ตอบ

Warning: this topic has not been posted in for at least 120 days.
Unless you're sure you want to reply, please consider starting a new topic.
ชื่อ:
อีเมล์:
หัวข้อ:
ไอค่อนข้อความ:

แนบไฟล์:
(Clear Attachment)
(แนบไฟล์เพิ่ม)
Restrictions: 4 per post, maximum total size 192KB, maximum individual size 128KB
Verification:
กรุณาพิมพ์ชื่อนี้ Rakayang เป็น???าษาไทย:

shortcuts: กด alt+s เพื่อตั้งกระทู้ หรือ alt+p แสดงตัวอย่าง


สรุปหัวข้อ

ข้อความโดย: Rakayang.Com
« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 07, 2020, 07:40:23 AM »

จีนหยุดซื้อยางชั่วคราว-ใต้หันส่งตะวันออกกลางวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2563 - 10:07 น.  ที่มา ประชาชาติธุรกิจจีนปิดประตูซื้อยางพาราชั่วคราว หลังไวรัสโคโรน่าระบาดหนัก โรงงานอุตสาหกรรมแปรรูปหยุดทำงาน ?ฉุด? ตลาดยางพาราไทยร่วง 2 บาทกว่า/กก. ยางภาคใต้หันส่งออกตะวันออกกลางนายกัมปนาท วงศ์ชูวรรณ ผู้จัดการ กลุ่มเกษตรกรทำสวนธารน้ำทิพย์ สถาบันเกษตรผู้แปรรูปผลิตภัณฑ์ส่งออกยางรายใหญ่ภาคใต้ เปิดเผย ?ประชาชาติธุรกิจ? ว่า จากภาวะโรคระบาดไวรัสโคโรน่าในประเทศจีน ได้ส่งผลกระทบต่อธุรกิจส่งออกยางพาราของไทยอย่างมาก เพราะทางประเทศจีนสั่งปิดโรงงานอุตสาหกรรมยางพาราลงชั่วคราว และยังไม่ทราบท่าทีว่าประเทศจีนจะเปิดตลาดเมื่อใด ทำให้คู่ค้าผู้ส่งออกและคู่ค้ารับมอบยางพาราต้องยุติการซื้อขายลงจนกว่าสถานการณ์โรคจะคลี่คลาย?จากสถานการณ์ดังกล่าวส่งผลให้ยางพาราราคาลงมากว่า 2 บาท/กก. สำหรับราคายางพาราที่ส่งออกไปยังประเทศจีน ได้ขยับลงมาตั้งแต่ช่วงเทศกาลตรุษจีน และได้ส่งผลต่อเนื่องจากไวรัสโคโรน่าอีกระลอก สำหรับทิศทางราคายังไม่สามารถวิเคราะห์ได้ว่าจะอยู่ในระดับใด?นายกัมปนาทกล่าวต่อไปว่า สำหรับในกลุ่มตนปริมาณออร์เดอร์เป็นจำนวนมากต้องยุติการส่งออกไปยังคู่ค้าประเทศจีนเช่นกัน เพราะรับส่งมอบแล้วไม่มีคนทำงาน เพราะโรงงานอุตสาหกรรมแปรรูปยางในประเทศจีนหยุดทำงาน แต่ในกลุ่มยังมีตลาดรองรับอยู่ คือกลุ่มประเทศตะวันออกกลางรวมปริมาณหลายร้อยตัน รวมถึงการส่งออกไปประเทศมาเลเซียด้วย?กลุ่มผมยังดีมีตลาดอื่นรองรับ ตอนนี้มีออร์เดอร์ส่งออกคราวละประมาณ 400-500 ตันไปตลาดประเทศตะวันออกกลาง ยางพารามีทิศทางที่ดีและเป็นตลาดที่ใหญ่ การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) จะต้องทำการตลาดเอาไว้เพราะตลาดกลุ่มประเทศตะวันออกกลางจะไปได้ดี?นายกัมปนาทกล่าวต่อไปว่า สำหรับสถานการณ์ยางพาราไทยขณะนี้ถือว่าขาดแคลน เพราะเกิดภาวะแห้งแล้ง อีกทั้งทางภาคใต้เกิดโรคระบาดยางใบร่วง คุณภาพน้ำยางปริมาณน้อยลง ขณะที่ทางภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (อีสาน) ใกล้จะปิดหน้ากรีดยาง ต้องยุติการกรีดลง คาดการณ์ภาพรวมปริมาณยางพาราปีนี้จะหดหายไปจากตลาดมากสำหรับราคายางรมควัน 42.24 บาท/กก. ยางแผ่นดิบ 40 บาทเศษ/กก. ราคาขยับลงกว่า 2 บาท/กก. ประกอบกับค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลงมาอยู่ที่ 31.22 บาท/เหรียญ และเงินริงกิตขยับมาเป็น 7.60 บาท/ริงกิต แต่ปริวรรตเงินตรากลับดีขึ้น ส่วนสถานการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้นทำให้ผู้ประกอบการในกลุ่มสถาบันเกษตรกร เช่น สหกรณ์ยางพารา กลุ่มวิสาหกิจชุมชนยางพารา และกลุ่มยางพารา ต้องดำเนินกิจการยางพาราอย่างมีกลยุทธ์การที่นำน้ำยางสดมาแปรรูปเป็นยางรมควันจะมีภาวะเสี่ยงมาก เพราะจะรมควันยางพารากว่าจะได้ตามคุณภาพที่กำหนด และนำขายออกสู่ตลาดราคาก็เปลี่ยนแปลง จะประสบภาวะขาดทุนได้จึงมีการเปลี่ยนแปลงเป็นการซื้อขายน้ำยางสดวันต่อวัน ที่เหลือแปรรูปรมควันส่งขายตามออร์เดอร์ ได้ราคาดีสามารถป้องกันความเสี่ยงได้