ตอบ

Warning: this topic has not been posted in for at least 120 days.
Unless you're sure you want to reply, please consider starting a new topic.
ชื่อ:
อีเมล์:
หัวข้อ:
ไอค่อนข้อความ:

แนบไฟล์:
(Clear Attachment)
(แนบไฟล์เพิ่ม)
Restrictions: 4 per post, maximum total size 192KB, maximum individual size 128KB
Verification:
กรุณาพิมพ์ชื่อนี้ Rakayang เป็น???าษาไทย:

shortcuts: กด alt+s เพื่อตั้งกระทู้ หรือ alt+p แสดงตัวอย่าง


สรุปหัวข้อ

ข้อความโดย: Rakayang.Com
« เมื่อ: พฤษภาคม 26, 2015, 09:21:36 PM »

ถนนลาดยางพาราสายแรกใน จ.ตรัง ยังมีสภาพที่ดี หลังเปิดใช้งานมา 3 เดือน


โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
26 พฤษภาคม 2558 15:49 น.


ถนนลาดยางพาราสายแรกใน จ.ตรัง ยังมีสภาพที่ดี หลังเปิดใช้งานมา 3 เดือน


ตรัง - ผู้อำนวยการสำนักงานทางหลวงชนบทตรัง ตรวจสอบถนนลาดยางผสมยางพารา สายแรกในจังหวัดตรัง ยังอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ แม้จะเปิดใช้งานมากว่า 3 เดือนแล้ว เตรียมนำยางพารามาเป็นส่วนผสมมากขึ้นในอนาคต
       
        นายเจษฎา วินสน ผู้อำนวยการสำนักงานทางหลวงชนบทตรัง ได้นำผู้สื่อข่าวเดินทางไปตรวจสอบถนนลาดยางผสมยางพาราสายแรกในจังหวัดตรัง บนถนนสาย ตง.4023 แยกทางหลวง 4046 บ้านโคกยาง อำเภอสิเกา มีระยะทาง 2,620 เมตร ผิวทางกว้าง 6 เมตร ไหล่ทางกว้างข้างละ 1-2.25 เมตร และใช้งบประมาณในการก่อสร้าง 4,480,000 บาท ซึ่งได้มีการนำยางพารามาเป็นส่วนผสมประมาณ 10% หรือประมาณ 4,000 กิโลกรัม คิดเป็นมูลค่าประมาณ 200,000 บาท โดยพบว่า หลังจากการเปิดใช้งานตั้งแต่เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ หรือเมื่อ 3 เดือนเศษที่ผ่านมา ถนนลาดยางผสมยางพาราสายนี้ยังอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์
       
        นอกจากนั้น ในปีงบประมาณ 2558-2559 ก็ยังจะมีการก่อสร้างถนนลาดยางผสมยางพาราเพิ่มอีก 4 โครงการ โดยจะมีทั้งถนนแบบพาราสเลอรีซีล ซึ่งเป็นลักษณะของงานซ่อมบำรุง หรือการราดยางแบบบางๆ และถนนแบบพาราแอสฟัลต์ ซึ่งเป็นลักษณะของงานก่อสร้างทางสายใหม่ที่มีความคงทนสูง เพียงแต่ต้องใช้งบประมาณในการก่อสร้างสูงกว่าถนนแบบพาราสเลอรีซีล 3-4 เท่า นอกจากนั้น กรมทางหลวงชนบท กำลังอยู่ระหว่างการศึกษาทางวิชาการ เพื่อนำยางพารามาเป็นส่วนผสมในการก่อสร้างถนนให้สูงมากขึ้น จากเดิมที่ใช้ในสัดส่วนร้อยละ 8-10 มาเป็นร้อยละ 10-20
       
        อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ถนนลาดยางที่มีส่วนผสมของยางพาราจะมีราคาสูงกว่าถนนลาดยางปกติ ร้อยละ 10 แต่หลังการราดยางแล้วจะแห้งเร็ว เปิดใช้งานได้ภายใน 1 ชม. ซึ่งเหมาะต่อสภาพพื้นที่ของภาคใต้ที่มีฝนตกชุก ทำให้การราดยางทำได้ยาก ขณะเดียวกัน ถนนแบบนี้ก็ยังมีความคงทน และมีระยะเวลาการใช้งานได้ยาวนานกว่า ซึ่งจะช่วยประหยัดงบประมาณค่าซ่อมแซมถนน และช่วยให้การสัญจรไปมามีความปลอดภัย ที่สำคัญที่สุดก็คือ จะเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ปัญหาราคายางพาราตกต่ำให้แก่เกษตรกรตามนโยบายรัฐบาล