย ยังได้ปรับเป้า บริษัท ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) หรือ STA ขึ้นมาแตะ 55 บาท ด้วยเช่นกัน โดยประเมินว่า STA จะมีกำไรหลักในไตรมาส 3/2563 ที่ 2.23 พันล้านบาทเพิ่มขึ้น 7,795%YoY และ 88.2% QoQ มาจาก ธุรกิจต้นน้ำถุงมือยาง ที่มีสัดส่วนการถือหุ้นที่ 56% ส่วนธุรกิจกลางน้ำ คาดว่าปริมาณการขายยางธรรมชาติ (NR) จะลดลงลดลง 8.2% YoY แต่เพิ่มขึ้น 4.4% QoQ เนื่องจากอุตสาหกรรมยานยนต์และยางรถยนต์ฟื้นตัว อย่างไรก็ตามราคาขายเฉลี่ยจะลดลงเนื่องเป็นราคาที่ตกลงกันในช่วงราคายางอยู่ในระดับต่ำไตรมาส 2/2563 โดย STA จะมีผลประกอบการที่เติบโตแข็งแกร่งไตรมาส 3 และอนาคต ขณะที่ GPM ที่กว้างขึ้น จากการเพิ่มขึ้นของราคาถุงมือยาง และ ราคาขายที่สูงขึ้นของผลิตภัณฑ์ยางขั้นกลาง (TSR20, RSS3 และน้ำยางข้น)

@ เป้า STA แตะ 55 บาท

ปรับประมาณการ 2563-2565 ขึ้น 20.7% / 160% / 138% เพื่อรวมราคาขายเฉลี่ยที่สูงขึ้นของธุรกิจถุงมือยาง ขณะที่อุตสาหกรรมยางรถยนต์ได้กลับสู่ภาวะปกติในเดือนสิงหาคม ซึ่งอุตสาหกรรมยางล้อนับเป็นลูกค้าหลักของธุรกิจยางธรรมชาติขั้นกลางของ STA ความต้องการใช้ยางเพิ่มขึ้นเนื่องจากยอดขายยางรถยนต์ในประเทศและส่งออก ในเดือนสิงหาคมอยู่ที่ 9.1 ล้านหน่วย เพิ่มขึ้น + 10.5% MoM แต่ลดลง -0.6% YoY ซึ่งทรงตัวเมื่อเทียบกับยาง 8.2 ล้านหน่วย ในเดือนกรกฎาคม (-11% YoY) และ ยาง 6.7 ล้านหน่วย ในเดือนมิถุนายน (-28%YoY) เราคาดว่าปริมาณการขายผลิตภัณฑ์กลางน้ำของ STA จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง QoQ เนื่องจากอุตสาหกรรมยานยนต์ยังคงฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง ปรับราคาเป้าหมาย STA เป็น 55 บาท การประเมินมูลค่าตาม SOTP ประกอบด้วย 41 บาทสำหรับธุรกิจถุงมือที่มี PE 17.8 เท่า โดยมีอัตราคิดลดการถือครอง 40% และ 14 บาทสำหรับธุรกิจยางธรรมชาติบน PE 10 เท่า

รายงาน : เฉลิมชัย ศิรินันทวิทยา

บรรณาธิการ : เฉลิมชัย ศิรินันทวิทยา
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 28, 2020, 10:04:56 AM โดย Rakayang.Com »