ผู้เขียน หัวข้อ: ดาวโจนส์ปิดบวก 6.44 จุด เมินข่าว "ทรัมป์" ค้านแผนยกเลิกภาษีนำเข้าสินค้าจีน  (อ่าน 316 ครั้ง)

Rakayang.Com

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 82472
    • ดูรายละเอียด
ดาวโจนส์ปิดบวก 6.44 จุด เมินข่าว "ทรัมป์" ค้านแผนยกเลิกภาษีนำเข้าสินค้าจีน

9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562 06:14 น.            ?สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)
 ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (8 พ.ย.) โดยดัชนีดาวโจนส์, S&P 500 และ Nasdaq ปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากนักลงทุนยังคงเข้าซื้อหุ้นในตลาด แม้มีรายงานข่าวว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐไม่เห็นด้วยกับแผนการยกเลิกภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน ซึ่งทำให้ตลาดไม่แน่ใจเกี่ยวกับความคืบหน้าในการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนก็ตาม ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 27,681.24 จุด เพิ่มขึ้น 6.44 จุด หรือ +0.02%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,093.08 จุด เพิ่มขึ้น 7.90 จุด หรือ +0.26% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 8,475.31 จุด เพิ่มขึ้น 40.80 จุด หรือ +0.48%         
 
 ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวขึ้น แม้นักลงทุนกังวลกับความคืบหน้าในการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ระบุว่า เขาไม่เห็นด้วยกับแผนการยกเลิกภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน ซึ่งความเห็นดังกล่าวสอดคล้องกับแถลงการณ์ของนายปีเตอร์ นาวาร์โร ที่ปรึกษาการค้าของทำเนียบขาว รวมทั้งแหล่งข่าวอื่นๆ ซึ่งระบุว่า แผนการยกเลิกภาษีนำเข้าสินค้าจีนได้ถูกคัดค้านจากภายในทำเนียบขาว
ตลาดยังได้แรงหนุนจากหุ้นวอลท์ ดิสนีย์ ซึ่งพุ่งขึ้น 3.56% หลังการเปิดเผยผลประกอบการที่สดใส โดยวอลท์ ดิสนีย์ เปิดเผยกำไร และรายได้สูงกว่าคาดในช่วงเดือนก.ค.-ก.ย. ซึ่งเป็นไตรมาส 4 ตามปีงบการเงินของบริษัท โดยบริษัทมีกำไร 1.07 ดอลลาร์/หุ้น สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 0.95 ดอลลาร์/หุ้น ขณะที่มีรายได้ที่ระดับ 1.910 หมื่นล้านดอลลาร์ สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 1.904 หมื่นล้านดอลลาร์
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีช่วยหนุนตลาดด้วย โดยหุ้นไมโครซอฟท์ บวก 1.18% และหุ้นอัลฟาเบทซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกูเกิล เพิ่มขึ้น 0.16%, หุ้นอินเทล ปรับตัวขึ้น 0.13% และหุ้นบรอดคอม บวก 0.54%
นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากผลสำรวจของมหาวิทยาลัยมิชิแกนที่ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 95.7 ในเดือนพ.ย. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 95.3 จากระดับ 95.5 ในเดือนต.ค.
ด้านกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจลดลง 0.4% ในเดือนก.ย. เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งเป็นการลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนต.ค.2560 หลังจากเพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนส.ค. โดยการลดลงของสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจในเดือนก.ย.ได้รับผลกระทบจากการดิ่งลงของสต็อกรถยนต์ และเฟอร์นิเจอร์ แต่เมื่อเทียบรายปี สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเพิ่มขึ้น 4.8% ในเดือนก.ย.
ส่วนยอดขายในภาคค้าส่งทรงตัวในเดือนก.ย. หลังจากลดลง 0.1% ในเดือนส.ค.