ข้อความโดย: Rakayang.Com
« เมื่อ: มกราคม 15, 2016, 02:33:19 PM »?ณัฐวุฒิ?จี้รัฐบาลเคลียร์ 5 ปมมาตรการอุ้มสวนยาง เรียกร้องช่วยชาวนาด้วย
วันที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2559 เวลา 21:25:14 น
เมื่อ วันที่ 14 มกราคม นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช. กล่าวถึงมาตรการในการช่วยเหลือชาวสวนยางโดยรับซื้อกิโลกรัมละ 45 บาท ว่าในที่สุดรัฐบาลก็ออกมาตรการช่วยเหลือชาวสวนยาง แม้ว่าจะล่าช้าแต่เมื่อลงมือทำแล้วก็ขอให้เกิดประโยชน์กับเกษตรกรอย่างแท้ จริง อย่างไรก็ตาม มีข้อห่วงใยบางประการให้รัฐบาลพิจารณาประกอบการดำเนินการแก้ปัญหาดังนี้ 1.ก่อนหน้านี้รัฐบาลบอกว่าที่แก้ปัญหาล่าช้าส่วนหนึ่งเกิดจากยังไม่ได้แต่ง ตั้งบอร์ด กยท. แต่เมื่อแต่งตั้งแล้วกลับมอบหมายให้ อคส.เป็นหน่วยงานหลัก ทั้งๆ ที่ อคส.ไม่มีประสบการณ์ในตลาดซื้อขายยางที่เป็นบทบาทขององค์การสวนยาง (อ.ส.ย.) มาโดยตลอด กรณีนี้จะเกิดปัญหาในทางปฏิบัติหรือไม่ 2.การกำหนดราคารับซื้อ 4.5 ล้านบาทในกรอบปริมาณ 100,000 ตัน จะยืนราคาจนครบจำนวนรับซื้อหรือปรับเปลี่ยนตามสภาพตลาด เช่น หากผ่านไป 1 สัปดาห์ราคาในตลาดสูงขึ้นหรือต่ำลง จะปรับราคาตามเพื่อนำตลาดต่อไปหรือไม่ หากยังคงยืนราคาเดิมเชื่อว่าจะเกิดเสียงเรียกร้องจากเกษตรกรอีกครั้ง
นาย ณัฐวุฒิกล่าวอีกว่า 3.เห็นด้วยกับการออกมาตรการเสริม เช่น กระทรวงพาณิชย์จัดโครงการธงฟ้าจำหน่ายสินค้าราคาถูก แต่ควรขับเคลื่อนพร้อมกับในพื้นที่ปลูกยางพาราทั่วประเทศ ไม่ใช่เฉพาะเจาะจงเพียงภาคใดภาคหนึ่ง 4.รูปธรรมการนำยางพารามาใช้ในประเทศควรเดินหน้าโดยเร็วที่สุด และทำไปพร้อมกับการประชาสัมพันธ์อย่างเป็นระบบ เพื่อผลทางจิตวิทยาในตลาดซื้อขายระดับโลก และ 5.เมื่อรัฐบาลอ้างว่าไม่มีเงินมาตลอด แต่สามารถจัดสรรเม็ดเงินมาแก้ปัญหาเรื่องยางพาราได้ ก็ควรหันไปมองปัญหาชาวนาซึ่งกำลังเดือดร้อนยกกำลังสอง ทั้งจากระดับราคาที่ตกต่ำอย่างยิ่ง หลังไม่มีโครงการจำนำข้าว และสภาพภัยแล้งที่วิกฤตตั้งแต่ต้นปีด้วย
"วันนี้ สถานการณ์ชาวนาไม่ต่างอะไรกับชาวสวนยาง รัฐบาลควรให้ความสำคัญและแสดงความจริงใจในการแก้ปัญหาบ้าง ไม่ใช่ทิ้งไว้ข้างทางแล้วเดินหน้าเล่นงานผู้เกี่ยวข้องกับโครงการจำนำ ข้าวอย่างเมามันเหมือนขณะนี้" นายณัฐวุฒิกล่าว
วันที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2559 เวลา 21:25:14 น
เมื่อ วันที่ 14 มกราคม นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช. กล่าวถึงมาตรการในการช่วยเหลือชาวสวนยางโดยรับซื้อกิโลกรัมละ 45 บาท ว่าในที่สุดรัฐบาลก็ออกมาตรการช่วยเหลือชาวสวนยาง แม้ว่าจะล่าช้าแต่เมื่อลงมือทำแล้วก็ขอให้เกิดประโยชน์กับเกษตรกรอย่างแท้ จริง อย่างไรก็ตาม มีข้อห่วงใยบางประการให้รัฐบาลพิจารณาประกอบการดำเนินการแก้ปัญหาดังนี้ 1.ก่อนหน้านี้รัฐบาลบอกว่าที่แก้ปัญหาล่าช้าส่วนหนึ่งเกิดจากยังไม่ได้แต่ง ตั้งบอร์ด กยท. แต่เมื่อแต่งตั้งแล้วกลับมอบหมายให้ อคส.เป็นหน่วยงานหลัก ทั้งๆ ที่ อคส.ไม่มีประสบการณ์ในตลาดซื้อขายยางที่เป็นบทบาทขององค์การสวนยาง (อ.ส.ย.) มาโดยตลอด กรณีนี้จะเกิดปัญหาในทางปฏิบัติหรือไม่ 2.การกำหนดราคารับซื้อ 4.5 ล้านบาทในกรอบปริมาณ 100,000 ตัน จะยืนราคาจนครบจำนวนรับซื้อหรือปรับเปลี่ยนตามสภาพตลาด เช่น หากผ่านไป 1 สัปดาห์ราคาในตลาดสูงขึ้นหรือต่ำลง จะปรับราคาตามเพื่อนำตลาดต่อไปหรือไม่ หากยังคงยืนราคาเดิมเชื่อว่าจะเกิดเสียงเรียกร้องจากเกษตรกรอีกครั้ง
นาย ณัฐวุฒิกล่าวอีกว่า 3.เห็นด้วยกับการออกมาตรการเสริม เช่น กระทรวงพาณิชย์จัดโครงการธงฟ้าจำหน่ายสินค้าราคาถูก แต่ควรขับเคลื่อนพร้อมกับในพื้นที่ปลูกยางพาราทั่วประเทศ ไม่ใช่เฉพาะเจาะจงเพียงภาคใดภาคหนึ่ง 4.รูปธรรมการนำยางพารามาใช้ในประเทศควรเดินหน้าโดยเร็วที่สุด และทำไปพร้อมกับการประชาสัมพันธ์อย่างเป็นระบบ เพื่อผลทางจิตวิทยาในตลาดซื้อขายระดับโลก และ 5.เมื่อรัฐบาลอ้างว่าไม่มีเงินมาตลอด แต่สามารถจัดสรรเม็ดเงินมาแก้ปัญหาเรื่องยางพาราได้ ก็ควรหันไปมองปัญหาชาวนาซึ่งกำลังเดือดร้อนยกกำลังสอง ทั้งจากระดับราคาที่ตกต่ำอย่างยิ่ง หลังไม่มีโครงการจำนำข้าว และสภาพภัยแล้งที่วิกฤตตั้งแต่ต้นปีด้วย
"วันนี้ สถานการณ์ชาวนาไม่ต่างอะไรกับชาวสวนยาง รัฐบาลควรให้ความสำคัญและแสดงความจริงใจในการแก้ปัญหาบ้าง ไม่ใช่ทิ้งไว้ข้างทางแล้วเดินหน้าเล่นงานผู้เกี่ยวข้องกับโครงการจำนำ ข้าวอย่างเมามันเหมือนขณะนี้" นายณัฐวุฒิกล่าว