ผู้ถือหุ้น TEGH อนุมัติจ่ายปันผลปี 66 หุ้นละ 0.10 บ. แย้มปี 67 ผลงานสดใสรับอานิสงส์ EUDR ครึ่งปีหลัง ลุยส่งมอบยางแท่งลูกค้ายุโรป - เอเชีย
ผู้ถือหุ้น TEGH พร้อมใจอนุมัติจ่ายปันผลเป็นเงินสดหุ้นละ 0.10 บาท กำหนดจ่าย 24 พฤษภาคมนี้ แม่ทัพหญิง "สินีนุช โกกนุทาภรณ์" แย้มปี 67 ผลงานสดใสรับอานิสงส์การบังคับใช้กฎหมาย EUDR ระบุ มีกลุ่มลูกค้าขอเจรจาทำสัญญาซื้อขายยางแท่งเกรด EUDR แล้วทั้งในโซนยุโรปและเอเชีย พร้อมเดินหน้าส่งมอบในช่วงครึ่งหลังปีนี้
นางสาวสินีนุช โกกนุทาภรณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยอีสเทิร์น กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TEGH ผู้ผลิตและจำหน่ายยางธรรมชาติ และน้ำมันปาล์มดิบรายใหญ่ในภาคตะวันออก และผู้นำด้านการผลิตพลังงานทดแทนและรับบริหารจัดการกากอินทรีย์แบบครบวงจร ที่นำพลังงานสะอาดมาใช้ในกระบวนการผลิต เปิดเผยว่า ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2567 ได้มีมติสำคัญ คือ อนุมัติให้จ่ายเงินปันผลเป็นเงินสด จากกำไรสะสมและกำไรสุทธิจากผลการดำเนินงานปี 2566 ในอัตราหุ้นละ 0.10 บาท โดยกำหนดวันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผล (Record Date) ในวันที่ 20 มีนาคม 2567 และจ่ายเงินปันผลวันที่ 24 พฤษภาคม 2567
ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานงวดปี 2566 ที่ผ่านมา กลุ่มบริษัทฯ มีรายได้ 12,143 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 215 ล้านบาท โดยมีรายได้จากการขายสินค้าและการให้บริการ จำนวน 12,143 ล้านบาท เป็นรายได้จากธุรกิจผลิตและจำหน่ายยางธรรมชาติ จำนวน 10,093 ล้านบาท, ธุรกิจผลิตและจำหน่ายน้ำมันปาล์มดิบ จำนวน 1,907 ล้านบาท และธุรกิจพลังงานทดแทนและบริหารจัดการกากอินทรีย์ จำนวน 133 ล้านบาท
สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานในปี 2567 มีทิศทางที่ดีต่อเนื่องจากปีก่อน โดยได้รับผลดีจากการบังคับใช้กฎหมาย EUDR โดยมีกลุ่มลูกค้าขอเจรจาทำสัญญาซื้อขายยางแท่งเกรด EUDR แล้วทั้งในโซนยุโรปและเอเชีย โดยบริษัทฯ จะเริ่มส่งมอบในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2567 และคาดว่าธุรกิจผลิตและจำหน่ายยางแท่งในปีนี้ มีโอกาสที่ยอดขายจะทำสถิติสูงสุดใหม่ (All Time High) จากปริมาณขายที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 20% และราคายางธรรมชาติปรับตัวสูงขึ้น
ขณะที่ธุรกิจผลิตและจำหน่ายน้ำมันปาล์มดิบ มีแนวโน้มที่ดีเช่นเดียวกัน หลังปรับปรุงกระบวนการผลิต ซ่อมบำรุงเครื่องจักร ติดตั้งหม้อต้มไอน้ำ (Boiler) ลูกใหม่ รวมทั้งแผนติดตั้งหม้อนึ่งปาล์ม (Sterilizer) เพิ่มเติม ที่จะทำให้กำลังการผลิตน้ำมันปาล์มดิบเพิ่มขึ้นอีก 50% ภายในปี 2569 ส่วนธุรกิจพลังงานทดแทนและบริหารจัดการกากอินทรีย์ จะเริ่มรับรู้รายได้จากการส่งมอบก๊าซชีวภาพตามสัญญาระยะยาว ภายในไตรมาส 4 นี้ และจะเริ่มก่อสร้างโครงการขยายกำลังการผลิตก๊าซชีวภาพเฟสที่ 2 โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2568