ข้อความโดย: Rakayang.Com
« เมื่อ: พฤศจิกายน 13, 2014, 11:51:03 AM »วิเคราะห์ปัจจัยที่มีผลต่อราคายาง
วันพฤหัสบดีที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557
ปัจจัย
วิเคราะห์
1. สภาพภูมิอากาศ
- มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่ปกคลุมภาคใต้และอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้นทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะภาคใต้ฝั่งตะวันออกมีฝนร้อยละ 60 ของพื้นที่ และตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราช สงขลา ปัตตานี และนราธิวาส ส่งผลกระทบต่อการกรีดยาง ส่วนภาคใต้ฝั่งตะวันตกมีฝนร้อยละ 40 ของพื้นที่
2. การใช้ยาง
- ผู้เชี่ยวชาญด้านยางระดับแนวหน้าจากบริษัท The Rubber Economist กล่าวว่า ภาวะราคายางตกต่ำอยู่ในขณะนี้ ประกอบกับสถานการณ์ยางในเอเชียแปซิฟิกเริ่มดีขึ้น จะช่วยกระตุ้นความต้องการใช้ยางธรรมชาติมากขึ้น และยังได้แสดงความคาดหวังปัญหาราคายางตกต่ำมีแนวโน้มจะยุติลง เพราะการผลิตยางธรรมชาติชะลอตัวลง เนื่องจากปัญหาราคายางตกต่ำ ขณะที่ยังคงมีปริมาณยางในสต๊อกจำนวนมาก และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นอีกแต่จะไม่มากเท่ากับที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้า
3.เศรษฐกิจโลก
- สำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป เปิดเผยว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมขยายตัวร้อยละ 0.6 ในเดือนกันยายน เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า ซึ่งถือว่าขยายตัวต่ำกว่าที่คาดการณ์ บ่งชี้ถึงแนวโน้มที่น่าเป็นห่วงของเศรษฐกิจในภูมิภาค
- รัฐบาลญี่ปุ่น เปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อเครื่องจักรพื้นฐานของภาคเอกชนญี่ปุ่นในเดือนกันยายน ปรับตัวขึ้นร้อยละ 2.9 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าสู่ระดับ 8.316 แสนล้านเยน
- ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจญี่ปุ่นคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นจะขยายตัวที่ร้อยละ 2.47 เทียบรายปีในไตรมาส 3 ลดลง จากที่ได้คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ที่ร้อยละ 3.66
- ธนาคารกลางเกาหลีใต้ เปิดเผยว่า หนี้สินภาคครัวเรือนของเกาหลีใต้มีอัตราการขยายตัวต่อเดือนที่สูงที่สุดในเดือนตุลาคม อันเนื่องมาจากยอดเงินกู้จำนองที่เพิ่มขึ้นท่ามกลางการปรับตัวลงของอัตราดอกเบี้ย
- ธนาคารกลางเกาหลีใต้ (BOK) เผยราคาสินค้าเกษตรและสินค้าอุตสาหกรรมที่นำเข้าจากต่างประเทศปรับตัวลงร้อยละ 0.9 ซึ่งเป็นการปรับตัวลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 8 ในเดือนตุลาคม เนื่องจากราคาน้ำมันดิบลดลงกว่าร้อยละ 10.0 ในเดือนที่แล้ว
- กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เปิดเผยว่า สต๊อกสินค้าภาคค้าส่งของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.3 ในเดือนกันยายน หลังจากที่ขยายตัวร้อยละ 0.6 ในเดือนสิงหาคม โดยรายงานระบุว่าสต๊อกสินค้าคงทนเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.8 ขณะที่สต๊อกสินค้าไม่คงทนลดลงร้อยละ 0.6
- คณะที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจของรัฐบาลเยอรมนีได้ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจปี 2557 โดยอ้างถึงสถานการณ์ความตึงเครียดทางการเมืองและสภาพเศรษฐกิจต่างประเทศที่ไม่เอื้ออำนวย พร้อมกับเตือนรัฐบาลให้ทบทวนนโยบายเศรษฐกิจใหม่อีกครั้ง โดยได้ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจเยอรมนีเป็นขยายตัวร้อยละ 1.2 จากระดับร้อยละ 1.9 ที่คาดการณ์ไว้เมื่อเดือนมีนาคม
4. อัตราแลกเปลี่ยน
- เงินบาทอยู่ที่ 32.83 บาทต่อดอลล่าร์สหรัฐ แข็งค่า 0.02 บาทต่อดอลล่าร์สหรัฐและเงินเยนอยู่ที่ 115.63 เยนต่อดอลล่าร์สหรัฐ แข็งค่า 0.14 เยนต่อดอลล่าร์สหรัฐ
5. ราคาน้ำมัน
- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาด Nymex ส่งมอบเดือน ธันวาคม ปิดตลาดที่ 77.18 ดอลล่าร์สหรัฐต่อบาร์เรล ลดลง 0.76 ดอลล่าร์สหรัฐต่อบาร์เรล หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐฯ (EIA) ได้ปรับลดคาดการณ์ราคาน้ำมันและจากการคาดการณ์ที่ว่าสต๊อคน้ำมันดิบของสหรัฐฯ อาจจะเพิ่มขึ้นมากกว่า 1 ล้านบาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบส่งมอบเดือนธันวาคม ลดลง 1.29 ดอลลาร์ ปิดที่ 80.38 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
6. การเก็งกำไร
- ราคา TOCOM ส่งมอบเดือนธันวาคม 2557 อยู่ที่ 195.5 เยนต่อกิโลกรัม ลดลง 0.5 เยนต่อกิโลกรัม และส่งมอบเดือนเมษายน 2558 อยู่ที่ 204.4 เยนต่อกิโลกรัม ลดลง 0.4 เยนต่อกิโลกรัม
- ราคาตลาด SICOM เปิดตลาดที่ 167.0 เซนต์สหรัฐต่อกิโลกรัม เพิ่มขึ้น 3.2 เซนต์สหรัฐต่อกิโลกรัม
7. ข่าว
- สำนักงานสถิติแห่งชาติเกาหลีใต้ เปิดเผยว่า อัตราขยายตัวของตลาดแรงงานในประเทศลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือน ซึ่งนับเป็นการบ่งชี้ว่าตลาดแรงงานยังคงอยู่ในภาวะซบเซา
8. ข้อคิดเห็นของ ผู้ประกอบการ
- ราคายางยังคงปรับตัวสูงขึ้น โดยผู้ประกอบการกล่าวว่า หากฝนยังตกอยู่ราคายางน่าจะสูงขึ้นได้อีก เพราะปริมาณยางมีน้อยมาก ขณะที่ผู้ประกอบการยังมีความต้องการซื้อ แต่เมื่อใดที่ฝนแล้งประมาณ 1 สัปดาห์ ราคาก็จะปรับลงทันที เพราะซื้อเกินราคากันมานานต้องเรียกทุนคืนบ้าง
แนวโน้ม ราคายางมีแนวโน้มทรงตัวหรือเปลี่ยนแปลงช่วงแคบๆ โดยมีปัจจัยบวกจากอุปทานยางยังคงออกสู่ตลาดน้อยจากภาวะฝนตกหนักทางภาคใต้ของไทย ประกอบกับสหรัฐฯ และญี่ปุ่นรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใส และนโยบายแก้ไขปัญหาราคายางของภาครัฐยังส่งผลในทางบวก ส่วนปัจจัยลบมาจากราคาชี้นำตลาดโตเกียวปรับตัวลดลงจากการเทขาย ทำกำไรของนักลงทุนหลังจากราคาปรับตัวสูงขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 2 เดือน และราคาน้ำมันปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง ขณะที่นักลงทุนระมัดระวังในการซื้อขายเพื่อรอดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของจีนที่จะเปิดเผยในวันนี้ และความชัดเจนในเรื่องกองทุนมูลภัณฑ์กันชน (Buffer Fund)
ทีมวิเคราะห์สำนักงานตลาดกลางยางพาราสงขลา