ข้อความโดย: Rakayang.Com
« เมื่อ: มิถุนายน 27, 2017, 09:16:14 AM »"บิ๊กฉัตร"เปิดทางบริษัทจีนรายใหญ่ประมูลยาง
"บิ๊กฉัตร"เปิดทางบริษัทจีนรายใหญ่ประมูลยาง เพิ่มผู้ซื้อยางหวังดันราคาไทยให้สูงขึ้น "ธีธัช"แจงเรียก2บริษัทเคยผิดสัญญาไทยเข้าชิงประมูลเพื่อเพิ่มผู้ซื้อ บอกคดีจบไปแล้ว
จันทร์ที่ 26 มิถุนายน 2560 เวลา 18.13 น.
เมื่อวันที่ 26 มิ.ย. พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า จากกรณีที่ทางการยางแห่งประเทศไทย(กยท.)เรียก ผู้ประกอบการส่งออกยางจากประเทศจีน เข้าหารือ 2 บริษัท คือ ที่เคยผิดสัญญาส่งมอบยางพารากับกยท. นั้น ถือเป็นการหาตลาดการส่งออกยาง ให้มีการเพิ่มช่องทางการส่งออกไปยังต่างประเทศมากขึ้นเท่านั้น และการที่ทั้ง 2 บริษัทเคยซื้อยางจากไทย และเคยทำผิดสัญญาในการรับมอง ก็ถือเป็นการผิดสัญญาในรอบก่อหน้า และไทยไม่มีการขึ้นบัญชีดำ(แบล็คลิสต์) 2 บริษัท จึงยังสามารถเข้ามาซื้อยางพารากับ กยท.ได้เหมือนเดิม อย่างไรก็ตามบริษัทที่ผิดสัญญาก็จะมีโทษตามที่ระบุในสัญญานั้นๆ ซึ่งต้องดูกติกาหรือเงื่อนไข ทั้งนี้เป็นหน้าที่ของกยท.ในการตรวจสอบ
รมว.เกษตรฯกล่าวอีกว่า วันที่ 28 มิถุนายน จะเรียกประชุม หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาหารือทั้งหมด เพื่อดูว่ามาตรการแก้ไขยางพาราว่าเดินหน้าไปขนาดไหนจะต้องเพิ่มเติมอย่างไรในการช่วยเหลือเกษตรกร และก็จะพูดคุยกับหน่วยงานที่ต้องการใช้ยาง เบื้องต้นได้สั่งการให้นายเลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ รองปลัดกระทรวงเษตรและสหกรณ์ เข้าไปดูแลเรื่องยางพารา เพื่อที่จะทำให้เกิดการใช้ยางพาราในประเทศให้ได้มากที่สุด
ด้านนายธีธัช สุขสะอาด ผู้ว่าการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างสรุปปริมาณความต้องการยางของผู้ซื้อ โดยยางที่ 2 บริษัทของประเทศจีนต้องการ เป็นยางแท่ง และยางแผ่นรมควัน ซึ่งคาดว่าจะสามารถซื้อขายและส่งมอบยางล็อตแรกในเดือน ก.ค.นี้ โดยบอกว่าในตลาดยาง ไทยไม่มีใครแล้ว จึงต้องเชิญ 2 บริษัทผู้ซื้อที่ในอดีตผิดนัดสัญญาซื้อขายและส่งมอบยางพารากับ กยท.ไป อย่างน้อยถือเป็นการเพิ่มผู้ซื้ออีกครั้ง การเจรจาซื้อขายยางรอบนี้ ไม่เกี่ยวกับสัญญาเดิม สัญญาเดิมไทยมีการฟ้องร้องไปแล้ว แต่ก็จบลงแล้ว ในเรื่องการซื้อขายรอบใหม่เป็นเรื่องใหม่ มันเป็นธุรกิจ
นายธีธัช กล่าวอีกว่า สำหรับการเจรจาระหว่างผู้ผลิตยางพารารายใหญ่ของโลก คือ ไทย อินโดนิเซีย และมาเลเซีย เพื่อลดการส่งออกทั้ง 2 ประเทศ คือ มาเลเซีย และอินโดนิเซีย ราคายางพาราไม่ได้ตกลงมาจนทำให้เกษตรชาวสวนของ 2 ประเทศ เดือดร้อน ไม่เหมือนกับไทย ที่มีชาวสวนยางออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลช่วยแก้ปัญหาราคายางพาราตกต่ำมาเป็นระยะ ในช่วงก่อนที่ผ่านมาที่ราคายางในไทย ตกลงเร็วและแรง ซึ่งเมื่อราคายางใน 2 ประเทศ คือ อินโดนิเซีย และมาเลเซีย ไม่ได้ตกต่ำ ผู้ผลิต 3 ประเทศจึงไม่เกิดขึ้น และกรณีที่ 5 เสือส่งออก หรือบริษัทผู้ส่งออกรายใหญ่ของไทย กดราคายางพารานั้นขณะนี้ยอมรับไม่มีหลักฐานจะไประบุว่าใครทำให้ราคายางพาราลดต่ำลงจนเกษตรเดือดร้อน
"บิ๊กฉัตร"เปิดทางบริษัทจีนรายใหญ่ประมูลยาง เพิ่มผู้ซื้อยางหวังดันราคาไทยให้สูงขึ้น "ธีธัช"แจงเรียก2บริษัทเคยผิดสัญญาไทยเข้าชิงประมูลเพื่อเพิ่มผู้ซื้อ บอกคดีจบไปแล้ว
จันทร์ที่ 26 มิถุนายน 2560 เวลา 18.13 น.
เมื่อวันที่ 26 มิ.ย. พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า จากกรณีที่ทางการยางแห่งประเทศไทย(กยท.)เรียก ผู้ประกอบการส่งออกยางจากประเทศจีน เข้าหารือ 2 บริษัท คือ ที่เคยผิดสัญญาส่งมอบยางพารากับกยท. นั้น ถือเป็นการหาตลาดการส่งออกยาง ให้มีการเพิ่มช่องทางการส่งออกไปยังต่างประเทศมากขึ้นเท่านั้น และการที่ทั้ง 2 บริษัทเคยซื้อยางจากไทย และเคยทำผิดสัญญาในการรับมอง ก็ถือเป็นการผิดสัญญาในรอบก่อหน้า และไทยไม่มีการขึ้นบัญชีดำ(แบล็คลิสต์) 2 บริษัท จึงยังสามารถเข้ามาซื้อยางพารากับ กยท.ได้เหมือนเดิม อย่างไรก็ตามบริษัทที่ผิดสัญญาก็จะมีโทษตามที่ระบุในสัญญานั้นๆ ซึ่งต้องดูกติกาหรือเงื่อนไข ทั้งนี้เป็นหน้าที่ของกยท.ในการตรวจสอบ
รมว.เกษตรฯกล่าวอีกว่า วันที่ 28 มิถุนายน จะเรียกประชุม หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาหารือทั้งหมด เพื่อดูว่ามาตรการแก้ไขยางพาราว่าเดินหน้าไปขนาดไหนจะต้องเพิ่มเติมอย่างไรในการช่วยเหลือเกษตรกร และก็จะพูดคุยกับหน่วยงานที่ต้องการใช้ยาง เบื้องต้นได้สั่งการให้นายเลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ รองปลัดกระทรวงเษตรและสหกรณ์ เข้าไปดูแลเรื่องยางพารา เพื่อที่จะทำให้เกิดการใช้ยางพาราในประเทศให้ได้มากที่สุด
ด้านนายธีธัช สุขสะอาด ผู้ว่าการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างสรุปปริมาณความต้องการยางของผู้ซื้อ โดยยางที่ 2 บริษัทของประเทศจีนต้องการ เป็นยางแท่ง และยางแผ่นรมควัน ซึ่งคาดว่าจะสามารถซื้อขายและส่งมอบยางล็อตแรกในเดือน ก.ค.นี้ โดยบอกว่าในตลาดยาง ไทยไม่มีใครแล้ว จึงต้องเชิญ 2 บริษัทผู้ซื้อที่ในอดีตผิดนัดสัญญาซื้อขายและส่งมอบยางพารากับ กยท.ไป อย่างน้อยถือเป็นการเพิ่มผู้ซื้ออีกครั้ง การเจรจาซื้อขายยางรอบนี้ ไม่เกี่ยวกับสัญญาเดิม สัญญาเดิมไทยมีการฟ้องร้องไปแล้ว แต่ก็จบลงแล้ว ในเรื่องการซื้อขายรอบใหม่เป็นเรื่องใหม่ มันเป็นธุรกิจ
นายธีธัช กล่าวอีกว่า สำหรับการเจรจาระหว่างผู้ผลิตยางพารารายใหญ่ของโลก คือ ไทย อินโดนิเซีย และมาเลเซีย เพื่อลดการส่งออกทั้ง 2 ประเทศ คือ มาเลเซีย และอินโดนิเซีย ราคายางพาราไม่ได้ตกลงมาจนทำให้เกษตรชาวสวนของ 2 ประเทศ เดือดร้อน ไม่เหมือนกับไทย ที่มีชาวสวนยางออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลช่วยแก้ปัญหาราคายางพาราตกต่ำมาเป็นระยะ ในช่วงก่อนที่ผ่านมาที่ราคายางในไทย ตกลงเร็วและแรง ซึ่งเมื่อราคายางใน 2 ประเทศ คือ อินโดนิเซีย และมาเลเซีย ไม่ได้ตกต่ำ ผู้ผลิต 3 ประเทศจึงไม่เกิดขึ้น และกรณีที่ 5 เสือส่งออก หรือบริษัทผู้ส่งออกรายใหญ่ของไทย กดราคายางพารานั้นขณะนี้ยอมรับไม่มีหลักฐานจะไประบุว่าใครทำให้ราคายางพาราลดต่ำลงจนเกษตรเดือดร้อน
อ้างถึง
ที่มา เดลินิวส์ https://www.dailynews.co.th/politics/582015