ตอบ

Warning: this topic has not been posted in for at least 120 days.
Unless you're sure you want to reply, please consider starting a new topic.
ชื่อ:
อีเมล์:
หัวข้อ:
ไอค่อนข้อความ:

แนบไฟล์:
(Clear Attachment)
(แนบไฟล์เพิ่ม)
Restrictions: 4 per post, maximum total size 192KB, maximum individual size 128KB
Verification:
กรุณาพิมพ์ชื่อนี้ Rakayang เป็น???าษาไทย:

shortcuts: กด alt+s เพื่อตั้งกระทู้ หรือ alt+p แสดงตัวอย่าง


สรุปหัวข้อ

ข้อความโดย: Rakayang.Com
« เมื่อ: มิถุนายน 23, 2015, 07:59:20 PM »

มทภ.4 ลุยเช็กโกดัง สอบสต๊อกยางพารา
โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์ 23 มิ.ย. 2558 08:05


 

 
 พล.ท.ปราการ ชลยุทธ แม่ทัพภาคที่ 4 เป็นประธานการประชุมรับฟังบรรยายสรุปการตรวจสอบสต๊อกยางพาราในพื้นที่ จ.สงขลา และ จ.พัทลุง เมื่อเช้าวันที่ 22 มิ.ย. ที่ห้องประชุมเสนาณรงค์ มณฑลทหารบกที่ 42 อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมจำนวนมาก เนื่องจากกองกำลังรักษาความสงบกองทัพภาคที่ 4 ได้มอบหมายให้กองบัญชาการควบคุม มทบ.42 รับผิดชอบตรวจสอบสต๊อกยางพาราตามโครงการพัฒนาศักยภาพ สถาบันเกษตรกรเพื่อรักษาเสถียรภาพยางพาราและสต๊อกยางตามโครงการมูลภัณฑ์ กันชน โดยพื้นที่รับผิดชอบของ มทบ.42 มีโกดังและโรงรมยางจำนวน 13 แห่ง อยู่ในพื้นที่ จ.สงขลา 12 แห่ง และพัทลุงอีก 1 แห่ง พร้อมกับแต่งตั้งคณะทำงาน 3 ชุด ชุดละ 15 คน ประกอบด้วย ทหาร พลเรือน ตำรวจและผู้แทนภาคประชาชนหรือสื่อมวลชนร่วมตรวจสอบ ในการตรวจสอบกำหนดให้แล้วเสร็จวันที่ 22-23 มิ.ย.
สำหรับวันนี้ได้แบ่งคณะทำงานลงพื้นที่ตรวจสอบสต๊อกยางพาราจำนวน 3 ชุด ชุดที่ 1 นำโดยแม่ทัพภาคที่ 4 ลงพื้นที่โกดังสำนักตลาดยางพารา จ.สงขลา โกดังนายวันชัย เด่นเสรีกุล และโรงรมบริษัทบีไรท์ รับเบอร์ สาขารัตภูมิ จ.สงขลา ชุดที่ 2 สนง.กองทุนสงเคราะห์การทำสวนยางสงขลา เขต 1 โกดังบริษัทแสงทองรับเบอร์ จำกัด และโรงรม บริษัท เซาท์อีสต์ รับเบอร์ จำกัด และชุดที่ 3 โรงรมบริษัท เซาท์แลนด์ รับเบอร์ จำกัด และโกดัง สนง.กองทุนสงเคราะห์สวนยางพัทลุง ทั้งนี้ หากการตรวจสอบไม่สามารถทำได้ทันตามกำหนดก็จะขยายเวลาออกไปอีก 1 วัน หากเสร็จสิ้นภารกิจแล้วจะนำผลที่ได้รายงานต่อกองทัพภาคที่ 4 และกำลังรักษาความสงบ กองทัพภาคที่ 4 ตามกำหนดเวลาต่อไป อย่างไรก็ตาม แม่ทัพภาค 4 ได้เน้นย้ำให้คณะทำงานทุกชุด ปฏิบัติงานเป็นไปในทิศทางเดียวกัน เชื่อมั่นว่าการดำเนินการในครั้งนี้ จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการกำหนดนโยบายของรัฐบาลเพื่อเร่งช่วยเหลือพี่ น้องเกษตรกรชาวสวนยางพาราต่อไป.