ข้อความโดย: Rakayang.Com
« เมื่อ: กันยายน 04, 2015, 11:09:41 AM »
วิเคราะห์ปัจจัยที่มีผลต่อราคายางวันศุกร์ที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2558ปัจจัย[/t][/t] [/t] วิเคราะห์ | 1. สภาพภูมิอากาศ | - มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมประเทศไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณประเทศไทยมีฝนอยู่ในเกณฑ์กระจายถึงเกือบทั่วไปและ ตกหนักบางแห่ง บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 30 - 40 ของพื้นที่ ส่งผลกระทบต่อการกรีดยาง | 2. การใช้ยาง | - ยอดจำหน่ายรถยนต์ในสหรัฐฯ เดือนสิงหาคมทะยานขึ้นอย่างแข็งแกร่ง มียอดรวมอยู่ที่ 1.58 ล้านคัน ซึ่งได้รับแรงหนุนจากความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในรถยนต์เอสยูวี และรถปิ๊กอัพ ประกอบกับราคาน้ำมันปรับตัวลดลงและตลาดแรงงานปรับตัวดีขึ้น | 3. เศรษฐกิจโลก | - มาร์กิต อิโคโนมิกส์ เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ขั้นสุดท้ายภาคบริการสหรัฐฯ เดือนสิงหาคมปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 56.1 จากระดับ 55.7 ในเดือนกรกฎาคม ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม สูงกว่าตัวเลขเบื้องต้นที่ระดับ 55.2 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ระดับ 56.0 ชี้ให้เห็นว่าไตรมาส 3 เศรษฐกิจสหรัฐฯ มีแนวโน้มขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง โดยดัชนีที่อยู่สูงกว่าระดับ 50.0 แสดงถึงการขยายตัวของภาคบริการ - พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้น หลังจากธนาคารกลางยุโรป (ECB) ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวและอัตราเงินเฟ้อในยูโรโซน ส่งผลให้มีการคาดว่า ECB จะขยายมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ การปรับตัวขึ้นของพันธบัตรรัฐบาลประเภทอายุ 10 ปี ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนลดลงสู่ระดับร้อยละ 2.168 จากร้อยละ 2.193 - ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) กล่าวว่า ECB พร้อมที่อัดฉีดเงินในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ วงเงิน 1.1 ล้านล้านยูโร (1.2 ล้านล้านดอลลาร์) เพื่อกระตุ้นเงินเฟ้อให้ฟื้นตัวจากระดับต่ำไปสู่เป้าหมายที่ระดับใกล้ร้อยละ 2.0 - ธนาคารกลางจีนประกาศอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบเป็นมูลค่า 1.5 แสนล้านหยวน หรือ 2.36 หมื่นล้านดอลลาร์ ผ่านทางข้อตกลงซื้อพันธบัตรโดยมีสัญญาขายคืน (reverse repo) อายุ 7 วัน เพื่อบรรเทาภาวะสภาพคล่องตึงตัว - ธนาคารกลางเกาหลีใต้ (BOK) เปิดเผยว่า รายได้ประชาชาติไตรมาส 2 ปี 2558 ปรับตัวลงเป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปีครึ่ง ส่งผลให้เกิดความวิตกกังวลว่าเศรษฐกิจของประเทศอาจเผชิญแนวโน้มการเติบโตที่ ระดับต่ำอย่างยาวนาน พร้อมเปิดเผยว่าทุนสำรองเงินตราต่างประเทศปรับตัวลงเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน เนื่องจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าได้ลดมูลค่าสินทรัพย์ที่ไม่อยู่ใน รูปสกุลเงินดอลลาร์ - ธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับร้อยละ 0.05 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ตามความคาดหมาย นอกจากนี้ ECB ยังคงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ธนาคารพาณิชย์ฝากไว้กับ ECB ที่ร้อยละ -0.2 หมายความว่าธนาคารพาณิชย์จะต้องจ่ายค่าฝากแก่ ECB หากมีการนำเงินส่วนเกินมาพักไว้ที่ ECB มาตรการดังกล่าวของ ECB มีขึ้นเพื่อสนับสนุนให้ธนาคารพาณิชย์นำเงินไปปล่อยกู้แก่ภาคธุรกิจแทนนำมาพักไว้ที่ ECB | 4. อัตราแลกเปลี่ยน | - เงินบาทอยู่ที่ 35.84 บาทต่อดอลล่าร์สหรัฐ อ่อนค่าลง 0.01 บาทต่อดอลล่าร์สหรัฐ - เงินเยนอยู่ที่ 119.79 เยนต่อดอลล่าร์สหรัฐ แข็งค่าขึ้น 0.70 เยนต่อดอลล่าร์สหรัฐ - ดอลล่าร์สหรัฐปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบสกุลเงินยูโรเมื่อคืนนี้ (3 กันยายน 2558) หลังจากธนาคารกลางยุโรป (ECB) เปิดช่องสำหรับการใช้มาตรการเพิ่มเติมเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของภูมิภาค ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบดอลล่าร์สหรัฐที่ระดับ 1.1121 ดอลล่าร์สหรัฐ จาก 1.1240 ดอลล่าร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์ลดลงที่ 1.5259 ดอลล่าร์สหรัฐ จากระดับ 1.5305 ดอลลาร์สหรัฐ | 5. ราคาน้ำมัน | - สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาด Nymex ส่งมอบเดือนตุลาคมปิดตลาดที่ 46.75 ดอลล่าร์สหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.50 ดอลล่าร์สหรัฐต่อบาร์เรล เนื่องจากได้รับแรงหนุนจากตลาดหุ้นที่ปรับตัวขึ้น และธนาคารกลางยุโรป (ECB) ประกาศเพิ่มการอัดฉีดเงินในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ - สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (Brent) ตลาดลอนดอนส่งมอบเดือนตุลาคม ปิดที่ 50.68ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.18 ดอลล่าร์สหรัฐต่อบาร์เรล | 6. การเก็งกำไร | - ราคา TOCOM ส่งมอบเดือนตุลาคม อยู่ที่ 157.5 เยนต่อกิโลกรัม ลดลง 2.0 เยนต่อกิโลกรัม และส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ 2559 อยู่ที่ 164.6 เยนต่อกิโลกรัม ลดลง 2.4 เยนต่อดอลล่าร์สหรัฐ - ราคา SICOM เปิดตลาดที่ 128.6 เซนต์สหรัฐต่อกิโลกรัม ลดลง 3.7 เซนต์สหรัฐต่อกิโลกรัม | 7. ข่าว | - กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่แล้วเพิ่มขึ้น 12,000 ราย สู่ระดับ 282,000 ราย ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นครั้งที่ 5 ในรอบ 6 สัปดาห์ และเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ต้นเดือนกรกฎาคม อย่างไรก็ดีตัวเลขดังกล่าวยังต่ำกว่าระดับ 300,000 รายเป็นสัปดาห์ที่ 26 ติดต่อกัน ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าตลาดแรงงานยังคงมีความแข็งแกร่ง | 8. ข้อคิดเห็นของผู้ประกอบการ | - ราคายางมีแนวโน้มปรับตัวลดลงตามราคาต่างประเทศ อย่างไรก็ตามหากผู้ประกอบการมีความต้องการซื้อยางมากราคายางน่าจะปรับตัวลด ลงไม่มากนัก | ?แนวโน้ม ราคายางมีแนวโน้มปรับตัวลดลงในทิศทางเดียวกับตลาดล่วงหน้าโตเกียว จากการแข็งค่าของเงินเยน ประกอบกับนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจจีนและสหรัฐฯ โดยยังคงติดตามข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ อย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) อย่างไรก็ตาม ราคายางยังคงได้รับปัจจัยหนุนจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น
ทีมวิเคราะห์สำนักงานตลาดกลางยางพาราสงขลา |
|