ผู้เขียน หัวข้อ: อสย.ขอชะลอประมูลซื้อยางหลังใช้เงินกองทุนหมดเกลี้ยง 6 พันลบ.เตรียมขอครม.อนุมัติเพิ่มอีก 8 พันลบ  (อ่าน 802 ครั้ง)

Rakayang.Com

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 82591
    • ดูรายละเอียด
อสย.ขอชะลอประมูลซื้อยางหลังใช้เงินกองทุนหมดเกลี้ยง 6 พันลบ.เตรียมขอครม.อนุมัติเพิ่มอีก 8 พันลบ


สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย- -11 ก.พ. 58 13:12 น.



?      รายงานข่าวจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 9 ก.พ.ที่ผ่านมา องค์การสวนยาง(อสย.)ได้ทำหนังสือ 2 ฉบับเรื่องขอชะลอการเข้าประมูลยางพาราที่สำนักตลาดกลางถึงผู้อำนวยการสถาบันวิจัยยาง และอีกฉบับหนึ่งถึงนายอำนวย ปะติเส รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ขอชะลอการเข้าประมูลยางตามโครงการสร้างมูลภัณฑ์กันชนรักษาเสถียรภาพราคายางพารา


  ?? หนังสือที่ส่งไปถึงผู้อำนวยการสถาบันวิจัยยางระบุว่าอสย.ในฐานะผู้รับผิดชอบโครงการมูลภัณฑ์กันชนได้เข้าประมูลยางแผ่นดิบ ยางแผ่นรมควัน ผ่านตลาดกลางสงขลา นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี ยะลา บุรีรัมย์ หนองคาย แจ้งให้ทราบว่าเงินกู้ 6 พันล้านบาทที่ใช้ดำเนินการประมูลนั้นมีไม่เพียงพอต่อการจ่ายค่ายางที่ได้ประมูลไว้แล้ว และอสย.ได้เสนอครม.พิจารณาอนุมัติเงินกู้เพิ่มอีก 8 พันล้านบาทเพื่อใช้ในโครงการ แต่เนื่องจากนายกรัฐมนตรีติดภารกิจต่างประเทศ จึงยังไม่มีการพิจารณาตามข้อเสนออสย.โดยอาจพิจารณาในการประชุมครม.ครั้งถัดไป ทางอสย.จึงขอชะลอการเข้าประมูลยางตั้งแต่วันนี้(10 ก.พ.)จนกว่าได้รับอนุมัติวงเงินกู้เพิ่มเติมจากครม.


??  ขณะที่หนังสือที่มีไปถึงนายอำนวย ระบุว่า อสย.ได้เข้าประมูลยางที่ตลาดกลางทั้ง 6 แห่ง บัดนี้เงินกู้ 6 พันล้านบาทจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์(ธ.ก.ส.) โดยวันที่ 9 ก.พ.ที่ผ่านมา มีปริมาณยางที่ประมูลได้ทั้งหมด 9.7 หมื่นตันส่งผลให้เงินกู้ดังกล่าวใช้ซื้อยางตามโครงการหมดแล้วดังนั้นตั้งแต่วันที่ 10 ก.พ. ทางอ.ส.ย.จึงไม่มีเงินที่จะใช้ซื้อยางตามโครงการอีก จึงจำเป็นต้องชะลอการซื้อตามโครงการมูลภัณฑ์กันชนรักษาเสถียรภาพราคายางออกไปก่อน จนกว่าได้รับเงินเพิ่มจึงจะดำเนินการต่อได้


??  อย่างไรก็ตามนายอำนวยได้สั่งการว่า ขณะนี้ปริมาณยางยังไม่เพียงพอกับการส่งมอบตามสัญญา 2 แสนตัน จึงให้อสย.เข้าดำเนินการประมูลซื้อตามปกติ โดยแจ้งผู้ขายว่าการชำระเงินอาจล่าช้าระหว่างการขออนุมัติจากครม. พร้อมกับขอให้ตลาดกลางช่วยทำความเข้าใจกับเกษตรกรและผู้ขายให้เข้าใจอย่างทั่วถึงและให้รายงานให้ทราบทันทีหากมีปัญหาในทางปฏิบัติ


??  รายงานข่าวระบุว่าการใช้เงินตามโครงการมูลภัณฑ์กันชนนั้นครม.อนุมัติวงเงิน 2 หมื่นล้านแต่ได้แบ่งออกเป็นก้อน โดยให้ก้อนแรก 6 พันล้านบาท สำหรับการซื้อยางแผ่นรมควัน ยางแผ่นดิบ และอีก 4 พันทางนายอำนวยได้ริเริ่มการเข้าซื้อย้ำยางสดที่ 42 บาทต่อกิโลกรัมซึ่งเพิ่งเริ่มดำเนินการ โดยกองทุนนี้จะบริหารในลักษณะซื้อมาและขายไป เพื่อไม่ให้มีสต็อกคงค้างเป็นภาระต่อรัฐบาลและจะได้มีงบประมาณหมุนเวียนเข้ามา  ทั้งนี้ราคาที่เข้าประมูลล่าสุดที่ตลาดนั้นได้ขยับไปอยู่ที่ 63 บาทเศษต่อกิโลกรัม ซึ่งทางฝ่ายรัฐบาลเห็นว่าเป็นราคาที่เกษตรกรพอใจและสามารถรับได้ จึงได้หันมาดำเนินการในการซื้อน้ำยางสดเพื่อผลักดันราคา?


?  อย่างไรก็ตามกลุ่มเกษตรกรเห็นว่าราคาที่รัฐเข้าแทรกแซงในขณะนี้ไม่มีประโยชน์ เนื่องจากอยู่ในช่วงการปิดกรีดและเกษตรกรไม่มียางพาราออกมาขาย การแทรกแซงจึงไม่ถึงมือเกษตรกร
 




 
เรียบเรียง โดย สุรเมธี มณีสุโข                  อีเมล์. suramatee@efnancethai.com