ข้อความโดย: Rakayang.Com
« เมื่อ: พฤษภาคม 17, 2017, 01:19:20 PM »GM หันมาผลิตยางพาราอย่างยั่งยืน
เจเนอรัล มอเตอร์ส(จีเอ็ม) บริษัทผู้ผลิตยานยนต์ยักษ์ใหญ่แห่งสหรัฐอเมริกา ประกาศแผนการผลิตยางพาราอย่างยั่งยืน สำหรับรถยนต์และระบบทุกที่บริษัทผลิตในแต่ละปี เพื่อช่วยลดการมีส่วนร่วมในการตัดไม้ทำลายป่าในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และอเมริกาใต้ โดยแผนใหม่จะช่วยเกษตรกรรายย่อยมีรายได้เพิ่มขึ้นหลายสิบล้านคนทั่วโลก รวมทั้งเกษตรกรผู้ปลูกยางในไทย
อังคารที่ 16 พฤษภาคม 2560 เวลา 19.19 น.
สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากเมืองดีทรอยท์ ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 16 พ.ค.ว่า นายสตีเวน คีเฟอร์ รองประธานอาวุโสฝ่ายจัดซื้อและโซ่อุปทานทั่วโลก บริษัทเจเนอรัล มอเตอร์ส กล่าวว่า ความเคลื่อนไหวของบริษัทจะช่วยผลักดันอุตสาหกรรมยานยนต์ และโซ่อุปทานของอุตวสาหกรรม ไปสู่ "การตัดไม้ทำลายป่าเป็นศูนย์" นโยบายใหม่ยังจะช่วยรับประกันสิทธิแรงงานและสิทธิมนุษยชน ของเกษตรกรรายย่อยราว 6 ล้านคน และคนงาน 30 ล้านคน ที่เก็บเกี่ยวยางพาราในหลายประเทศ เช่นอินโดนิเซีย ไทย และบราซิล
คีเฟอร์ กล่าวอีกว่า จีเอ็มต้องการส่งเสริมทางเลือกที่ราคาถูก ปลอดภัย และสะอาดกว่า สำหรับลูกค้าของบริษัท ซึ่งจะช่วยเพิ่มคุณค่าแก่ทั้งองค์กรและชุมชนบริษัททำงาน ขณะเดียวกัน ก็จะช่วยรับประกันการจัดส่งยางธรรมชาติ ขณะที่ความต้องการกำลังสูงขึ้น
ความเห็นของคีเฟอร์ได้รับการสนับสนุนจาก บริษัทผู้ผลิตยางรถยนต์รายใหญ่หลายบริษัท รวมถึง บริดจ์สโตน กู้ดเยียร์ มิเชลิน และคอนติเนนตัล ซึ่งจัดส่งยางรถยนต์รวมกันมากกว่า 80% ให้กับจีเอ็ม
จีเอ็มกล่าวในแถลงการณ์ว่า กำลังทำงานร่วมกับบริษัทเหล่านี้ เพื่อรับประกันว่าจะสามารถติดตามตรวจสอบ การจัดส่งยางธรรมชาติได้ตลอดโซ่อุปทาน
ที่มา เดลินิวส์ ออนไลน์
เจเนอรัล มอเตอร์ส(จีเอ็ม) บริษัทผู้ผลิตยานยนต์ยักษ์ใหญ่แห่งสหรัฐอเมริกา ประกาศแผนการผลิตยางพาราอย่างยั่งยืน สำหรับรถยนต์และระบบทุกที่บริษัทผลิตในแต่ละปี เพื่อช่วยลดการมีส่วนร่วมในการตัดไม้ทำลายป่าในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และอเมริกาใต้ โดยแผนใหม่จะช่วยเกษตรกรรายย่อยมีรายได้เพิ่มขึ้นหลายสิบล้านคนทั่วโลก รวมทั้งเกษตรกรผู้ปลูกยางในไทย
อังคารที่ 16 พฤษภาคม 2560 เวลา 19.19 น.
สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากเมืองดีทรอยท์ ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 16 พ.ค.ว่า นายสตีเวน คีเฟอร์ รองประธานอาวุโสฝ่ายจัดซื้อและโซ่อุปทานทั่วโลก บริษัทเจเนอรัล มอเตอร์ส กล่าวว่า ความเคลื่อนไหวของบริษัทจะช่วยผลักดันอุตสาหกรรมยานยนต์ และโซ่อุปทานของอุตวสาหกรรม ไปสู่ "การตัดไม้ทำลายป่าเป็นศูนย์" นโยบายใหม่ยังจะช่วยรับประกันสิทธิแรงงานและสิทธิมนุษยชน ของเกษตรกรรายย่อยราว 6 ล้านคน และคนงาน 30 ล้านคน ที่เก็บเกี่ยวยางพาราในหลายประเทศ เช่นอินโดนิเซีย ไทย และบราซิล
คีเฟอร์ กล่าวอีกว่า จีเอ็มต้องการส่งเสริมทางเลือกที่ราคาถูก ปลอดภัย และสะอาดกว่า สำหรับลูกค้าของบริษัท ซึ่งจะช่วยเพิ่มคุณค่าแก่ทั้งองค์กรและชุมชนบริษัททำงาน ขณะเดียวกัน ก็จะช่วยรับประกันการจัดส่งยางธรรมชาติ ขณะที่ความต้องการกำลังสูงขึ้น
ความเห็นของคีเฟอร์ได้รับการสนับสนุนจาก บริษัทผู้ผลิตยางรถยนต์รายใหญ่หลายบริษัท รวมถึง บริดจ์สโตน กู้ดเยียร์ มิเชลิน และคอนติเนนตัล ซึ่งจัดส่งยางรถยนต์รวมกันมากกว่า 80% ให้กับจีเอ็ม
จีเอ็มกล่าวในแถลงการณ์ว่า กำลังทำงานร่วมกับบริษัทเหล่านี้ เพื่อรับประกันว่าจะสามารถติดตามตรวจสอบ การจัดส่งยางธรรมชาติได้ตลอดโซ่อุปทาน
ที่มา เดลินิวส์ ออนไลน์