ข้อความโดย: Rakayang.Com
« เมื่อ: มกราคม 13, 2016, 03:41:07 PM »ชาวสวนเฮ ราคาน้ำยางพุ่ง! กก.ละ 30 บาท ชั่วข้ามคืน
โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ วันที่ 13 มกราคม 2559, 11:47
ชาวสวนดีใจ รัฐบาลยื่นมือเข้าช่วยเหลือราคายาง-ปรับลดราคาสินค้าค่าครองชีพ ขณะที่ราคาน้ำยางสดวันนี้ปรับราคาขึ้นอีก กก.ละ1บาท เป็นกก.31?32บาท
เกษตรกรชาวสวนยางพาราแสดงความดีใจที่รัฐบาลยอมช่วยเหลือเรื่องยางพารา เชื่อว่าจะทำให้ราคาดีขึ้นอย่างแน่นอน แต่อยากให้ช่วยให้ได้ที่ราคากิโลกรัมละ 60 บาท เนื่องจากอยู่ไม่ได้หากราคาขยับเพิ่มขึ้นแต่ยังต่ำกว่า กก.ละ 60 บาท เพราะสินค้าทุกชนิดมีราคาแพง แต่ละครอบครัวมีหนี้สิน จึงเรียกร้องให้รัฐบาลเข้ามาดูแลเรื่องราคาสินค้าอุปโภคบริโภคให้ปรับลดราคา ลงมาด้วย เพราะเท่าที่เห็นมีการปรับลดแค่เรื่องราคาน้ำมันอย่างเดียวเท่านั้น แต่สินค้าอย่างอื่นที่จำเป็นยังมีราคาสูงมาก ทั้งนี้ เพื่อเป็นการช่วยเหลือค่าครองชีพให้แก่ประชาชน
นางสาวอารีย์ สีนา อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 54/1 หมู่ที่ 3 ต.นาพละ อ.เมือง จ.ตรังกล่าวว่า อยากได้ราคายางที่ กก.ละ 60 บาท เพราะรายจ่ายประจำมีมากอยู่แล้ว และข้าวของก็มีราคาแพง
ส่วนนายพยุง รักนาย อายุ 62 ปี อยู่บ้านเลขที่ 106 หมู่ 8 ต.หนองปรือ อ.รัษา กล่าวว่า ปัญหาราคายากตกต่ำทำให้ชาวบ้านเดือดร้อนเป็นอยากมาก แต่ละคนไม่มีเงินให้ลูกไปโรงเรียน ไม่มีเงินใช้หนี้ แต่ดีใจที่รัฐบาลยอมช่วยเหลือ มาตรการดังกล่าวอาจะเป็นการบรรเทาปัญหาในระยะเวลาหนี่งเท่านั้น ที่ชาวสวนอาจพออยู่ได้ แต่ระยะยาวชาวสวนอยู่ไม่ได้ ถ้ารัฐบาลปรับราคายางให้ได้ที่กิโลกรัมละ 50-60 บาท แล้วปรับลดราคาสินค้าทุกชนิดลงมาด้วย ก็จะทำให้ชาวสวนอยู่ได้ จึงต้องการให้รัฐบาลดูแลปรับราคาสินค้าลงมาอีก
อย่างไรก็ตาม ในวันนี้ราคาน้ำยางสดที่เกษตรกรส่วนใหญ่เก็บน้ำยางแล้วนำไปขาย โดยไม่ผ่านกระบวนการทำยางแผ่น เพราะต้องการมีรายได้เลี้ยงครอบครัวไปวันๆได้ปรับราคาเพิ่มขึ้นอีก กก.ละ 1 บาท เป็นกก.31 ? 32 บาท ยิ่งสร้างความมั่นใจว่า ราคาจะต้องปรับตัวเพิ่มขึ้นอีก ตามแนวทางที่รัฐบาลอยากจะช่วยเหลือ
โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ วันที่ 13 มกราคม 2559, 11:47
ชาวสวนดีใจ รัฐบาลยื่นมือเข้าช่วยเหลือราคายาง-ปรับลดราคาสินค้าค่าครองชีพ ขณะที่ราคาน้ำยางสดวันนี้ปรับราคาขึ้นอีก กก.ละ1บาท เป็นกก.31?32บาท
เกษตรกรชาวสวนยางพาราแสดงความดีใจที่รัฐบาลยอมช่วยเหลือเรื่องยางพารา เชื่อว่าจะทำให้ราคาดีขึ้นอย่างแน่นอน แต่อยากให้ช่วยให้ได้ที่ราคากิโลกรัมละ 60 บาท เนื่องจากอยู่ไม่ได้หากราคาขยับเพิ่มขึ้นแต่ยังต่ำกว่า กก.ละ 60 บาท เพราะสินค้าทุกชนิดมีราคาแพง แต่ละครอบครัวมีหนี้สิน จึงเรียกร้องให้รัฐบาลเข้ามาดูแลเรื่องราคาสินค้าอุปโภคบริโภคให้ปรับลดราคา ลงมาด้วย เพราะเท่าที่เห็นมีการปรับลดแค่เรื่องราคาน้ำมันอย่างเดียวเท่านั้น แต่สินค้าอย่างอื่นที่จำเป็นยังมีราคาสูงมาก ทั้งนี้ เพื่อเป็นการช่วยเหลือค่าครองชีพให้แก่ประชาชน
นางสาวอารีย์ สีนา อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 54/1 หมู่ที่ 3 ต.นาพละ อ.เมือง จ.ตรังกล่าวว่า อยากได้ราคายางที่ กก.ละ 60 บาท เพราะรายจ่ายประจำมีมากอยู่แล้ว และข้าวของก็มีราคาแพง
ส่วนนายพยุง รักนาย อายุ 62 ปี อยู่บ้านเลขที่ 106 หมู่ 8 ต.หนองปรือ อ.รัษา กล่าวว่า ปัญหาราคายากตกต่ำทำให้ชาวบ้านเดือดร้อนเป็นอยากมาก แต่ละคนไม่มีเงินให้ลูกไปโรงเรียน ไม่มีเงินใช้หนี้ แต่ดีใจที่รัฐบาลยอมช่วยเหลือ มาตรการดังกล่าวอาจะเป็นการบรรเทาปัญหาในระยะเวลาหนี่งเท่านั้น ที่ชาวสวนอาจพออยู่ได้ แต่ระยะยาวชาวสวนอยู่ไม่ได้ ถ้ารัฐบาลปรับราคายางให้ได้ที่กิโลกรัมละ 50-60 บาท แล้วปรับลดราคาสินค้าทุกชนิดลงมาด้วย ก็จะทำให้ชาวสวนอยู่ได้ จึงต้องการให้รัฐบาลดูแลปรับราคาสินค้าลงมาอีก
อย่างไรก็ตาม ในวันนี้ราคาน้ำยางสดที่เกษตรกรส่วนใหญ่เก็บน้ำยางแล้วนำไปขาย โดยไม่ผ่านกระบวนการทำยางแผ่น เพราะต้องการมีรายได้เลี้ยงครอบครัวไปวันๆได้ปรับราคาเพิ่มขึ้นอีก กก.ละ 1 บาท เป็นกก.31 ? 32 บาท ยิ่งสร้างความมั่นใจว่า ราคาจะต้องปรับตัวเพิ่มขึ้นอีก ตามแนวทางที่รัฐบาลอยากจะช่วยเหลือ