ข้อความโดย: Rakayang.Com
« เมื่อ: พฤศจิกายน 21, 2015, 10:00:08 AM »รองผู้ว่าฯ บึงกาฬ นำกำลังทวงคืนผืนป่าถูกชาวบ้านปิดล้อม ฝ่าดงรอดหวุดหวิด
โดย ไทยรัฐออนไลน์ 20 พ.ย. 2558 01:46

รองผู้ว่าฯ บึงกาฬ พร้อม จนท.ฝ่ายทหารและพลเรือนกว่า 200 นำเลื่อยโซ่ยนต์และอุปกรณ์ตัดต้นยางพารา หวังทวงคืนผืนป่าคืนเกือบ 300 ไร่ ถูกพระ-ชาวบ้านกว่า 100 คน ขัดขวางนำรถไถมาปิดล้อมทางเข้าออก ฝ่าวงล้อมหนีรอดออกมาได้อย่างทุลักทุเล...
เมื่อวันที่ 18 พ.ย. 58 นายชัยธวัช เนียมศิริ รองผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ และ พ.อ.วิชัย มารศรี รอง ผวจ.ฝ่าย กอ.รมน.จังหวัดบึงกาฬ นำกำลังเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง กว่า 200 นาย ร่วมปฏิบัติการทวงคืนผืนป่า โดยพื้นที่ดังกล่าวเป็นสวนยางพารา ในเขตพื้นที่บ้านคำภู หมู่ที่ 5 ตำบลชัยพร อำเภอเมือง จังหวัดบึงกาฬ จำนวน 2 แปลง รวมพื้นที่กว่า 290 ไร่ ที่มีผู้เข้าไปบุกรุกเพื่อปลูกยางพารา
สำหรับการปฏิบัติการในวันนี้เจ้าหน้าที่จะเข้าทำการตัดโค่นต้นยางพาราใน พื้นที่ดังกล่าว แต่ได้มีพระอธิการโกวิญ กันตธัมโม หรือ หลวงตาน้อย เจ้าอาวาสวัดภูงาม พร้อมลูกศิษย์ และประชาชนในพื้นที่ราว 100 คนเข้าขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่โดยใช้รถยนต์ รถไถปิดทางเข้าออกชนิดประชิดตัวเจ้าหน้าที่เพื่อไม่ให้ทำการตัดต้นยางพารา ได้สะดวก โดยเรียกร้องขอให้เจ้าหน้าที่หยุดการตัดต้นยางพาราไปก่อนเพื่อตรวจสอบแนวเขต พื้นที่ให้แน่ชัด
ด้านเจ้าหน้าที่ ยืนยันว่า ดำเนินการตามระเบียบขั้นตอนของกฎหมายทุกขั้นตอนแล้ว ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวได้มีการตรวจสอบเขตแดนว่า อยู่ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าดงภูสิงห์ แต่ชาวบ้านไม่ยอมให้ตัดต้นยาง จึงได้ปรึกษาเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยที่ร่วมปฏิบัติการในครั้งนี้ ซึ่งลงความเห็นว่า ควรถอนกำลังออกไปก่อน เพื่อไม่ไห้เกิดการปะทะกับประชาชน
นายชัยธวัช กล่าวว่า การปฏิบัติงานครั้งนี้ได้ทำตามขั้นตอนตามกฎหมายทุกประการ แต่ยังมีกลุ่มประชาชนมาขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ เพื่อไม่ให้สถานการณ์ลุกลามบานปลายจึงได้สั่งถอนกำลังออกมา แต่ยืนยันว่า ยังจะต้องมีการปฏิบัติตามนโยบายของ คสช.ในการทวงคืนผืนป่าอย่างแน่นอน
ด้านพระอธิการโกวิญ กันตธัมโม หรือหลวงตาน้อย เจ้าอาวาสวัดภูงาม ที่เคยเรียกร้องขอความเป็นธรรมผ่านสื่อมวลชนไปก่อนหน้านี้กล่าวว่า อยากให้ยุติการตัดโค่นต้นยางพาราไปก่อน และอยากให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบแนวเขตให้ชัดเจนว่า จุดไหนที่ให้วัดเช่าและจุดไหนเป็นป่าสงวนแห่งชาติ
"เหตุผลที่ไม่อยากให้ตัดจริงๆ คือว่า อาตมาได้ทำการปลูกป่าทั้งยางนา ประดู่ มะค่าโมง พะยูงแซมในสวนยางพาราส่วนที่เลิกกรีดแล้วและปลูกภายในวัด จากแต่ก่อนเมื่อ 30 ปีที่เข้ามาอยู่ครั้งแรกเป็นป่าโล่งเตียน เพราะชาวบ้านจับจองปลูกมันสำปะหลังกันหมด แต่ปัจจุบันป่าที่อาตมาปลูกมาตลอด 30 ปี เป็นป่าทึบเดินเข้าไปแทบหาทางออกไม่ได้แล้ว" พระอธิการโกวิญ กล่าว.
โดย ไทยรัฐออนไลน์ 20 พ.ย. 2558 01:46

รองผู้ว่าฯ บึงกาฬ พร้อม จนท.ฝ่ายทหารและพลเรือนกว่า 200 นำเลื่อยโซ่ยนต์และอุปกรณ์ตัดต้นยางพารา หวังทวงคืนผืนป่าคืนเกือบ 300 ไร่ ถูกพระ-ชาวบ้านกว่า 100 คน ขัดขวางนำรถไถมาปิดล้อมทางเข้าออก ฝ่าวงล้อมหนีรอดออกมาได้อย่างทุลักทุเล...
เมื่อวันที่ 18 พ.ย. 58 นายชัยธวัช เนียมศิริ รองผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ และ พ.อ.วิชัย มารศรี รอง ผวจ.ฝ่าย กอ.รมน.จังหวัดบึงกาฬ นำกำลังเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง กว่า 200 นาย ร่วมปฏิบัติการทวงคืนผืนป่า โดยพื้นที่ดังกล่าวเป็นสวนยางพารา ในเขตพื้นที่บ้านคำภู หมู่ที่ 5 ตำบลชัยพร อำเภอเมือง จังหวัดบึงกาฬ จำนวน 2 แปลง รวมพื้นที่กว่า 290 ไร่ ที่มีผู้เข้าไปบุกรุกเพื่อปลูกยางพารา


นายชัยธวัช กล่าวว่า การปฏิบัติงานครั้งนี้ได้ทำตามขั้นตอนตามกฎหมายทุกประการ แต่ยังมีกลุ่มประชาชนมาขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ เพื่อไม่ให้สถานการณ์ลุกลามบานปลายจึงได้สั่งถอนกำลังออกมา แต่ยืนยันว่า ยังจะต้องมีการปฏิบัติตามนโยบายของ คสช.ในการทวงคืนผืนป่าอย่างแน่นอน

"เหตุผลที่ไม่อยากให้ตัดจริงๆ คือว่า อาตมาได้ทำการปลูกป่าทั้งยางนา ประดู่ มะค่าโมง พะยูงแซมในสวนยางพาราส่วนที่เลิกกรีดแล้วและปลูกภายในวัด จากแต่ก่อนเมื่อ 30 ปีที่เข้ามาอยู่ครั้งแรกเป็นป่าโล่งเตียน เพราะชาวบ้านจับจองปลูกมันสำปะหลังกันหมด แต่ปัจจุบันป่าที่อาตมาปลูกมาตลอด 30 ปี เป็นป่าทึบเดินเข้าไปแทบหาทางออกไม่ได้แล้ว" พระอธิการโกวิญ กล่าว.