แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Topics - tavarn

หน้า: 1 [2] 3 4
16
ทองคำขายวันนี้ ทองแท่งบาทละ 19,250 ทองรูปพรรณบาทละ 19,650 
 
   สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย (8 ส.ค.56 ) - - รายงานข่าวจากสมาคมค้าทอง
ถึงราคาทองคำในประเทศ วันที่ 8 สิงหาคม 2556 มีดังนี้
 
ทองคำ 96.5%                    รับซื้อ              ขายออก           
ทองคำแท่ง                  19,150.00            19,250.00 
ทองรูปพรรณ               18,874.20           19,650.00 

* หมายเหตุ หน่วยเป็น บาท
            
            
 
 
เรียบเรียง โดย สุรเมธี มณีสุโข
อนุมัติ    โดย อนุรักษ์ ลีประเสริฐสุนทร
อีเมล์แสดงความคิดเห็น  commentnews@efinancethai.com

 
 

17
นักเศรษฐศาสตร์คาดยอดขอรับสวัสดิการว่างงานของสหรัฐเพิ่มขึ้น
ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 8 สิงหาคม 2556 09:53:07 น.
นักเศรษฐศาสตร์คาดว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์ของสหรัฐ จะเพิ่มสูงขึ้น ขณะที่นักลงทุนจับตาการรายงานข้อมูลดังกล่าว เพื่อประเมินว่า ธนาคารกลางสหรัฐจะชะลอมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณลงเมื่อใด

ในวันนี้ เวลา 20.30 น.ตามเวลาประเทศไทย  กระทรวงแรงงานสหรัฐ จะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์

 เมื่อวันที่ 1 ส.ค.ที่ผ่านมา กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 27 ก.ค. ปรับตัวลง 19,000 ราย แตะที่ 326,000 ราย ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 5 ปีครึ่ง ตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 345,000 ราย จากสัปดาห์ก่อนหน้าที่ระดับ 343,000 ราย สะท้อนให้เห็นว่าตลาดแรงงานของสหรัฐฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง

ส่วนจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานติดต่อกันโดยเฉลี่ย 4 สัปดาห์ ปรับตัวลง 4,500 ราย แตะระดับ 341,250 ราย

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

18
???าวะตลาดหุ้นโตเกียว: แรงซื้อเก็งกำไรหนุนนิกเกอิปิดเช้าพุ่ง 101.28 จุด
ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 8 สิงหาคม 2556 09:54:18 น.
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิด???าคเช้าดีดตัวขึ้นในวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนเข้ามาช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากดัชนีนิกเกอิร่วงลงไปถึง 4% เมื่อวานนี้ ซึ่งกระตุ้นให้เกิดมุมมองที่ว่าตลาดหุ้นถูกเทขายมากเกินไป

สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ดัชนีนิกเกอิปิด???าคเช้าพุ่งขึ้น 101.28 จุด หรือ 0.73% แตะที่ 13,926.22 จุด

19
China Today: ข่าวเศรษฐกิจมห???าคจีนประจำวันที่ 8 สิงหาคม 2556
ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 8 สิงหาคม 2556 09:55:00 น.
หนังสือพิมพ์อิโคโนมิค อินฟอร์เมชัน เดลี่ รายงานโดยอ้างข้อมูลจากบริษัทโบรกเกอร์หลายแห่งที่ประเมินว่า การลงทุนในสินทรัพย์ถาวรของจีนจะขยายตัวไม่เกิน 20% ในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้

รายงานระบุว่า ในช่วงครึ่งปีแรก การลงทุนในทรัพย์สินถาวรของจีนได้ปรับตัวขึ้น 20.1% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน

-- ศูนย์สารนิเทศแห่งรัฐของจีนคาดว่า อัตราการขยายตัวของการส่งออก-นำเข้าของจีนจะชะลอลงอย่างต่อเนื่องในช่วงครึ่งหลังของปีนี้
ศูนย์ได้ระบุว่าการชะลอตัวดังกล่าวเป็นผลมาจากหลายปัจจัยที่บรรยากาศ???ายนอกของการค้าต่างประเทศจีนอยู่ใน???าวะที่ไม่เอื้ออำนวย และผลพวงจากการแข็งค่าของเงินหยวน

ทั้งนี้ ศูนย์สารนิเทศคาดว่า การส่งออกของจีนจะขยายตัวประมาณ 9% สำหรับตลอดทั้งปี ในขณะที่การนำเข้าจะขยายตัวราว 7.3% และยอดเกินดุลการค้าจะแตะระดับ 2.8 แสนล้านดอลลาร์

-- นายเสิ่น ตันหยาง โฆษกกระทรวงพาณิชย์จีนกล่าวเมื่อวานนี้ว่า แผนในการก่อตั้งเขตการทดลองการค้าเสรีเซี่ยงไฮ้อยู่ระหว่างการปรับปรุงและอยู่ในขั้นตอนการอนุมัติที่เกี่ยวข้อง

นายเสิ่นระบุว่า การอนุมัติแผนอย่างเป็นทางการจะใช้เวลาไม่นาน ก่อนที่จะมีการดำเนินการต่อไป

ส???าแห่งรัฐ หรือคณะรัฐมนตรีจีน ได้อนุมัติแผนในการจัดตั้งเขตการค้าเสรีนำร่องในเซี่ยงไฮ้ในการประชุมฝ่ายบริหารเมื่อวันที่ 3 ก.ค. ซึ่งเป็นการดำเนินการเป็นครั้งแรกในจีน โดยส???าแห่งรัฐได้มีคำสั่งให้หน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้องปรับปรุงแผนดังกล่าวต่อไป สำนักข่าวซินหัวรายงาน

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย เกตุ โนนทิง/พันธุ์ทิพย์ โทร.02-2535000 อีเมล์: pantip@infoquest.co.th--


 

20
???าวะตลาดหุ้นจีน: เซี่ยงไฮ้คอมโพสิตเปิดลบ 0.11%
ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 8 สิงหาคม 2556 08:51:23 น.
ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนลดลง 0.11% เปิดที่ 2,044.44 จุด ขณะที่ดัชนีตลาดหุ้นเสิ่นเจิ้นเปิดที่ 8,090.66 จุด ขยับลง 0.07% ในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนจับตาดูการเปิดเผยข้อมูลค่าการจีนในวันนี้

21
                 รอยเตอร์/เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์-มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ป ออกโรงเตือน ยอดขายยานยนต์ในประเทศไทยซึ่งเป็นตลาดรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อาจประสบ???าวะตกต่ำดำดิ่งมากยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นผลโดยตรงจากการที่รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ยุติโครงการ ?รถคันแรก? ในปีที่ผ่านมา
       
       โยชิฮิโระ คุโรอิ เจ้าหน้าที่บริหารอาวุโสของมิตซูบิชิ เผยว่า มิตซูบิชิ มอเตอร์ ค่ายยานยนต์อันดับ 7 ของญี่ปุ่น ซึ่งลงทุนตั้งโรงงานผลิตรถยนต์ถึง 3 แห่งในประเทศไทย เตรียมหาทางชดเชยความต้องการที่หดหายในแดนสยาม ด้วยการส่งออกยานยนต์ของตนไปจำหน่ายในประเทศอื่นๆ ???ายในสมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรือกลุ่ม ?อาเซียน? แทน รวมถึง การเพิ่มการส่งออกไปยังตลาดออสเตรเลียหากเป็นไปได้
       
       มิตซูบิชิเพิ่งประกาศผลประกอบการรายไตรมาสที่เพิ่มสูงขึ้น 7.4 เปอร์เซ็นต์ แต่ตัวเลขดังกล่าวเป็นผลจากการที่เงินเยนของญี่ปุ่นอ่อนค่าลง ซึ่งช่วยชดเชยความสูญเสียของบริษัทจากการที่ยอดขายในตลาดที่ใหญ่ที่สุดอย่างเมืองไทย ประสบ???าวะดิ่งเหว
       
       คุโรอิระบุว่า บรรดาผู้ผลิตรถยนต์ค่ายต่างๆ รวมถึงมิตซูบิชิเองต่างต้องเผชิญกับปัญหาการยกเลิกคำสั่งซื้อของลูกค้าในไทยจำนวนไม่น้อย หลังจากที่โครงการ ?รถคันแรก?ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลยิ่งลักษณ์สิ้นสุดไปเมื่อปีที่แล้ว
       
       ยอดขายของมิตซูบิชิ มอเตอร์สในไทยระหว่างเดือนเมษายนถึงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ร่วงลงไปถึง 24 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ยอดขายโดยรวมของตลาดรถยนต์ในไทยในช่วงไตรมาสที่ 2 ปรับลดลงไป 1 เปอร์เซ็นต์
       
       ทั้งนี้ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประกาศปรับลดเป้าหมายด้านยอดขายของตน ในปีการเงินที่จะสิ้นสุดในเดือนมีนาคมปีหน้าเหลือราว 1.1 ล้านคัน หรือ 1.2 ล้านคัน แต่ยังคาดว่าผลประกอบการเมื่อสิ้นปีการเงินของบริษัทจะยังคงสามารถทำกำไรได้ราว 100,000 ล้านเยน (ราว 32,000 ล้านบาท) ขณะที่ยอดขายในออสเตรเลียและ???ูมิ???าคลาตินอเมริกายังคงมีทิศทางที่น่าพอใจ


22
เอเจนซีส์ ? ชี้การ ?ปรับสมดุล? เศรษฐกิจของพญามังกรจะส่งผลกว้างขวาง ชนิดที่ไม่มีประเทศใดกล้ามองข้าม เพราะนอกจากทำให้ดีมานด์ทั่วโลกซบเซาลงอีกหลายปีแล้ว ความเคลื่อนไหวนี้ยังอาจบั่นทอนความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างประเทศต่างๆ
       
        บทวิเคราะห์ของสำนักข่าวบีบีซีของอังกฤษระบุว่า ที่ผ่านมา จีนเดินตามกลยุทธ์ที่ญี่ปุ่นบุกเบิกไว้ในช่วงทศวรรษ 1950-1990 ซึ่งบรรดา ?เสือเอเชีย? อย่างเช่นเกาหลีใต้ ไต้หวัน ฮ่องกง และสิงคโปร์ต่างยึดถือเป็นแบบแผนเช่นเดียวกัน
       
        ทว่า ด้วยจำนวนประชากรที่มากกว่าญี่ปุ่นเกือบ 7 เท่า และมากกว่าเหล่าชาติที่เป็นเสือเศรษฐกิจรวมกัน ดังนั้น ผลกระทบจากการยึดถือปฏิบัติตามกลยุทธ์ดังกล่าวของจีนต่อโลก จึงยิ่งใหญ่ตามไปด้วย ขณะที่มีช่องทางจำกัดในการพลิกแพลง
       
        กลยุทธ์ที่ว่าเกี่ยวข้องกับการที่รัฐบาลโดยการช่วยเหลือของยักษ์อุตสาหกรรมกลุ่มเล็กๆ ที่เป็นช่องทางนำรายได้ของประเทศไปลงทุน ซึ่งการลงทุนในที่นี้หมายถึงสิ่งใดๆ ก็ตาม ที่ส่งเสริมความสามารถในการผลิต ไม่ว่าจะเป็นการให้การศึกษาแก่ประชาชน การสร้างอุตสาหกรรมการผลิตและอุตสาหกรรมหนัก และที่สำคัญที่สุดคือ การสร้างเมือง ถนน ทางรถไฟ โรงงานไฟฟ้า ท่าเรือ และโครงสร้างพื้นฐานใหม่ๆ อีกมากมาย
       
        กลยุทธ์นี้ยังเกี่ยวข้องกับการพึ่งพิงการส่งออกอย่างมาก ซึ่งช่วยให้จีนสะสมสกุลเงินต่างชาติที่จำเป็นในการนำเข้าวัตถุดิบและเทคโนโลยีเพิ่มขึ้น
       
        อย่างไรก็ตาม การผลักดันเศรษฐกิจด้วยการลงทุนและการส่งออก มีด้านลบเช่นเดียวกัน นั่นคือทำให้จีนใส่ใจดูแลความต้องการเฉพาะหน้าของประชาชนตัวเองน้อยลง
       
        เพื่อสร้างอัตราเติบโตเฉลี่ย 10% ในช่วง 3 ทศวรรษที่ผ่านมา รัฐบาลปักกิ่งต้องจัดสรรผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจที่ให้แก่ประชาชนอย่างเข้มงวด ดังเช่นที่ไมเคิล เพตทิส ศาสตราจารย์เศรษฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยปักกิ่ง ระบุว่า เป้าหมายสำคัญอันดับต้นๆ ของจีนอาจได้มาจากนโยบายต่างๆ ได้แก่ ค่าเงินอ่อนซึ่งทำให้ผู้ส่งออกมีความสามารถแข่งขันสูง แต่ทำให้สินค้าอุปโ???คบริโ???คนำเข้าแพงขึ้น อัตราดอกเบี้ยต่ำซึ่งดีต่อผู้กู้ยืม (ผู้ผลิต อุตสาหกรรมของรัฐ และผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์) แต่ไม่ดีสำหรับผู้ฝากเงิน การขึ้นค่าแรงที่ไม่สอดรับกับมูลค่าเฉลี่ยของผลผลิต ซึ่งอาจทำให้มีแรงงานต้นทุนต่ำล้นเกินความต้องการจากการที่เกษตรกรทิ้งไร่นาเข้าไปหางานทำในเมือง รวมถึง การที่รัฐบาลท้องถิ่นมีสิทธิ์เวนคืนที่ดินของเกษตรกรเพื่อนำมาพัฒนาสร้างผลกำไร เป็นต้น
       
        อย่างไรก็ดี ตอนนี้นโยบายที่กล่าวมาทั้งหมดของปักกิ่งกำลังจะกลับตาลปัตร เพื่อให้การใช้จ่ายของผู้บริโ???คซึ่งส่วนใหญ่คือชนชั้นกลางที่กำลังขยายตัวรับบทบาทหลักในการผลักดันเศรษฐกิจ
        ในความเป็นจริง ผู้นำจีนพูดถึงเรื่องนี้มาหลายปีแล้ว แต่เพิ่งจะดูเป็นจริงเป็นจังในยุคประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำคนปัจจุบัน เนื่องจากมีทางเลือกน้อยมากในยุคที่ไม่สามารถพึ่งพิงการส่งออกและการลงทุนได้เหมือนเดิม
       
        วิกฤตการเงินปี 2008 บ่งชี้ชัดเจนว่า อเมริกาและยุโรปไม่สามารถกู้ยืมเงิน จากจีนเพื่อซื้อสินค้าจีนได้อีกต่อไป นอกจากนี้ด้วยขนาดมหึมาของตัวเอง จีนจึงทำให้ตลาดส่งออกอิ่มตัว
       
        รัฐบาลปักกิ่งรับมือวิกฤตการณ์ด้วยการเพิ่มการลงทุนในประเทศ ทว่า การก่อสร้างที่เติบโตร้อนแรงจากนโยบายอัดฉีดสินเชื่อนับจากปี 2009 กำลังทำให้ตลาดที่อยู่อาศัยล้นเกินความต้องการ ขณะที่ผู้พัฒนามีหนี้ก้อนใหญ่ที่ไม่สามารถจ่ายคืนได้
       
        ปัจจุบัน การบริโ???คของจีนกำลังบูมดังจะเห็นได้จากรายได้และยอดค้าปลีกที่เติบโตในอัตราเลข 2 หลัก ส่วนหนึ่งนั้นเป็นเพราะประชากรกลายเป็นคนเมืองถึงครึ่งประเทศ หากสามารถรักษาการเติบโตในการบริโ???คไว้ได้ ควบคู่ไปกับการควบคุมการเก็งกำไรอสังหาริมทรัพย์ จีนจะแซงอเมริกาและสห???าพยุโรป (อียู) ขึ้นเป็นตลาดส่งออกอันดับ 1 ของโลก
       
        อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่ข่าวดีทั้งหมด ยกตัวอย่างเช่น ความต้องการเนื้อที่เพิ่มขึ้นของผู้มีอันจะกินในแดนมังกรมีแนวโน้มดันให้ราคาอาหารโลกพุ่งขึ้นอย่างน้อยจนกว่าการตัดต่อทางพันธุกรรมจะบรรลุผลสำเร็จในการเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร
       
        แต่ประเด็นสำคัญคือ การ ?ปรับสมดุล? ของจีนเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้และให้ผลดีในระยะยาว เศรษฐกิจโลกปัจจุบันต้องการการใช้จ่ายเพิ่มมากกว่าการรัดเข็มขัด และผู้บริโ???คจีนอาจตอบสนองความปรารถนานี้ได้
       
        ทว่า แนวทางนี้อาจมีอุปสรรค การบริโ???คในครัวเรือน คิดเป็นองค์ประกอบไม่ถึง 1 ใน 3 ของการใช้จ่ายในเศรษฐกิจจีน เทียบกับ 50-70% ในประเทศอื่นๆ ขณะที่การใช้จ่ายในการลงทุนที่คิดเป็นสัดส่วน 48% ของผลผลิตเศรษฐกิจกำลังซบเซา ซึ่งทั้งหมดนี้ชี้ว่า เศรษฐกิจจีนอาจชะลอลงอยู่ที่ 5-7% ในช่วง 2-3 ปีหน้า
       
        แม้สถานการณ์ราบรื่นแต่แนวโน้มที่เศรษฐกิจจีนจะคลายความร้อนแรงลงมีนัยสำคัญอย่างมากต่อทั่วโลก ตัวอย่างเช่น???าคก่อสร้างแดนมังกรเป็นลูกค้าสำคัญของโลหะพื้นฐาน และมีบทบาทสำคัญในการดันราคาสินค้าโ???ค???ัณฑ์ขึ้นถึงระดับที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ริโอ ตินโต หนึ่งในบริษัทเหมืองแร่ใหญ่สุดของโลกประเมินว่า ปีที่ผ่านมา จีนบริโ???คแร่เหล็ก 2 ใน 3 ของโลก, 45% และ 42% สำหรับอลูมิเนียมและทองแดงตามลำดับ
       
        ดังนั้น หากความต้องการของจีนลดลงต่อเนื่องย่อมส่งผลอย่างรุนแรง โดยเฉพาะในขณะที่ราคาสินค้าโ???ค???ัณฑ์เหล่านี้อยู่ในช่วงขาลงมาตั้งแต่ต้นปี โดยผู้ที่จะได้รับผลกระทบโดยตรงได้แก่ เหมืองแร่ในบราซิล ชิลี หลายชาติในแอฟริกา รัสเซีย คาซัคสถาน แคนาดา และออสเตรเลีย
       
        ใช่เพียงเหมืองแร่เท่านั้น มีรายงานว่า ราคายางกำลังดิ่งลง เนื่องจากความต้องการเพื่อนำไปผลิตยางรถบรรทุกของจีนลดลง นอกจากนี้อุตสาหกรรมหลายแขนงของจีนยังทำให้เกิดปัญหาสินค้าล้นตลาด อาทิ เหล็กกล้า ส่งผลให้ผู้ผลิตจีนบางรายต้องระงับการผลิตและขาดทุน
       
        ทั้งหมดนี้หมายความว่า การลงทุนมากเกินไปของจีน ไม่เพียงเกินหน้าเกินตาเศรษฐกิจของตัวเอง แต่ยังเกินกว่าเศรษฐกิจโลกจะรองรับไหว อีกทั้งเป็นความท้าทายพื้นฐานสำหรับเศรษฐกิจโลก
       
        การบูมของ???าคก่อสร้างจีนนับจากปี 2009 หนักไปที่การนำเข้าวัสดุ ที่ทำให้ยอดเกินดุลการค้าที่คิดเป็นสัดส่วน 10% ของผลผลิตเศรษฐกิจในปี 2007 หดหายไปเกือบหมด ดังนั้น หากการบูมดังกล่าวสิ้นสุดลง เท่ากับว่า การนำเข้าสินค้าเหล่านั้นจะทรุดฮวบและยอดเกินดุลจีนดีดกลับชั่วคราว
       
        ขณะเดียวกัน ปักกิ่งยังพยายามช่วย???าคส่งออกเพื่อให้สามารถรองรับคนงานก่อสร้างที่ถูกปลดออก ด้วยการประกาศมาตรการอุดหนุนใหม่ๆ และอาจมีอีกทางเลือกหนึ่งคือการปล่อยให้ค่าเงินหยวนอ่อนลง
       
        ทว่า ความเคลื่อนไหวเหล่านี้อาจทำให้สถานการณ์การเกินดุลการค้าจีนยิ่งแย่ลง และไม่เป็นผลดีอย่างยิ่งในขณะที่ทั้งยุโรป อเมริกา และญี่ปุ่น พยายามส่งออกเพื่อฟื้นเศรษฐกิจ???ายใน
       
        เศรษฐกิจจีนคิดเป็นสัดส่วน 11% ของผลิต???ัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ของทั้งโลก ดังนั้น การเกินดุลที่เพิ่มขึ้นทุก 10% ของจีนจะฉุดรั้งการใช้จ่ายของทั่วโลกลง 1%
       
        โดยสรุปก็คือ มีความเสี่ยงที่อุปสงค์ทั่วโลกจะซึมเซาลงอีกหลายปี และในช่วงเดียวกันนั้นอาจเกิดการปีนเกลียวทางการค้าถี่ขึ้น


23
มาร์เก็ตแค็ปตลาดหุ้นจีนหายไปแล้ว 748 พันล้านดอลล์ หลัง นลท.หวั่น ศก.จีนเริ่มชะลอ

         รายงานข่าวบนเว็บไซท์บลูมเบิร์กดอทคอมระบุว่า มาร์เก็ตแค็ปตลาดหุ้นจีนลดลงมาแล้ว
43% หรือ ลดลง 748 พันล้านดอลลาร์จากระดับสูงสุดในสิงหาคมปี 2009 หลังนักลงทุนมีความ
กังวลต่อการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน และการลดวงเงินมาตรการ QE
        โดยการลดลงของมูลค่ามาร์เก็ตแค็ปของตลาดหุ้นจีนดังกล่าวทำให้ตลาดหุ้นจีนเป็นตลาดที่
ให้ผลตอบแทนต่ำสุดในโลก
         ขณะที่ในปีนี้ ไม่มีบริษัทจดทะเบียนของจีนแห่งใดที่ติดอันดับ 1 ใน 10 อันดับบริษัทที่มี
มูลค่ากิจการสูงที่สุดในโลก
         'ตลาดหุ้นจีนตอนนี้เหมือนกับสัตว์ที่ตายแล้ว แนวโน้มที่ราคาหุ้นจะเพิ่มขึ้นมีน้อยกว่าแนว
โน้มที่ราคาหุ้นจะลดลง' นายคาร์เตอร์ เวิร์ธ นักวิเคราะห์ทางเทคนิคที่อ็อปเพนไฮเมอร์แอนด์โค
กล่าว




แปลโดย วรเชษฐ์ พันธ์???ูวงศ์            
            
 
 
เรียบเรียง โดย วรเชษฐ์ พันธ์???ูวงศ์
อนุมัติ    โดย ดวงสุรีย์ วายุบุตร์
อีเมล์แสดงความคิดเห็น  commentnews@efinancethai.com

 
 
 

 
 

24
ตลาดซื้อขายยางล่วงหน้าซึม ครึ่งปีวูบ 2 หมื่นล้าน/เงินเซสส์ลดกว่า 2.8 พันล.
31 กรกฎาคม 2556
แหล่งข้อมูล: ฐานเศรษฐกิจ (Th)
 
 
โบรกเกอร์ซื้อขายยางในตลาดล่วงหน้า เผยสัญญาซื้อขายซึมหนัก ครึ่งปีแรกมูลค่าซื้อขายหายกว่า 2 หมื่นล้าน ผวาลากยาวถึงปีหน้า ร้องรัฐเลิกแทรกแซงราคา ทำกลไกตลาดบิดเบือน ขณะที่พิษเศรษฐกิจโลก กดราคายางตกต่ำยาว สกย.เผย 9 เดือนแรกปีงบ การเก็บเงินเซสส์ลดลงกว่า 2.8 พันล้าน ระบุ "ไทยฮั้ว" จ่ายมากสุด 5 ปีซ้อน

ดร.ไพฑูรย์ วงศาสุทธิกุล กรรม การผู้จัดการ บจก. แอโกรเวลท์ เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ถึงสถานการณ์การซื้อขายผลิต???ัณฑ์ยางพาราในตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย หรือเอเฟท ในครึ่งแรกของปี 2556 เทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2555 ว่า มีสัญญา และปริมาณการซื้อขายลดลง เนื่องจากนักลงทุนไม่ค่อยชอบลงทุนในช่วงราคายางพาราขาลง จะชอบราคายางขาขึ้นมากกว่าเพราะซื้อขายง่าย ดังนั้น???าพรวมในช่วงครึ่งปีหลังที่ราคายางยังไม่ดีขึ้น คาดการซื้อขายยางในเอเฟทจะยังลดลงทั้งปริมาณและมูลค่า

"ความจริงแล้ว ราคายางพารา มีสัญญาณราคาขาลงมาตั้งแต่ปี 2554 แล้วจนมาถึงครึ่งปีนี้ สถานการณ์ราคายางยังไม่ดีขึ้น ในครึ่งปีหลังสถานการณ์จะเหมือนกับครึ่งปีแรก จึงทำให้???าพรวมทั้งปีปริมาณการซื้อขายยางลดน้อยลง คาดการณ์ว่าจะบานปลายไปจนถึงปีหน้า"

ทั้งนี้สาเหตุสำคัญส่วนหนึ่งที่ทำ ให้การซื้อขายยางพาราในเอเฟทลดลงมา จากการที่โครงการรักษาเสถียร???าพราคายาง (แทรกแซง) ของรัฐบาลทำให้กลไกตลาดบิดเบือน ดังนั้นทางออกคือไม่อยาก ให้รัฐบาลแทรกแซงราคายางพารา เพราะ จะยิ่งทำให้ตลาดซบเซามากขึ้น ควรจะหา แนวทางอย่างอื่นเช่นช่วยชาวสวนลดต้นทุน

สอดคล้องกับการรายงานของเอเฟท ช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.มิ.ย.)มีปริมาณสัญญาซื้อขาย 3.2 หมื่นสัญญา มูลค่า 1.1 หมื่นล้านบาท หากเทียบในเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว มีปริมาณสัญญาซื้อขาย 4.5 หมื่นสัญญา มูลค่า 3.1 ล้านบาท เห็นได้ชัดว่าลดลงทั้งปริมาณและมูลค่า

ปัจจุบันเอเฟท มีนายหน้าซื้อขายล่วงหน้าที่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า (ก.ส.ล.) ทั้งสิ้น 10 ราย คือ บจก. ฟิวเจอร์ อกริเทรด, บจก.แอ็กโกรว์ เอ็นเตอร์ไพร์ส, บจก.แอโกรเวลท์, บจก.พัฒนาเกษตรล่วงหน้า, บจก.หงต้า ฟิวเจอร์ส, บจก.ดีเอส ฟิวเจอร์ส, บมจ.หลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย), บจก.หลักทรัพย์ เอเซีย พลัส, บจก.หลักทรัพย์ เคที ซีมิโก้ และบจก.อินฟินิตี้ เวลท์ ฟิวเจอร์

ขณะที่แหล่งข่าวจากสำนักงานกอง ทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง (สกย.) เปิดเผยว่า จากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว ที่ส่งผลถึงราคายางพาราในประเทศราคาตก ต่ำ (ยังไม่ถึง 80 บาท/กก.) มีผลให้การเก็บเงินสงเคราะห์เกษตรกร หรือเงินเซสส์ (เก็บจากผู้ส่งออกยาง) ในช่วง 9 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2555 (ต.ค.55-มิ.ย. 56) สามารถเก็บได้เพียง 7.7 พันล้านบาท จากการส่งออกยางพาราทุกชนิด 2.5 ล้านตัน หากเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้วที่เก็บได้ 1.05 หมื่นล้านบาทถือว่าลดลงกว่า 2.8 พันล้านบาท เนื่องจากตามเงื่อนไขหากยางพาราราคาสูงกว่า 100 บาทต่อกิโลกรัม จะเรียกเก็บเงินเซสส์ที่ 5 บาทต่อกิโลกรัม แต่ปัจจุบันราคายางต่ำกว่า 100 บาทต่อกิโลกรัม ตามเงื่อนไขต้องเก็บที่ 3 บาทต่อกิโลกรัม (ปี 2555 ไทยมีการส่งออกยางพารารวม 2.5 ล้านตัน เก็บเงินเซสส์ทั้งปีได้ 1.4 หมื่นล้านบาท)

"การเก็บเงินเซสส์ช่วง 9 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2556 ลดลงเกือบ 3 พันล้านบาท จากผู้ส่งออกผลิต???ัณฑ์ยางพารา 5 อันดับแรกได้แก่ บริษัท ไทยฮั้วยางพารา จำกัด (มหาชน) (บมจ.)ที่ครองอันดับ 1 มา 5 ปีซ้อน รองลงมาเป็นบริษัท วงศ์บัณฑิต จำกัด (บจก.) บมจ.ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี บจก.เซาท์แลนด์รับเบอร์ และ บจก.ไทยรับเบอร์ลาเท็คซ์คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย)"
 

25
ดอลล์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบเยน หลังนลท.รอติดตามแถลงการณ์เฟดวันนี้

         รายงานข่าวบนเว็บไซท์บลูมเบิร์กดอทคอมระบุว่า อัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่า
ลงเมื่อเทียบกับเงินเยนวันนี้ หลังนักลงทุนรอติดตามแถลงการณ์การประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ
หรือ เฟดที่ประกาศออกมาวันนี้ ซึ่งอาจมีการส่งสัญญาณถึงกำหนดเวลาในการลดวงเงิน
มาตรการ QE
        โดยในการซื้อขายช่วงเช้า อัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง 0.1% มาอยู่ที่ 97.98
เยนจากที่ปิดตลาดนิวยอร์กวานนี้ และในเดือนนี้เงินดอลลาร์อ่อนค่าลงมาแล้ว 1.2%
        'เงินดอลลาร์อ่อนค่าลง เพราะนักลงทุนเลิกคาดการณ์ว่า เฟดจะลดวงเงินมาตรการ QE ใน
ระยะอันใกล้ เฟดอาจจะส่งสัญญาณอย่างชัดเจนมากขึ้นว่า การลดวงเงินมาตรการดังกล่าวกับการ
พิจารณาขึ้นอัตราดอกเบี้ยไม่มีความเกี่ยวข้องกัน และต้องแยกกันพิจารณา' นายคิคูโกะ ทาเคดะ
นักวิเคราะห์อาวุโสที่แบงก์ออฟโตเกียว-มิตซูบิชิยูเอฟเจกล่าว



26
เอเชีย : จีน   
                   ธนาคารกลางจีนได้อัดฉีดส???าพคล่องเข้าสู่ตลาดเงินผ่านการซื้อพันธบัตรรัฐบาลใน
ตลาดรอง (open market operation) เมื่อวันอังคารที่ 30 กรกฎาคม ซึ่งช่วยคลายความวิตก
เกี่ยวกับ???าวะส???าพคล่องตึงตัวก่อนสิ้นเดือน หลังจากที่???าวะส???าพคล่องตึงตัวอย่างรุนแรงในเดือน
มิถุนายน ทำให้นักลงทุนอยู่ใน???าวะตื่นตระหนก ทั้งนี้การอัดฉีดเม็ดเงิน 1.7 หมื่นล้านหยวน
(2.77 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) ผ่านทางธุรกรรมการซื้อพันธบัตรโดยมีสัญญาขายคืน (reverse
repos) ระยะ 7 วันเมื่อวันอังคาร นับเป็นครั้งแรกที่ธนาคารกลางเข้าดำเนินการในตลาดนับตั้งแต่
วันที่ 20 มิถุนายน และเป็นครั้งแรกที่ธนาคารกลางอัดฉีดเม็ดเงิน แทนการดูดซับเม็ดเงิน นับ
ตั้งแต่ต้นเดือนกุม???าพันธ์ นักวิเคราะห์และนักลงทุนในตลาดใกล้เคียงได้จับตาตลาดเงินอินเตอร์
แบงก์ของจีนอย่างใกล้ชิด หลังจากธนาคารกลางจีนปล่อยให้เกิด???าวะสินเชื่อตึงตัวในปลายเดือน
ที่แล้ว เพื่อเป็นการเตือนสถาบันการเงินให้ระวังพฤติกรรมการปล่อยกู้ที่มีความเสี่ยง โดยอัตรา
ดอกเบี้ยระยะสั้นในจีนพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่ใกล้ถึงช่วงสิ้นเดือน
กรกฎาคมซึ่งบริษัทและธนาคารของจีนได้กักตุนเงินสดเพื่อจ่ายเงินปันผล และเพื่อตกแต่งงบดุล
บัญชี

ญี่ปุ่น   
            ผลผลิตอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นเดือนมิถุนายนลดลงมากที่สุดนับจากเดือนมีนาคม
2554 ซึ่งญี่ปุ่นถูกกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ โดยการลดลงในเดือนมิถุนายน
ที่ผ่านมาเป็นผลจากการที่ผู้ผลิตรถยนต์ลดการผลิตเป็นเดือนที่สองหลังจากที่เพิ่มการผลิตใน
เดือนเมษายน โดยกระทรวงการค้าของญี่ปุ่นรายงานว่าการผลิตของ???าคอุตสาหกรรมในเดือน
มิถุนายนลดลง 3.3% จากเดือนก่อนหน้า ซึ่งเป็นการลดลงมากกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์จากการ
สำรวจของ Bloomberg คาดการณ์ว่าจะลดลง 1.5% ทั้งนี้เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนการ
ผลิตลดลง 4.8%


27
กูรู AFET คาด RSS3 บ่ายนี้เคลื่อนไหวในกรอบแคบ หลังขาดปัจจัยใหม่หนุน แนะเก็ง
กำไรในกรอบ 76-80 บาท 

   กูรู AFET คาด RSS3 บ่ายนี้เคลื่อนไหวในกรอบแคบ หลังขาดปัจจัยใหม่หนุน ด้าน
ยางล่วงหน้าต่างประเทศเคลื่อนไหวกรอบแคบ แนะเก็งกำไรในกรอบ 76-80 บาท ในสัญญา ก.
พ.57
   
   นักวิเคราะห์ บริษัท ฟิวเจอร์ อกริ เทรด จำกัด (FAT) เปิดเผยถึงการซื้อขายสินค้ายาง
แผ่นรมควันชั้น 3 (RSS3) ในตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย (AFET) เช้าวันนี้ว่า
เคลื่อนไหวในกรอบแคบ และมีปริมาณการซื้อขายเบาบาง เนื่องจากไม่มีปัจจัยใหม่สนับสนุน ซึ่ง
ทิศทางราคายาง TOCOM ในประเทศญี่ปุ่น และราคายางเซี่ยงไฮ้ในประเทศจีน ยังเคลื่อนไหวใน
กรอบแคบเช่นกัน
   ด้านราคายาง AFET ในช่วงบ่ายคาดว่าเคลื่อนไหวในกรอบแคบ และหวั่นว่าปริมาณ
การซื้อขายเบาบาง เพราะไม่มีปัจจัยใหม่สนับสนุน ยางล่วงหน้าต่างประเทศเคลื่อนไหวทรงตัว
   ส่วนราคายางในตลาดจริงวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบแคบไม่กระทบราคายาง AFET
โดยราคายางตลาดกลางยางพาราสงขลา ยางแผ่นดิบแตะระดับ 68.58 บาท/กิโลกรัม ปรับตัวสูง
ขึ้น 0.03 บาท/กิโลกรัม
   ทั้งนี้กลยุทธ์การลงทุน แนะนำให้เก็งกำไรในกรอบ 76-80 บาท/กิโลกรัม ในสัญญาส่ง
มอบเดือนกุม???าพันธ์ 2557


รายงานโดย   ชุติมา อ???ิชัยสุขสกุล



 
            
            
 

ที่มา ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย     วันที่   30/07/13   เวลา   11:50:51

 
 

28
ข่าวทั่วไป / เกษตรฯชง2วิธีระบายสต็อกยาง
« เมื่อ: กรกฎาคม 29, 2013, 03:37:45 PM »
เกษตรฯชง2วิธีระบายสต็อกยาง
29 กรกฎาคม 2556
แหล่งข้อมูล: เว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจ (Th)
 
 
นายยุคล ลิ้มแหลมทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า จากการวิเคราะห์สถานการณ์ยางในประเทศพบว่าผลผลิตที่ออกสู่ตลาดยังมากกว่าความต้องการ ราคายางจึงมีแนวโน้มไม่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งสถานการณ์นี้สวนทางกับความเห็นของผู้ประกอบการที่ระบุว่าปัจจุบันไม่มียางส่งออกและต้องซื้อยางจากตลาดโตคอม แสดงให้เห็นว่ามีการปั่นราคายางในประเทศให้ปรับตัวลดลง ส่วนหนึ่งเป็นเพราะ???าคเอกชนเห็นว่ารัฐบาลมียางในสต็อกที่ได้จากโครงการพัฒนาศักย???าพสถาบันเกษตรกรเพื่อรักษาเสถียร???าพราคายาง จำนวน 2.18 แสนตัน ซึ่งรอการตัดสินใจว่าจะจำหน่ายหรือไม่

อย่างไรก็ตาม หลังจากตรวจสต็อกยางจะหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อกำหนดแนวทางการระบาย ซึ่งเบื้องต้นมี 2 แนวทางคือ 1.จำหน่ายให้ผู้ประกอบการโดยตรง และ2.จำหน่ายลักษณะสินค้าแปรรูปขั้นต้น เช่น ยางแท่ง ยางแผ่นรมควันชั้น 3 ซึ่งองค์การสวนยาง (อสย.) สามารถดำเนินการได้ แต่ต้องรอจังหวะและเวลาที่เหมาะสมเพื่อให้โครงการนี้ขาดทุนน้อยที่สุด โดยที่ผ่านมาใช้วงเงินซื้อยางไปทั้งหมด 2.3 หมื่นล้านบาท จากวงเงินรวมที่ได้รับการอนุมัติจากคณะรัฐมนตรี 4.5 หมื่นล้านบาท

"จากการหารือกับสมาคมล้อยางพบว่าปีนี้จะเพิ่มการผลิตเป็น 70 ล้านเส้น จากเดิมปีละ 50 ล้านเส้น ความต้องการยางพาราจึงสูงขึ้น แต่สมาคมต้องการยางแปรรูปขั้นต้นจึงแนะนำให้กระทรวงฯใช้กระบวนการสหกรณ์ในการผลิตยางเหล่านี้ เพื่อขายให้กับผู้ประกอบการล้อยางโดยตรง จากปัจจุบันจะขายยางก้อนถ้วย น้ำยาง และยางแผ่นดิบที่มีราคาไม่สูงมากนัก"

สำหรับโครงสร้างอุตสาหกรรมยางในประเทศ พบว่าไทยมีผลผลิตยางปีละ 3.2 ล้านตัน เป็นการใช้ในประเทศ 17% ส่วนอีก 83%เป็นการส่งออกโดยผู้ประกอบการทั่วประเทศ 185 ราย แต่การส่งออกส่วนใหญ่ดำเนินการโดยผู้ประกอบการรายใหญ่เพียง 5 บริษัท คือ บริษัทไทยฮั้ว ยางพารา จำกัด บริษัท ศรีตรัง แอโกรอินดัสทรี จำกัด(มหาชน).บริษัท ไทยรับเบอร์ลาเท็คซ์ คอร์ปอร์เรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) บริษัท วงศ์บัณฑิต จำกัด และ บริษัท เซาท์แลนด์รับเบอร์ จำกัด ส่วนตลาดส่งออกหลัก คือจีน มาเลเซีย สห???าพยุโรป(อียู) สหรัฐ และเกาหลีใต้

"จากโครงสร้างดังกล่าวไทยต้องพึ่งพาการส่งออกเท่านั้น หากตลาดมีปัญหาจะกระทบราคายางในประเทศทันที และถ้า 5 บริษัทขยับตัว เช่น ชะลอการรับซื้อหรือเร่งซื้อ ราคายางในประเทศจะขยับตัวด้วยเดียวกัน การแก้ไขปัญหาอุตสาหกรรมยางในประเทศทั้งระบบคือการเพิ่มปริมาณการใช้ยางในประเทศเป็น 30%"

นอกจากนั้น ยังควรใช้วิธีชะลอการกรีดยาง โดยใช้เทคโลโลยี เช่น การใช้แก๊สอะเซทิลีนรมต้นยาง สามารถชะลอการให้น้ำยางได้ 2 วัน การใช้สารอัดผิวหน้ายางต้นยางจะสามารถเก็บน้ำยางได้ 6 วัน วิธีการเหล่านี้ประเทศมาเลเซียใช้แล้วได้ผล แต่ต้องเป็นต้นยางที่มีอายุตั้งแต่ 14-15 ปีขึ้นไป ซึ่งกระทรวงฯจะนำไปหารือในคณะกรรมการนโยบายยางธรรมชาติ (กนย.) ต่อไป
 
 

29
ตลาดหุ้นจีนปิดลบ 10.32 จุด หลังนลท.ขายหุ้นกลุ่มเทคโนฯ รับราคาเกินปัจจัยพื้นฐาน

       รายงานข่าวบนเว็บไซท์บลูมเบิร์กดอทคอมระบุว่า ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดที่
ระดับ 2,010.85 จุด ลดลง 10.32 จุด หรือ -0.51 %
       ปัจจัยที่ทำให้ตลาดหุ้นจีนปิดลบ เป็นผลมาจากนักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี หลังราคา
หุ้นอยู่ในระดับเกินปัจจัยพื้นฐาน หรือ อยู่ที่ระดับสูงในรอบกว่า 2 ปี ประกอบกับตอบรับข่าวที่
รัฐบาลมีแผนที่จะลดกำลังการผลิตใน 19 อุตสาหกรรมเพื่อแก้ปัญหาอุปทานส่วนเกิน


 



แปลโดย วรเชษฐ์ พันธ์???ูวงศ์            
            
 
 
เรียบเรียง โดย วรเชษฐ์ พันธ์???ูวงศ์
อนุมัติ    โดย อนุรักษ์ ลีประเสริฐสุนทร
อีเมล์แสดงความคิดเห็น  commentnews@efinancethai.com

 
 
 
ที่มา อีไฟแนนซ์ไทย     วันที่   26/07/13   เวลา   14:51:50

 
 

30
จีนสั่ง บ.กว่า 1,400 แห่งใน 19 อุตฯ ลดกำลังการผลิตส่วนเกินในปีนี้ ตามนโยบายเน้นความ
ยั่งยืนทางศก.

            รายงานข่าวบนเว็บไซท์บลูมเบิร์กดอทคอมระบุว่า จีนสั่งให้บริษัทกว่า 1,400 แห่งใน 19
อุตสาหกรรม ลดการผลิตส่วนเกินลงในปีนี้ตามนโยบายปฏิรูปเศรษฐกิจเพื่อให้มีความยั่งยืนมาก
ขึ้นแทนการมุ่งให้เกิดการขยายตัวแต่เพียงอย่างเดียว
           โดยอุตสาหกรรมที่จะต้องลดกำลังการผลิตในปีนี้ที่สำคัญได้แก่ เหล็ก ซีเมนต์ กระดาษ
อลูมิเนียม ทองแดง เป็นต้น ???ายใต้คำสั่งของกระทรวงอุตสาหกรรมและสารสนเทศของจีน
            ปัญหากำลังการผลิตส่วนเกินที่สูงในจีนทำให้???าคอุตสาหกรรมของประเทศเผชิญความ
เสี่ยงด้านผลการดำเนินงานในระยะยาว แม้จะทำให้ราคาสินค้าอุตสาหกรรมลดลงก็ตาม
          'นี่เป็นการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่จากจีนเกี่ยวกับการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ และเป็นการทำ
ให้เห็นว่า จีนต้องการการขยายตัวของเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน ที่เน้นการพัฒนาด้านคุณ???าพมากกว่า
ปริมาณ' นายเรย์มอนด์ เยียง นักเศรษฐศาสตร์ที่เอเอ็นซีแบงกิ้งกรุ๊ปกล่าว
           ขณะที่โนมูระโฮลดิ้งส์ประเมินว่า จีนมีกำลังการผลิตส่วนเกินในอุตสาหกรรมซีเมนต์กว่า
92 ล้านตัน อุตสาหกรรมเหล็กกว่า 7 ล้านตัน อุตสาหกรรมการผลิตอลูมมิเนียมและทองแดงราว
654,400 ตัน และ 260,000 ตันตามลำดับ



แปลโดย วรเชษฐ์ พันธ์???ูวงศ์            
            
 
 
เรียบเรียง โดย วรเชษฐ์ พันธ์???ูวงศ์
อนุมัติ    โดย ดวงสุรีย์ วายุบุตร์
อีเมล์แสดงความคิดเห็น  commentnews@efinancethai.com

 
 
 
ที่มา อีไฟแนนซ์ไทย     วันที่   26/07/13   เวลา   15:14:31

 
 

หน้า: 1 [2] 3 4