ข้อความโดย: Rakayang.Com
« เมื่อ: มิถุนายน 21, 2015, 09:39:09 AM »(เพิ่มเติม)ตรวจสวนยาง3,500ไร่ รุกป่าเนินเพิ่ม-พิษณุโลก
ที่มา เดลินิวส์
?เมื่อวันที่ 20 มิ.ย. พ.อ.พงษ์เพชร เกษสุภะ ผู้เชี่ยวชาญ ศปป.4 กอ.รมน. พ.ต.ท.สุทธิพันธ์ วันทีรอง ผกก.สส.สภ.นครไทย นายมานพ สายอุ่นใจ ผอ.สำนักจัดการทรัพยากรป่่าไม่ที่ 4 สาขาพิษณุโลก นายสมชาย ฉิมแย้ม ชุดพยัคฆ์ไพร พร้อมเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ฝ่ายปกครอง ทหารกองพลพัฒนาที่ 3 นำกำลังกว่า 30 นายเข้าตรวจยึดพื้นที่ปลูกยางพาราบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าเนินเพิ่ม หลังจากที่มีการสำรวจสิทธิถือครองบางส่วน แต่กลับมีการเปลี่ยนมือไปสู่นายทุน พบว่าเนื้อที่ 3,565ไร่ บริเวณ หมู่ 1 และ หมู่ 3 บ้านบุ่ง ต.หนองกระท้าว อ.นครไทย จ.พิษณุโลก ถูกปรับสภาพเป็นสวนยางขนาดใหญ่ มีแคมป์คนงานพม่าไม่ต่ำกว่า 2 แห่ง พร้อมโรงแปรรูปยางแผ่นขนาดย่อมอยู่กลางสวนยาง
ขณะที่ชุดปฏิบัติการลงพื้นที่พบสวนยางพาราในพื้นที่เขตป่าสงวนป่าเนิ่นเพิ่ม จำนวนมาก แปลงถือครองขนาดใหญ่มีชาวพม่าทั้งหญิง และชายจำนวนหนึ่งเป็นคนงานคอยดูแลสวนยาง และกรีดยางให้กับนายทุน ตรวจสอบมีเอกสารการเข้าเมืองไทยอย่างถูกต้อง โดยได้รับค่าจ้างจากการกรีดยางแบ่งเป็นเปอร์เซ็นต์ โดยคนงานพม่าจะได้รับ 40 เปอร์เซ็นต์ ส่วนนายทุนเจ้าของสวนยางจะได้ 60 เปอร์เซ็นต์ และในบริเวณใกล้กับที่พักอาศัยยังมีการสร้างโรงรีดยางไว้จำนวน 2 -3 แห่ง
[size=78%]
[/size]
[/size][size=78%]
[/size]
จากการสอบสวนทราบว่า คนงานพม่าเดินทางจากเมืองเมาะละแหม่ง ผ่านด้านแม่สอดไปอยู่ที่ จ.ระยอง และ จ.สุราษฎร์ธานี 4 ปี และมีนายทุนเป็นคนภาคใต้ จ.สุราษฎร์ธานี ว่าจ้างพวกตนมาดูแลและกรีดยางได้เพียง 4 เดือน โดยมีคนไทยรับเป็นผู้ให้เข้ามาอาศัยในบ้านเลขที่112/1 หมู่ 1 ต.หนองกระท้าว อ.นครไทยจ.พิษณุโลก
ต่อมาเจ้าหน้าที่บุกตรวจสอบพื้นที่ปลูกยางแปลงที่ 2ซึ่งมีที่พักอาศัยปลูกเอาไว้อย่างดี มีการปั่นกระแสไฟฟ้าใช้ และมีระบบแผงโซล่าเซล และจานดาวเทียมติดตั้งเอาไว้ด้วย ส่วนผู้พักอาศัยไม่พบตัว คาดว่าจะหลบหนีไปก่อนหน้า เจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นภายในที่พักพบเอกสารเป็นบุคคลต่างด้าวชาวพม่ามี อุปกรณ์เครื่องใช้เสื้อผ้าของเด็กผู้หญิงด้วย จากการตรวจพบเอกสารทราบว่าเป็นสามีภรรยา และมีลูกสาว1 คน เจ้าหน้าที่จึงได้ทำบันทึกเอาไว้เป็นหลักฐาน
จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบแปลงที่ 3 มีการบุกรุกปลูกยางพาราในเขตป่าสงวน และไม้แดงถูกตัดจำนวน 2 ต้น ขนาดเส้นรอบวง 178 ซม.และ 132 ซม. ถูกตัดเป็นท่อนรวม 12 ท่อน ตรวจค้นบ้านพักพบอาวุธปืนแก๊ปยาว1 กระบอก แต่ไม่พบตัวผู้กระทำผิดคาดว่าจะหลบหนีไปก่อนหน้าเจ้าหน้าที่ จึงร่วมกันตรวจยึดของกลางส่ง พงส.สภ.นครไทยทำการสืบสวนสอบสวนติดตามตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย ต่อไป. ?
[/size][size=78%]
[/size]
ที่มา เดลินิวส์
?เมื่อวันที่ 20 มิ.ย. พ.อ.พงษ์เพชร เกษสุภะ ผู้เชี่ยวชาญ ศปป.4 กอ.รมน. พ.ต.ท.สุทธิพันธ์ วันทีรอง ผกก.สส.สภ.นครไทย นายมานพ สายอุ่นใจ ผอ.สำนักจัดการทรัพยากรป่่าไม่ที่ 4 สาขาพิษณุโลก นายสมชาย ฉิมแย้ม ชุดพยัคฆ์ไพร พร้อมเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ฝ่ายปกครอง ทหารกองพลพัฒนาที่ 3 นำกำลังกว่า 30 นายเข้าตรวจยึดพื้นที่ปลูกยางพาราบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าเนินเพิ่ม หลังจากที่มีการสำรวจสิทธิถือครองบางส่วน แต่กลับมีการเปลี่ยนมือไปสู่นายทุน พบว่าเนื้อที่ 3,565ไร่ บริเวณ หมู่ 1 และ หมู่ 3 บ้านบุ่ง ต.หนองกระท้าว อ.นครไทย จ.พิษณุโลก ถูกปรับสภาพเป็นสวนยางขนาดใหญ่ มีแคมป์คนงานพม่าไม่ต่ำกว่า 2 แห่ง พร้อมโรงแปรรูปยางแผ่นขนาดย่อมอยู่กลางสวนยาง
ขณะที่ชุดปฏิบัติการลงพื้นที่พบสวนยางพาราในพื้นที่เขตป่าสงวนป่าเนิ่นเพิ่ม จำนวนมาก แปลงถือครองขนาดใหญ่มีชาวพม่าทั้งหญิง และชายจำนวนหนึ่งเป็นคนงานคอยดูแลสวนยาง และกรีดยางให้กับนายทุน ตรวจสอบมีเอกสารการเข้าเมืองไทยอย่างถูกต้อง โดยได้รับค่าจ้างจากการกรีดยางแบ่งเป็นเปอร์เซ็นต์ โดยคนงานพม่าจะได้รับ 40 เปอร์เซ็นต์ ส่วนนายทุนเจ้าของสวนยางจะได้ 60 เปอร์เซ็นต์ และในบริเวณใกล้กับที่พักอาศัยยังมีการสร้างโรงรีดยางไว้จำนวน 2 -3 แห่ง
[size=78%]
[/size][/size][size=78%]
[/size]จากการสอบสวนทราบว่า คนงานพม่าเดินทางจากเมืองเมาะละแหม่ง ผ่านด้านแม่สอดไปอยู่ที่ จ.ระยอง และ จ.สุราษฎร์ธานี 4 ปี และมีนายทุนเป็นคนภาคใต้ จ.สุราษฎร์ธานี ว่าจ้างพวกตนมาดูแลและกรีดยางได้เพียง 4 เดือน โดยมีคนไทยรับเป็นผู้ให้เข้ามาอาศัยในบ้านเลขที่112/1 หมู่ 1 ต.หนองกระท้าว อ.นครไทยจ.พิษณุโลก
ต่อมาเจ้าหน้าที่บุกตรวจสอบพื้นที่ปลูกยางแปลงที่ 2ซึ่งมีที่พักอาศัยปลูกเอาไว้อย่างดี มีการปั่นกระแสไฟฟ้าใช้ และมีระบบแผงโซล่าเซล และจานดาวเทียมติดตั้งเอาไว้ด้วย ส่วนผู้พักอาศัยไม่พบตัว คาดว่าจะหลบหนีไปก่อนหน้า เจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นภายในที่พักพบเอกสารเป็นบุคคลต่างด้าวชาวพม่ามี อุปกรณ์เครื่องใช้เสื้อผ้าของเด็กผู้หญิงด้วย จากการตรวจพบเอกสารทราบว่าเป็นสามีภรรยา และมีลูกสาว1 คน เจ้าหน้าที่จึงได้ทำบันทึกเอาไว้เป็นหลักฐาน
จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบแปลงที่ 3 มีการบุกรุกปลูกยางพาราในเขตป่าสงวน และไม้แดงถูกตัดจำนวน 2 ต้น ขนาดเส้นรอบวง 178 ซม.และ 132 ซม. ถูกตัดเป็นท่อนรวม 12 ท่อน ตรวจค้นบ้านพักพบอาวุธปืนแก๊ปยาว1 กระบอก แต่ไม่พบตัวผู้กระทำผิดคาดว่าจะหลบหนีไปก่อนหน้าเจ้าหน้าที่ จึงร่วมกันตรวจยึดของกลางส่ง พงส.สภ.นครไทยทำการสืบสวนสอบสวนติดตามตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย ต่อไป. ?
[/size][size=78%]
[/size]