ผู้เขียน หัวข้อ: วิเคราะห์ปัจจัยที่มีผลต่อราคายาง วันอังคารที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2558  (อ่าน 829 ครั้ง)

Rakayang.Com

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 82499
    • ดูรายละเอียด

วิเคราะห์ปัจจัยที่มีผลต่อราคายาง
วันอังคารที่  6  ตุลาคม  พ.ศ. 2558
ปัจจัย


วิเคราะห์

1. สภาพภูมิอากาศ


- ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนตกหนาแน่นและตกหนักบางแห่ง ร้อยละ 60 - 70 ของพื้นที่ ส่วนภาคใต้มีฝนกระจายร้อยละ 30 ของพื้นที่ ทำให้เกษตรกรกรีดยางได้เพิ่มขึ้น

2. การใช้ยาง


- รัฐบาลจีนประกาศปรับลดการจัดเก็บภาษีซื้อร้อยละ 10.0 สำหรับรถยนต์ที่มีขนาดเครื่องยนต์ไม่เกิน 1.6 ลิตร โดยลดลงมาครึ่งหนึ่ง ซึ่งจะมีผลบังคับใช้วันที่ 1 ตุลาคม 2558 ถึงสิ้นปี 2559 เพื่อกระตุ้นตลาดรถยนต์ท้องถิ่นซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก หลังจากความต้องการลดลงจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจ การลดภาษีลงมาอีกร้อยละ 5.0 ในครั้งนี้อาจช่วยเพิ่มยอดจำหน่ายรถยนต์ได้ราว 100,000 คันต่อเดือนในช่วงเวลาที่เหลือของปีนี้

3. เศรษฐกิจโลก


- ธนาคารโลก (World Bank) คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจีนจะขยายตัวร้อยละ 7.0 ในปีนี้ และจะค่อย ๆ ชะลอตัวลงในช่วง 2 ปีข้างหน้า ขณะที่ปี 2559 คาดว่าเศรษฐกิจจีนจะขยายตัวร้อยละ 6.7

- ธนาคารโลก (World Bank) เปิดเผยรายงานภาวะเศรษฐกิจล่าสุด โดยคาดว่าเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียตะวันออกและแปซิฟิคจะขยายตัวร้อยละ 6.5 ในปี 2558 ลดลงเล็กน้อยจากร้อยละ 6.8 ในปีก่อน โดยการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของประเทศที่มีรายได้สูงเป็นไปอย่างช้า ๆ การค้าโลกเติบโตช้าที่สุดนับตั้งแต่ปี 2552 ขณะที่เศรษฐกิจของประเทศกำลังพัฒนาทั่วภูมิภาคยังคงชะลอตัว

- มาร์กิต อิโคโนมิกส์ เปิดเผยข้อมูลดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนกันยายน ดังนี้

    ยูโรโซน ปรับตัวลดลงแตะ 53.7 จาก 54.4 ในเดือนสิงหาคม และลดลงเมื่อเทียบกับข้อมูลเบื้องต้นที่ 54.0
    เยอรมัน ลดลงแตะ 54.1 ซึ่งต่ำสุดในรอบ 2 เดือน จาก 54.9 ในเดือนสิงหาคม
    อิตาลี ลดลงแตะ 53.3 จาก 54.6 ในเดือนสิงหาคม อย่างไรก็ตาม ดัชนีภาคบริการเดือนกันยายนยังแสดงให้เห็นถึงการขยายตัวเป็นเดือนที่ 7 ติดต่อกัน
    ฝรั่งเศส ปรับตัวสูงขึ้นสู่ 51.9 ซึ่งสูงสุดในรอบ 2 เดือน จาก 50.6 ในเดือนสิงหาคม
    สหรัฐฯ ลดลงแตะ 55.1 จากตัวเลขเบื้องต้นที่ 55.6 และลดลงจาก 56.1 ในเดือนสิงหาคม นับเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือน

- สถาบันการเงินระหว่างประเทศ (IIF) เปิดเผยว่า เงินทุนหมุนเวียนที่ไหลเข้าสู่กลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ในปี 2558 จะปรับตัวลดลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2531 ขณะที่ IIF คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจของกลุ่มตลาดเกิดใหม่จะขยายตัวเพียงร้อยละ 3.5 ในปีนี้ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วิกฤตการเงินปี 2551 และคาดว่าจะขยายตัวขึ้นปานกลางสู่ร้อยละ 4.2 ในปี 2559

- สถาบันจัดการด้านอุปทานสหรัฐฯ (ISM) ระบุว่า ดัชนีภาคบริการของสหรัฐฯ เดือนกันยายนปรับตัวลงสู่ 56.9 จาก 59.0 ในเดือนสิงหาคม เป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2558่อมั่นทางธุรกิจของกลุ่มประเทศผลิตของจีนกระเตื้องขึ้นเล็กราดอกเบี้ย ขณะที่นักลงทุนทั่วโลกพากันหลีกเลี่ยงการ

4. อัตราแลกเปลี่ยน


- เงินบาทอยู่ที่ 36.34 บาทต่อดอลล่าร์สหรัฐ แข็งค่าขึ้น 0.08 บาทต่อดอลล่าร์สหรัฐ

- เงินเยนอยู่ที่ 120.45 เยนต่อดอลล่าร์สหรัฐ อ่อนค่าลง 0.54 เยนต่อดอลล่าร์สหรัฐ

5. ราคาน้ำมัน


- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาด Nymex ส่งมอบเดือนพฤศจิกายนปิดตลาดที่ 46.26 ดอลล่าร์สหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.72 ดอลล่าร์สหรัฐต่อบาร์เรล ได้รับแรงหนุนจากข้อมูลที่บ่งชี้ว่าการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ปรับตัวลดลง นอกจากนี้ตลาดน้ำมันดิบยังได้ปัจจัยบวกจากการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้

- สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (Brent) ตลาดลอนดอนส่งมอบเดือนพฤศจิกายน ปิดที่ 49.25ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 1.12 ดอลล่าร์สหรัฐต่อบาร์เรล

6. การเก็งกำไร


- ราคา TOCOM ส่งมอบเดือนพฤศจิกายน อยู่ที่ 162.1 เยนต่อกิโลกรัม เพิ่มขึ้น 1.9 เยนต่อกิโลกรัม และส่งมอบเดือนมีนาคม 2559 อยู่ที่ 172.5 เยนต่อกิโลกรัม เพิ่มขึ้น 1.7 เยนต่อดอลล่าร์สหรัฐ

- ราคา SICOM เปิดตลาดที่ 132.2 เซนต์สหรัฐต่อกิโลกรัม เพิ่มขึ้น 0.2 เซนต์สหรัฐต่อกิโลกรัม

7. ข่าว


- ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) สาขาบอสตัน กล่าวว่า เขาไม่มั่นใจว่าเฟดจะสามารถปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้ในเร็ว ๆ นี้ หลังจากที่ข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนกันยายนเพิ่มขึ้นต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้

- แหล่งข่าวเปิดเผยว่า กลุ่ม 12 ประเทศรอบมหาสมุทรแปซิฟิคบรรลุข้อตกลงการค้าเสรีระดับภูมิภาค ทำให้เกิดเขตการค้าเสรีใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก และกำหนดมาตรฐานระหว่างประเทศใหม่ ๆ ในด้านการค้าและการลงทุน โดยกลุ่มประเทศหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิค (TPP) นำโดยสหรัฐฯ มีสัดส่วนร้อยละ 40 ของ GDP โลก

8. ข้อคิดเห็นของผู้ประกอบการ


- ราคายางปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อย เพราะผู้ประกอบการส่วนใหญ่ที่ซื้อเก็บมานานต้องการขายออกจึงรอลุ้นให้ราคาสูงขึ้น เพื่อจะขายออกได้จะได้มีเงินทุนหมุนเวียนเมื่อตลาดต่างประเทศปรับเพิ่มขึ้นก็จะพยายามผลักดันราคาให้สูงขึ้นด้วย

?แนวโน้ม ราคายางมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นตามตลาดล่วงหน้าโตเกียวและราคาน้ำมัน ประกอบกับได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ ภายหลังจากตัวเลขจ้างงานเดือนกันยายนออกมาซบเซา อย่างไรก็ตาม อุปทานยางที่ออกสู่ตลาดเพิ่มขึ้น เนื่องจากสภาพอากาศทางภาคใต้เอื้อต่อการกรีดยาง และจีนอยู่ในช่วงหยุดยาว ซึ่งจะส่งผลให้ราคายางเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบจำกัด



ทีมวิเคราะห์สำนักงานตลาดกลางยางพาราสงขลา