ผู้เขียน หัวข้อ: สรุปข่าวเศรษฐกิจต่างประเทศและในประเทศ 24/07/56  (อ่าน 2521 ครั้ง)

ismailsa

  • Administrator
  • Newbie
  • *****
  • กระทู้: 46
    • ดูรายละเอียด

 

สรุปข่าวเศรษฐกิจต่างประเทศและในประเทศ 24/07/56

สรุปข่าวเศรษฐกิจต่างประเทศ
   ยูโรสแตท รายงานว่า ยอดรวมหนี้สิ้นของ 17 ประเทศสมาชิกยูโรโซนทำสถิติสูงสุดเป็น
ประวัติการณ์ที่ 92.2% ของจีดีพีในไตรมาส 1/56 จาก 90.6% ในช่วง 3 เดือนก่อนหน้า โดย
ประเทศที่มีสัดส่วนหนี้รัฐบาลต่อจีดีพีสูงสุดได้แก่ กรีซ 160.5% , อิตาลี 130.3% , โปรตุเกส
127.2% ,ไอร์แลนด์ 125.1%
   ขณะเดียวกันรายงานล่าสุดยังระบุว่า ???าระหนี้สิ้นของประเทศยุโรปหนักหน่วงยิ่งขึ้น
ขณะที่จีดีพีของอียูยังหดตัวลง และยังไม่มีแนวโน้มว่าสัดส่วนหนี้ต่อจีดีพีจะปรับตัวลดลง
   สำนักงานสถิติแห่งชาติของฝรั่งเศส (INSEE) รายงานว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้นำ
ธุรกิจใน???าคอุตสาหกรรมของฝรั่งเศสเพิ่มขึ้นเป็น 95 จุดในเดือน ก.ค. จาก 93 จุดในเดือนมิ.ย.
ซึ่งเป็นระดับสูงในรอบ 15 เดือน และถึงแม้จะยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในระยะยาว แต่ก็เป็นสัญญาณว่า
เศรษฐกิจของฝรั่งเศสเริ่มมีเสถียร???าพมากขึ้นหลังจากเผชิญกับ???าวะถดถอยในช่วงที่ผ่านมา
   ราคาบ้านสหรัฐในเดือน พ.ค.เพิ่มขึ้น 0.7% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า ต่ำกว่าที่
ตลาดคาดการณ์เล็กน้อยว่าจะขยายตัวได้ 0.8% แต่เป็นการปรับเพิ่มขึ้นติดต่อกันตลอด 16 เดือน
ที่ผ่านมา เนื่องจากมีการฟื้นตัวใน???าคอสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐ
    รัฐบาลญี่ปุ่นเพิ่มการประเมิน???าวะเศรษฐกิจติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 เนื่องจากการลง
ทุนใน???าคธุรกิจเริ่มส่งสัญญาณปรับฐานขึ้น โดยเศรษฐกิจญี่ปุ่น 'ฟื้นตัวขึ้น' เป็นครั้งแรกในรอบ
10 เดือน และการปรับตัวขึ้นของราคาในช่วงที่ผ่านมา แสดงว่าเงินฝืดกำลังคลี่คลายตัว  นอกจาก
นี้ ยังได้เพิ่มการประเมินการลงทุนใน???าคธุรกิจเป็นครั้งแรกในรอบ 4 เดือนโดยระบุว่าการลงทุน
ใน???าคธุรกิจกำลังกระเตื้องขึ้นเนื่องจากผลประกอบการของบริษัทเอกชนแข็งแกร่งขึ้น
   นายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อเฉียง ของจีน กล่าวว่า การขยายตัวของเศรษฐกิจจีนที่ระดับ
7% นั้นเป็นระดับต่ำสุดที่จีนจะสามารถยอมรับได้ นับเป็นการส่งสัญญาณว่าจีนพร้อมที่จะดำเนิน
การเพื่อสนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจถ้าหากเศรษฐกิจชะลอตัวลงมากไป
   มูลค่าการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ของอินโดนีเซียในไตรมาส 2 สูงขึ้น
18.9% คิดเป็นมูลค่า 6.72 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงจากที่ขยายตัว 30.2% ในช่วงเดียวกัน
ของปีก่อน  การขยายตัวของ FDI ที่ชะลอตัวลงอย่างมากนั้นมีเหตุจากราคาสินค้าโ???ค???ัณฑ์ที่ลด
ลงทำให้แผนการขยายการลงทุนของนักลงทุนต่างประเทศล่าช้าออกไป ทั้งนี้ กระแสเงินทุน FDI
ส่วนใหญ่เข้าไปลงทุนใน???าคเหมืองแร่ การคมนาคม และเคมีพื้นฐาน

สรุปข่าวเศรษฐกิจในประเทศ
   ธปท.กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งปีหลังยังมีความไม่แน่นอนสูง และมีโอกาส
ขยายตัวต่ำกว่าที่ ธปท.คาดการณ์ไว้ล่าสุดที่ 4.2% เนื่องจากความต้องการบริโ???คอาจชะลอตัว
ยาวนานกว่าที่คาด ซึ่งจะส่งผลต่อเนื่องถึงความเชื่อมั่นในการลงทุนด้วย แต่เชื่อว่าชะลอลงแค่ชั่ว
คราว
   ส่วนปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญคือความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก ทั้งสหรัฐ ญี่ปุ่น รวมถึง
จีน อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันสัดส่วนการส่งออกสินค้าของไทยไปจีนอยู่ที่ 12% ยุโรป 10% และ
สหรัฐ 10% แต่มีการส่งออกไปอาเซียนเป็นสัดส่วน 20% ซึ่งช่วยลดผลกระทบจากการชะลอตัว
ของเศรษฐกิจโลกได้บ้าง
   ดร.ประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่า ธปท.ระบุว่า คาดว่าเศรษฐกิจไทยปีนี้จะขยายตัว
4.2% ซึ่งไม่ต่ำกว่าศักย???าพ เพราะยังดีอยู่หากเทียบกับเศรษฐกิจใน???ูมิ???าค อย่างไรก็ตาม ไทย
จำเป็นต้องแก้ปัญหา 3 ประการที่เป็นอุปสรรคต่อการเติบโตของเศรษฐกิจในระยะยาว ได้แก่
   1.ปัญหาขาดแคลนปัจจัยการผลิตคือจำนวนแรงงาน เพราะโครงสร้างประชากรในไทย
เข้าสู่???าวะสังคมสูงวัย
   2.การพึ่งพาการย้ายแรงงานออกจาก???าคเกษตรไปยัง???าคอุตสาหกรรมเป็นไปได้ยาก
ขึ้น
   3.คุณ???าพปัจจัยการผลิต กล่าวคือประเทศไทยยังมีช่องว่างเรื่องการศึกษา นวัตกรรม
กฎหมายและการบังคับใช้ที่ดี
   ถ้าไม่แก้ปัญหาอุปสรรคเหล่านี้ ไทยก็จะเป็นประเทศ Middle Income ไปเรื่อยๆ

   สรุปยอดสุทธิการซื้อขายของแต่ละกลุ่ม (ล้านบาท)
นักลงทุนสถาบัน +1,853.07
บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ +551.49
นักลงทุนต่างชาติ +549.10
นักลงทุนทั่วไป -2,953.66
    SET Index ปิดที่ 1,513.31 จุด เพิ่มขึ้น 31.47 จุด หรือ +2.12% ด้วยมูลค่าซื้อ
ขาย 50,500 ล้านบาท โดยดัชนีเพิ่มขึ้นในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นๆ ใน???ูมิ???าค จากการที่
นายกรัฐมนตรีจีนประกาศว่าจะไม่ยอมให้อัตราการขยายตัวของจีดีพีต่ำกว่า 7% ทำให้นักลงทุน
ลดความกังวลเรื่องการชะลอตัวของจีนในช่วงที่ผ่านมา 
                ทั้งนี้ หุ้นที่มีผลต่อการปรับขึ้นของตลาดมากที่สุดได้แก่ กลุ่มโทรคมนาคมซึ่งมีประเด็น
บวกจากการจัดตั้งกองทุนอินฟราสตรัคเจอร์ฟันด์ของบริษัท TRUE ด้วย
   อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลรุ่นอายุไม่เกิน 40 ปี มีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย
ระหว่าง -0.01% ถึง 0.01% สำหรับวันนี้มีการประมูลพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี และ 13 ปี
มูลค่ารวม 22,000 ล้านบาท
   สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ มูดีส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส ได้ปรับความเสี่ยงของ
เพดานอันดับความน่าเชื่อถือของเงินฝาก และตราสารหนี้สกุลเงินในประเทศ (LC) และสกุลเงิน
ต่างประเทศ (FC) ของผู้ออกตราสารหนี้ของไทย ดังนี้
   1. เพดานอันดับความน่าเชื่อถือตราสารหนี้ระยะยาวสกุลเงินบาท ปรับจาก Aa2 มาอยู่
ที่ A1
   2. เพดานอันดับความน่าเชื่อเงินฝากระยะยาวสกุลเงินบาท ปรับจาก Aa2 มาอยู่ที่ A1
   3. เพดานอันดับความน่าเชื่อถือตราสารหนี้ระยะยาวสกุลเงินต่างประเทศยังคงอยู่ที่
A2 แต่เพดานอันดับความน่าเชื่อถือตราสารหนี้ระยะสั้นสกุลเงินต่างประเทศ ปรับจาก P-2 มาอยู่
ที่ P-1
   4. เพดานอันดับความน่าเชื่อถือเงินฝากระยะยาวสกุลเงินต่างประเทศยังคงอยู่ที่
Baa1 และเพดานอันดับความน่าเชื่อถือเงินฝากระยะสั้นสกุลเงินต่างประเทศยังคงไม่เปลี่ยน
แปลงโดยอยู่ที่ P-2
   การปรับในครั้งนี้สอดคล้องกับแนวทางในการกำหนดเพดานความเสี่ยงสำหรับตราสาร
หนี้สกุลเงินในประเทศซึ่งมูดี้ส์ได้ประกาศไว้เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ ไม่ได้มีผลกระทบต่อพันธบัตร
รัฐบาลไทย


ที่มา : Good Morning News บลจ.บัวหลวง            
            
 
 

เรียบเรียง โดย ประน้อม บุญร่วม


อีเมล์แสดงความคิดเห็น  commentnews@efinancethai.com

 
 
 


ที่มา อีไฟแนนซ์ไทย     วันที่   24/07/13   เวลา   8:00:52