วิเคราะห์ปัจจัยที่มีผลต่อราคายาง วันพุธที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2557

[Rakayang.Com]

วิเคราะห์ปัจจัยที่มีผลต่อราคายาง

วันพุธที่  19  มีนาคม พ.ศ. 2557

ปัจจัย[/t][/t] [/t] วิเคราะห์ 1. สภาพภูมิอากาศ - บริเวณความกดอากาศต่ำ เนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนอง และอาจมีลูกเห็บตกบางพื้นที่ ส่วนภาคใต้มีเมฆบางส่วน อากาศร้อนในตอนกลางวัน และมีฝนตกบางแห่งร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณตอนล่างของภาค 2. การใช้ยาง - สมาคมผู้ผลิตรถยนต์ยุโรป เปิดเผยว่า ยอดขายรถใหม่เพิ่มขึ้น ร้อยละ 7.6 ในเดือน กุมภาพันธ์ แตะ 894,730 คัน จากระดับ 831,371 คัน ในปีก่อน ส่งผลให้ยอดขายรถยนต์ในช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้เพิ่มขึ้น ร้อยละ 6.3 แตะ 1.86 ล้านคัน  เนื่องจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและการปรับลดราคาช่วยกระตุ้นความต้องการรถยนต์รุ่นใหม่ ๆ - องค์การศึกษาเรื่องยางระหว่างประเทศ (IRSG) เปิดเผยว่า ผลผลิตยางโลกปี 2556 มีปริมาณ 11.7 ล้านตัน ในขณะที่ความต้องการใช้ยางโลกมีปริมาณ 11.3 ล้านตัน ส่งผลให้มีผลผลิตส่วนเกิน 0.4 ล้านตัน  นอกจากนี้ ได้มีการคาดการณ์ว่าการผลิตยางโลกปี 2557 จะอยู่ที่ 12.1 ล้านตัน ในขณะที่ความต้องการใช้ยางโลกจะอยู่ที่ 11.9 ล้านตัน และผลผลิตยางส่วนเกินจะอยู่ที่ 0.2 ล้านตัน ส่งผลให้ราคายางพาราในตลาดโลกอาจจะปรับตัวลดลงในปี 2557 ต่อเนื่องจากปี 2556 3. เศรษฐกิจโลก - กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.1 ในเดือน กุมภาพันธ์ ซึ่งเพิ่มขึ้นในอัตราเดียวกับเดือน มกราคม - ZEW เปิดเผยว่าความเชื่อมั่นนักลงทุนที่มีต่อเศรษฐกิจเยอรมนีในเดือน มีนาคม ลดลงแตะ 46.6 จากระดับเดือน กุมภาพันธ์ ที่ 55.7 เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ความไม่แน่นอนทางการเมืองในยูเครน - องค์การเพื่อความร่วมมือและพัฒนาเศรษฐกิจ (OECD) เปิดเผยว่า GDP ของกลุ่มประเทศ G20 ขยายตัวร้อยละ 2.8 ในปี 2556 โดยลดลงจากระดับ ร้อยละ 2.9 ในปีก่อนหน้านี้ - กระทรวงพาณิชย์จีน เปิดเผยว่า ยอดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) มายังจีนแผ่นดินใหญ่ในเดือน มกราคม ? กุมภาพันธ์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 10.44 เมื่อเทียบรายปี แตะ 1.93 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ - กระทรวงการคลังญี่ปุ่น เปิดเผยว่า ญี่ปุ่นมียอดขาดดุลการค้าเดือน กุมภาพันธ์ ทั้งสิ้น 8.003 แสนล้านเยน ซึ่งเป็นการขาดดุลการค้าติดต่อกัน 20 เดือน โดยส่งออกเดือน กุมภาพันธ์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 9.8 ขณะที่ยอดนำเข้าเพิ่ม ร้อยละ 9.0 เมื่อเทียบเป็นรายปี 4. อัตราแลกเปลี่ยน - เงินบาทอยู่ที่ 32.12 บาทต่อดอลล่าร์สหรัฐ แข็งค่า 0.07 บาทต่อดอลล่าร์สหรัฐ และเงินเยนอยู่ที่ 101.36 เยนต่อดอลล่าร์สหรัฐ แข็งค่า 0.38 เยนต่อดอลล่าร์สหรัฐ 5. ราคาน้ำมัน - สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาด Nymex ส่งมอบเดือน เมษายน ปิดตลาดที่  99.7 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 1.62 ดอลลาร์/บาร์เรล  หลังจากประธานาธิบดีแห่งรัสเซียได้ลงนามในสนธิสัญญาเพื่อผนวกสาธารณรัฐไครเมียเข้าเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของรัสเซีย 6. การเก็งกำไร - ราคา TOCOM ส่งมอบเดือน เมษายน 2557 อยู่ที่ 240.8 เยนต่อกิโลกรัม ไม่เปลี่ยนแปลง และส่งมอบเดือน สิงหาคม 2557 อยู่ที่ 235.4 เยนต่อกิโลกรัม เพิ่มขึ้น 1.8 เยนต่อกิโลกรัม - ราคาตลาด SICOM เปิดตลาดที่ 228.9 เซนต์สหรัฐต่อกิโลกรัม ลดลง 0.6 เซนต์สหรัฐต่อกิโลกรัม 7. ข่าว - กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เปิดเผยว่า ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านลดลงร้อยละ 0.2 มาอยู่ที่ 907,000 ยูนิต ในเดือน กุมภาพันธ์ จากระดับ 909,000 ในเดือน มกราคม เนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นผิดปกติได้ส่งผลให้การเริ่มโครงการก่อสร้างใหม่ ๆ หยุดชะงัก - ผลการสำรวจนักวิเคราะห์คาดว่าคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ จะประกาศลดวงเงินในโครงการดังกล่าวอย่างต่อเนื่องในการประชุมทุกครั้ง และคาดว่าท้ายที่สุดจะประกาศยุติการซื้อพันธบัตรในการประชุมวันที่ 28-29 ตุลาคม ปีนี้ 8. ข้อคิดเห็นของ ผู้ประกอบการ - ราคายางปรับตัวสูงขึ้น เพราะผู้ประกอบการหลายรายมีความพยายามผลักดันราคายางให้สูงขึ้น เพื่อจะได้ขายยางในโรงงานที่มีอยู่จำนวนมากก่อนที่จะเริ่มเปิดกรีดยางรอบใหม่ แนวโน้ม  ราคายางมีแนวโน้มทรงตัวหรือปรับตัวสูงขึ้น เพราะมีแรงหนุนจากปัจจัยพื้นฐานเกี่ยวกับผลผลิตยางที่ลดลงตามฤดูกาล และภาวะภัยแล้งที่เริ่มชัดเจนมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจจีนหลังจากนายกรัฐมนตรีจีนออกมาระบุว่าเศรษฐกิจจีนในปีนี้มีโอกาสจะชะลอตัวลง และสต๊อคยางที่มีอยู่จำนวนมาก รวมทั้งเงินเยนและเงินบาทแข็งค่า ซึ่งเป็นปัจจัยกดดันให้ราคายางเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบจำกัด คณะทำงานวิเคราะห์สถานการณ์ตลาดและราคายาง สำนักงานตลาดกลางยางพาราสงขลา

[/td][/tr][/table]