ข้อความโดย: Rakayang.Com
« เมื่อ: พฤษภาคม 27, 2014, 03:30:34 PM »สหกรณ์เดินหน้าอัพเกรดยาง
แม้ราคายาง แผ่นดิบจะปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ กก.ละ 62 บาท สาเหตุ มาจากสต๊อกยางของจีนปรับตัวลดลงมา โรงงานหลายแห่งเริ่มขาดแคลนวัตถุดิบ เนื่องจากปริมาณยางออกสู่ตลาดน้อยเกินคาด แม้จะเป็นสัญญาณที่ดี แต่ ดร.จุมพล สงวนสิน อธิบดีกรมส่งเสริม สหกรณ์ มองว่า ราคาที่กระเตื้องขึ้น ยากจะเหมือนเมื่อ 3-4 ปีก่อน เพราะปัจจุบันประเทศเพื่อนบ้าน สวนยางเริ่มกรีดได้แล้ว มีต้นทุนต่ำกว่าเรา เพราะชาวสวนยางบ้านเขาลงมือทำเอง ไม่เหมือนบ้านเราทำงานด้วยโทรศัพท์ เราก็ยังสู้ไม่ได้ ราคาขนาดนี้ทำไปไม่เสมอตัวก็ขาดทุน เพราะต้องแบ่งจ่ายกันคนละครึ่งกับคนรับจ้าง...เมื่อราคายางร่วง เลยอยู่กันไม่ได้ เพื่อให้ชาวสวนยาง ยืนอยู่ได้ในภาวะเช่นนี้ ดร.จุมพล แนะเกษตรกรผู้ปลูกยางพารา ต้องเริ่มหันมาลดต้นทุนการผลิต ดูแลสวนยางเองแทนการ จ้าง และหันมาผลิตยางให้ได้คุณภาพอย่างจริงจัง
?เกษตรกรต้องให้ความสำคัญกับสหกรณ์มากขึ้น ผลผลิตที่ได้ทั้งหมดต้องขายให้กับสหกรณ์ และสหกรณ์จะต้องปรับเปลี่ยนบทบาทใหม่ จากเพียงแค่ทำหน้าที่รวบรวมยางขายส่งให้พ่อค้า มาเป็นนำยางมาแปรรูป เป็นยางก้อน ยางแท่ง
ยางคอมปาวด์ ส่งขายต่างประเทศโดยตรงไม่ต้องผ่านพ่อค้าคนกลาง เพราะจะทำให้สหกรณ์ขายยางได้ราคามากขึ้นและเมื่อสหกรณ์มีกำไรมากขึ้น นอกจากจะมีเงินปันผลคืนให้กับเกษตรกรได้แล้วสหกรณ์ยังสามารถรับซื้อยางจากสมาชิกในราคาที่สูงขึ้นได้ด้วย?
แต่สหกรณ์จะทำอย่างนี้ได้ ตัวชาวสวนยางต้องรวมตัวรวมกลุ่มเห็นความสำคัญของสหกรณ์เป็นที่ตั้ง...รวมกลุ่มเพื่อจะได้มียางปริมาณมากพอที่จะนำไปแปรรูปเป็นยางแท่ง ยางก้อน ยางคอมปาวด์ได้คุ้มกับต้นทุน และตรงความต้องการของโรงงานที่รับซื้อเพราะสิ่งที่โรงงานทุกแห่งต้องการเหมือนกัน...แหล่งขายยางจะต้องมีปริมาณยางมากเพียงพอ ส่งป้อนโรงงานได้สม่ำเสมอ ตรงเวลา และคุณภาพต้องดีมีคุณภาพตรงตามสเปกของโรงงาน ถ้าทำได้ตามนี้ยางมีเท่าไร สารพัดโรงงานจะวิ่งเข้าหาเอง เพราะสิ่งที่โรงงานทุกแห่งกลัวที่สุดคือ...วัตถุดิบ หรือยางมีไม่พอป้อนเครื่องจักรผลิตสินค้าฉะนั้นถ้าพี่น้องชาวสวนยอมเสียสละช่วยกันทำให้สหกรณ์เติบโตได้ในแนวทางนี้ ลาว เขมร พม่า มือใหม่หัดทำยางก็สู้ไม่ได้...ต่อให้ต้นทุนถูกกว่าก็ตามเหอะ.
ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์ (วันที่ 26 พฤษภาคม 2557)