ข้อความโดย: Rakayang.Com
« เมื่อ: มิถุนายน 10, 2015, 08:46:34 AM »กลุ่มเขาบรรทัดผวาถูกโค่นยางพารา
หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ -- พุธที่ 10 มิถุนายน 2558 00:00:15 น.
ตรัง * ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สมาชิกเครือข่ายปฏิรูปที่ดินเทือกเขาบรรทัด จ.ตรังและพัทลุง 100 คน นำโดยนายสมนึก พุฒนวล ประธานเครือข่าย ได้ขอเข้าพบนายสมศักดิ์ ปริสุทโธ เหมทานนท์ ผู้ว่าราชการ จ.ตรัง เพื่อรับทราบนโยบายตัดโค่นยางพาราตามนโยบายขอคืนพื้นที่ป่าของรัฐบาล หลังจากมีกระแสว่ากระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ ไฟเขียวให้ตัดโค่นยางพาราที่บุกรุกพื้นที่ป่าธรรมชาติ หรืออยู่ระหว่างพิสูจน์สิทธิ์ ซึ่งอาจล้ำเข้าไปในพื้นที่โฉนดชุมชน ที่บางพื้นที่ยังอยู่ระหว่างชี้แนวเขตป่า แนวเขตชุมชน จนอาจกระทบต่ออาสินของชาวบ้านที่ทำกินอยู่
ผู้ว่าราชการ จ.ตรังได้ให้ตั้งตัวแทน 10 คน เข้าหารือ ยืนยันว่า ขณะนี้ผลสรุปแล้วว่าจะดำเนินตัดโค่นยางพาราในพื้นที่ จ.ตรัง จำนวน 141 แปลง ซึ่งเป็นพื้นที่สิ้นสุดทางคดี ศาลได้สั่งให้พื้นที่ดังกล่าวกลับมาเป็นของแผ่นดิน โดยเฉพาะต้องเป็นที่บุกรุกของนายทุนเท่านั้น และหากมีหลักฐานสืบทราบได้ว่าพื้นที่ดังกล่าวไม่ได้เป็นของนายทุน แต่เป็นของคนจนหรือไร้ที่ทำกิน ก็จะมีการคืนสิทธิ์ให้ทำกินต่อไป ยกเว้นจะเป็นนอมินีของนายทุน จึงขอให้เป็นคนจนหรือไร้ที่ทำกินเท่านั้น ซึ่งทางเครือข่ายฯ ฝากให้ผู้ว่าราชการ จ.ตรัง ช่วยติดตามความคืบหน้าการออก พ.ร.บ.สิทธิชุมชน ในการจัดการที่ดินและทรัพยากรในรูปแบบโฉนดชุมชน พ.ร.บ.ธนาคารที่ดิน ที่ขณะนี้อยู่ระหว่างพิจารณาของ สปช.ด้วย.
หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ -- พุธที่ 10 มิถุนายน 2558 00:00:15 น.
ตรัง * ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สมาชิกเครือข่ายปฏิรูปที่ดินเทือกเขาบรรทัด จ.ตรังและพัทลุง 100 คน นำโดยนายสมนึก พุฒนวล ประธานเครือข่าย ได้ขอเข้าพบนายสมศักดิ์ ปริสุทโธ เหมทานนท์ ผู้ว่าราชการ จ.ตรัง เพื่อรับทราบนโยบายตัดโค่นยางพาราตามนโยบายขอคืนพื้นที่ป่าของรัฐบาล หลังจากมีกระแสว่ากระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ ไฟเขียวให้ตัดโค่นยางพาราที่บุกรุกพื้นที่ป่าธรรมชาติ หรืออยู่ระหว่างพิสูจน์สิทธิ์ ซึ่งอาจล้ำเข้าไปในพื้นที่โฉนดชุมชน ที่บางพื้นที่ยังอยู่ระหว่างชี้แนวเขตป่า แนวเขตชุมชน จนอาจกระทบต่ออาสินของชาวบ้านที่ทำกินอยู่
ผู้ว่าราชการ จ.ตรังได้ให้ตั้งตัวแทน 10 คน เข้าหารือ ยืนยันว่า ขณะนี้ผลสรุปแล้วว่าจะดำเนินตัดโค่นยางพาราในพื้นที่ จ.ตรัง จำนวน 141 แปลง ซึ่งเป็นพื้นที่สิ้นสุดทางคดี ศาลได้สั่งให้พื้นที่ดังกล่าวกลับมาเป็นของแผ่นดิน โดยเฉพาะต้องเป็นที่บุกรุกของนายทุนเท่านั้น และหากมีหลักฐานสืบทราบได้ว่าพื้นที่ดังกล่าวไม่ได้เป็นของนายทุน แต่เป็นของคนจนหรือไร้ที่ทำกิน ก็จะมีการคืนสิทธิ์ให้ทำกินต่อไป ยกเว้นจะเป็นนอมินีของนายทุน จึงขอให้เป็นคนจนหรือไร้ที่ทำกินเท่านั้น ซึ่งทางเครือข่ายฯ ฝากให้ผู้ว่าราชการ จ.ตรัง ช่วยติดตามความคืบหน้าการออก พ.ร.บ.สิทธิชุมชน ในการจัดการที่ดินและทรัพยากรในรูปแบบโฉนดชุมชน พ.ร.บ.ธนาคารที่ดิน ที่ขณะนี้อยู่ระหว่างพิจารณาของ สปช.ด้วย.