ข้อความโดย: Rakayang.Com
« เมื่อ: เมษายน 24, 2015, 02:53:45 PM »ข่าวด่วน!!!! ประเด็นที่ต้องติดตามต่อจากนี้กับยางพารา
1.จีน+ไทย เซ็น MOU ซื้อยางจากไทย2แสนตัน เดือนหน้า รม เกษตรและคณะไปจีนเพื่อทวงสัญญา
2.รัซเซียตกลงซื้อยางจากไทย 8 หมื่นตัน คาดว่าจะเซ็นสัญญาเดือนมิถุนายน นี้
3.โครงการบัพเฟอร์ฟันรอบสอง จะเริ่มเดือน พฤษภาคม ที่มีข่าวว่าจะซื้อตรงกับเกษตรกรเลย ไม่ให้พ่อค้าเข้าร่วมโครงการ
4.บริษัทเอกชนแปรรูปยางแท่งประเทศไทยกับบริษัท เอกชนแปรรูปยางแท่งประเทศอินโดนีเซีย จำนวน 11 บริษัท โดยเเบ่งเป็นประเทศอินโดนีเซียจำนวน 7 บริษัทและประเทศไทยจำนวน 4 บริษัท ซึ่งเป็นบริษัขนาดใหญ่ในการเป็นผู้นำผลิตและส่งออกยางแท่งของทั้งสอง ประเทศ "ผู้ผลิตยางยักษ์ใหญ่เล็งเลิกส่งสินค้าเข้าตลาดไซคอม เริ่มเดือนหน้า หวังดันราคา ไทยตั้งเป้าเพิ่มใช้วัตถุดิบในประเทศ
5.ราคาน้ำมัน ที่ดูแล้วน่าจะกลับเป็นขาขึ้น
6.มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีน ที่จะมีเพิ่มเติมต่อจากนี้ไป ถ้าตัวเลขเศรษฐกิจยังคงออกมาบ่งบอกถึงการชลอตัว
7.วันที่ 8-9 พ.ค.นี้ จะเดินทางไปคุนหมิง ประเทศจีน เพื่อเจรจาข้อตกลงที่จีนจะรับซื้อยางจำนวน 2 แสนตันจากไทย ซึ่งที่กำหนดว่าจะรับซื้อในราคาตลาดและบวกด้วยเงินเพิ่มพิเศษนั้น เงินเพิ่มพิเศษควรอยู่ในระดับเท่าไร/กก.จึงจะเหมาะสม ซึ่งจะต้องไปคุยกันในรายละเอียด
8.การควบรวมองค์กรที่เกี่ยวกับการบริหารจัดการยางของประเทศไทยที่อยู่ในรูปของ รัฐวิสาหกิจ 2 แห่ง คือองค์การสวนยาง(อสย.) และสำนักงานกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง(ส.ก.ย.) อยู่ในรูปของระบบราชการของกรม 1 แห่ง คือ กรมวิชาการเกษตร วัตถุประสงค์ใหญ่คือการจัดทำนโยบายในการส่งเสริมสนับสนุนให้ภาคเอกชน ภาคเกษตรกรเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันโดยอยู่ภายใต้ พ.ร.บ.ควบคุมยาง พ.ศ.2542 ซึ่งเกี่ยวข้องกับกฎระเบียบในการควบคุม เพื่อควบคุม กำกับ ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมให้มีความสมดุล
ที่มา โบรกACF
1.จีน+ไทย เซ็น MOU ซื้อยางจากไทย2แสนตัน เดือนหน้า รม เกษตรและคณะไปจีนเพื่อทวงสัญญา
2.รัซเซียตกลงซื้อยางจากไทย 8 หมื่นตัน คาดว่าจะเซ็นสัญญาเดือนมิถุนายน นี้
3.โครงการบัพเฟอร์ฟันรอบสอง จะเริ่มเดือน พฤษภาคม ที่มีข่าวว่าจะซื้อตรงกับเกษตรกรเลย ไม่ให้พ่อค้าเข้าร่วมโครงการ
4.บริษัทเอกชนแปรรูปยางแท่งประเทศไทยกับบริษัท เอกชนแปรรูปยางแท่งประเทศอินโดนีเซีย จำนวน 11 บริษัท โดยเเบ่งเป็นประเทศอินโดนีเซียจำนวน 7 บริษัทและประเทศไทยจำนวน 4 บริษัท ซึ่งเป็นบริษัขนาดใหญ่ในการเป็นผู้นำผลิตและส่งออกยางแท่งของทั้งสอง ประเทศ "ผู้ผลิตยางยักษ์ใหญ่เล็งเลิกส่งสินค้าเข้าตลาดไซคอม เริ่มเดือนหน้า หวังดันราคา ไทยตั้งเป้าเพิ่มใช้วัตถุดิบในประเทศ
5.ราคาน้ำมัน ที่ดูแล้วน่าจะกลับเป็นขาขึ้น
6.มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีน ที่จะมีเพิ่มเติมต่อจากนี้ไป ถ้าตัวเลขเศรษฐกิจยังคงออกมาบ่งบอกถึงการชลอตัว
7.วันที่ 8-9 พ.ค.นี้ จะเดินทางไปคุนหมิง ประเทศจีน เพื่อเจรจาข้อตกลงที่จีนจะรับซื้อยางจำนวน 2 แสนตันจากไทย ซึ่งที่กำหนดว่าจะรับซื้อในราคาตลาดและบวกด้วยเงินเพิ่มพิเศษนั้น เงินเพิ่มพิเศษควรอยู่ในระดับเท่าไร/กก.จึงจะเหมาะสม ซึ่งจะต้องไปคุยกันในรายละเอียด
8.การควบรวมองค์กรที่เกี่ยวกับการบริหารจัดการยางของประเทศไทยที่อยู่ในรูปของ รัฐวิสาหกิจ 2 แห่ง คือองค์การสวนยาง(อสย.) และสำนักงานกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง(ส.ก.ย.) อยู่ในรูปของระบบราชการของกรม 1 แห่ง คือ กรมวิชาการเกษตร วัตถุประสงค์ใหญ่คือการจัดทำนโยบายในการส่งเสริมสนับสนุนให้ภาคเอกชน ภาคเกษตรกรเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันโดยอยู่ภายใต้ พ.ร.บ.ควบคุมยาง พ.ศ.2542 ซึ่งเกี่ยวข้องกับกฎระเบียบในการควบคุม เพื่อควบคุม กำกับ ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมให้มีความสมดุล
ที่มา โบรกACF