ผู้เขียน หัวข้อ: World Today: ประเด็นข่าวต่างประเทศน่าติดตามวันนี้  (อ่าน 72 ครั้ง)

Rakayang.Com

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 82609
    • ดูรายละเอียด

World Today: ประเด็นข่าวต่างประเทศน่าติดตามวันนี้

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday May 2, 2024 07:24 ?สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ตลาดหุ้นเอเชีย-แปซิฟิกปรับตัวลงเป็นส่วนใหญ่ในช่วงเช้าวันนี้ (2 พ.ค.) หลังธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ลงมติตรึงอัตราดอกเบี้ยหลังสิ้นสุดการประชุม 2 วัน

ด้านนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดได้ปฏิเสธความเป็นไปได้ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งช่วยคลายความวิตกที่ว่า เฟดอาจจะไม่สามารถควบคุมเงินเฟ้อ

-- เงินเยนพุ่งขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์ในวันพุธ (1 พ.ค.) ขณะที่บรรดาเทรดเดอร์คาดว่า ทางการญี่ปุ่นจะเข้าแทรกแซงตลาดเพื่อหนุนเงินเยนซึ่งปรับตัวลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 34 ปี

ส่วนดอลลาร์สหรัฐร่วงลงอย่างหนักแตะ 153 เยน จากราวระดับ 157.55 เยน โดยยังไม่ทราบเหตุผลที่ชัดเจนเพียงไม่กี่ชั่วโมง หลังตลาดหุ้นสหรัฐปิดทำการและธนาคารกลางสหรัฐสิ้นสุดการประชุมนโยบายการเงิน

-- คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมวันพุธ (1 พ.ค.) ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบกว่า 23 ปี การประกาศคงอัตราดอกเบี้ยดังกล่าวเป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ และเป็นการตรึงอัตราดอกเบี้ยติดต่อกันเป็นครั้งที่ 6 หลังจากที่เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 11 ครั้งนับตั้งแต่ที่เริ่มวัฏจักรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค. 2565 ส่งผลให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรวม 5.25%

-- นักลงทุนเทน้ำหนักต่อคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค. โดยจะเป็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพียงครั้งเดียวในปีนี้ หลังการเปิดเผยดัชนีต้นทุนการจ้างงาน (ECI) ซึ่งสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ และบ่งชี้การพุ่งขึ้นของเงินเฟ้อ ซึ่งจะเป็นปัจจัยทำให้เฟดตรึงอัตราดอกเบี้ยในระดับสูงยาวนานกว่าที่คาดไว้

ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนคาดว่า เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมเดือนพ.ค., มิ.ย., ก.ค., ก.ย. และพ.ย.

นอกจากนี้ นักลงทุนให้น้ำหนัก 42.1% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.00-5.25% ในการประชุมเดือนธ.ค.

-- นายแอนโทนี บลิงเกน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ ได้เข้าพบนายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล ในวันพุธ (1 พ.ค.) เพื่อหารือเกี่ยวกับการบรรลุข้อตกลงหยุดยิงระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาส รวมทั้งเปิดทางให้มีการส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมมากขึ้นเข้าสู่ฉนวนกาซา

อย่างไรก็ดี ในการหารือดังกล่าว นายเนทันยาฮูกล่าวต่อนายบลิงเกนว่า อิสราเอลจะไม่ยอมรับข้อตกลงซึ่งมีเงื่อนไขระบุให้อิสราเอลยุติการทำสงครามในฉนวนกาซา และอิสราเอลจะเดินหน้าใช้ปฏิบัติการภาคพื้นดินโจมตีเมืองราฟาห์เพื่อกวาดล้างกลุ่มฮามาส

-- บริษัทจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน (J&J) แถลงในวันพุธ (1 พ.ค.) ว่า บริษัทจะจ่ายเงิน 6,500 ล้านดอลลาร์ หรือกว่า 240,000 ล้านบาทเพื่อยุติการถูกดำเนินคดีในสหรัฐจากโจทก์หลายพันราย ซึ่งอ้างว่าผลิตภัณฑ์แป้งฝุ่นของบริษัทเป็นสาเหตุทำให้เกิดมะเร็งรังไข่

ข้อตกลงดังกล่าวจะทำให้ J&J สามารถยุติคดีผ่านทางการยื่นล้มละลายของบริษัท LTL Management ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ

-- เชลล์ บริษัทน้ำมันรายใหญ่ของอังกฤษเปิดเผยในวันพุธ (1 พ.ค.) ว่า เชลล์ได้ถอนตัวออกจากตลาดพลังงานของจีน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการผลักดันโดยนายเวล ซาแวน ซีอีโอของเชลล์ที่จะมุ่งความสนใจไปที่การดำเนินงานที่สามารถทำกำไรได้มากกว่า

-- ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญที่เปิดเผยในวันนี้ เกาหลีใต้เปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนเม.ย. และดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนเม.ย.จากเอสแอนด์พี โกลบอล, ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เปิดเผยรายงานการประชุม, ออสเตรเลียเปิดเผยยอดนำเข้า ยอดส่งออก และดุลการค้าเดือนมี.ค., อังกฤษเปิดเผยราคาบ้านเดือนเม.ย.จากเนชั่นไวด์, ฝรั่งเศสเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายเดือนเม.ย.จากฮัมบูร์ก คอมเมอร์เชียล แบงก์ (HCOB), เยอรมนีเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายเดือนเม.ย.จากฮัมบูร์ก คอมเมอร์เชียล แบงก์ (HCOB), อียูเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายเดือนเม.ย.จากฮัมบูร์ก คอมเมอร์เชียล แบงก์ (HCOB) และสหรัฐเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ยอดนำเข้า ยอดส่งออก และดุลการค้าเดือนมี.ค. และยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนมี.ค.


โดย กัลยาณี ชีวะพานิช