ข้อความโดย: Rakayang.Com
« เมื่อ: มกราคม 28, 2016, 09:10:42 AM »จุดรับซื้อยางที่อุบลฯเบาบางชี้ขั้นตอนยุ่งยาก
27 ม.ค. 59 (20:01 น.) ที่มา INN
จุดรับซื้อยางที่อุบลฯ เบาบาง ชาวสวนชี้มีขั้นตอนยุ่งยาก และกำหนดปริมาณจำกัด ด้านผู้ว่าฯ เตรียมเสนอของบ ซื้อยางเพื่อแปรรูปเป็นที่รองพื้นบ่อเลี้ยงปลา
ที่บริเวณกลุ่ม ชาวสวนยางพารา ในเขตปฏิรูปที่ดินตำบลบุเปือย อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี พร้อมหัวหน้าส่วนราชการ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมจุดรับซื้อยางพาราของชาวเกษตรกรสวนยาง ซึ่งเป็นจุดแรกของการรับซื้อและเป็นพื้นที่หนึ่งจากจำนวน 1 พันไร่ ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียง โดยมีเกษตรกรชาวสวนยางอำเภอน้ำยืน ได้นำผลผลิตยางพารามาจำหน่ายในราคาตามที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติวงเงินงบประมาณ โครงการส่งเสริมการใช้สวนยางในหน่วยงานภาค รัฐ ในการซื้อยางโดยตรงจากเกษตรกร โดยให้การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) และหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องรับซื้อ ตามข้อเสนอของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ไร่ละ 10 กิโลกรัม รายละไม่เกิน 150 กิโลกรัม (ยางแห้ง) ยางแผ่นคุณภาพ 3 กิโลกรัมละ 45 บาท ยางสด ราคากิโลกรัมละ 42 บาท ยางก้อนถ้วย ราคากิโลกรมละ 41 บาท ทั้งนี้ บรรยากาศโดยทั่วไปไม่คึกคกเท่าที่ควร เนื่องจากชาวสวนยาง ไม่นำยางมาขาย เพราะมองว่ามีกระบวนการที่ยุ่งยากซับซ้อน และตั้งเกณฑ์รับซื้อแค่รายละ 150 กิโลกรัม ทำให้ไม่คุ้มค่าการขนส่ง
ด้าน ผู้ว่าราชการจังหวัด เปิดเผยว่า เตรียมขออนุมัติเงินงบประมาณ จากงบยุทธศาสตร์จังหวัด เพื่อนำมาจัดซื้อยางพาราเพื่อทำเป็นที่รองพื้นบ่อเลี้ยงปลา แจกจ่ายให้เกษตรกร ได้เลี้ยงปลาหารายได้ช่วงฤดูแล้งด้วย นอกจากนี้ ยังเตรียมหารือกับมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี หาช่องทาง เพื่อนำยางพารานำมาใช้ประโยชน์ในด้านอื่นๆ อีกด้วย
27 ม.ค. 59 (20:01 น.) ที่มา INN
จุดรับซื้อยางที่อุบลฯ เบาบาง ชาวสวนชี้มีขั้นตอนยุ่งยาก และกำหนดปริมาณจำกัด ด้านผู้ว่าฯ เตรียมเสนอของบ ซื้อยางเพื่อแปรรูปเป็นที่รองพื้นบ่อเลี้ยงปลา
ที่บริเวณกลุ่ม ชาวสวนยางพารา ในเขตปฏิรูปที่ดินตำบลบุเปือย อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี พร้อมหัวหน้าส่วนราชการ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมจุดรับซื้อยางพาราของชาวเกษตรกรสวนยาง ซึ่งเป็นจุดแรกของการรับซื้อและเป็นพื้นที่หนึ่งจากจำนวน 1 พันไร่ ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียง โดยมีเกษตรกรชาวสวนยางอำเภอน้ำยืน ได้นำผลผลิตยางพารามาจำหน่ายในราคาตามที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติวงเงินงบประมาณ โครงการส่งเสริมการใช้สวนยางในหน่วยงานภาค รัฐ ในการซื้อยางโดยตรงจากเกษตรกร โดยให้การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) และหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องรับซื้อ ตามข้อเสนอของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ไร่ละ 10 กิโลกรัม รายละไม่เกิน 150 กิโลกรัม (ยางแห้ง) ยางแผ่นคุณภาพ 3 กิโลกรัมละ 45 บาท ยางสด ราคากิโลกรัมละ 42 บาท ยางก้อนถ้วย ราคากิโลกรมละ 41 บาท ทั้งนี้ บรรยากาศโดยทั่วไปไม่คึกคกเท่าที่ควร เนื่องจากชาวสวนยาง ไม่นำยางมาขาย เพราะมองว่ามีกระบวนการที่ยุ่งยากซับซ้อน และตั้งเกณฑ์รับซื้อแค่รายละ 150 กิโลกรัม ทำให้ไม่คุ้มค่าการขนส่ง
ด้าน ผู้ว่าราชการจังหวัด เปิดเผยว่า เตรียมขออนุมัติเงินงบประมาณ จากงบยุทธศาสตร์จังหวัด เพื่อนำมาจัดซื้อยางพาราเพื่อทำเป็นที่รองพื้นบ่อเลี้ยงปลา แจกจ่ายให้เกษตรกร ได้เลี้ยงปลาหารายได้ช่วงฤดูแล้งด้วย นอกจากนี้ ยังเตรียมหารือกับมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี หาช่องทาง เพื่อนำยางพารานำมาใช้ประโยชน์ในด้านอื่นๆ อีกด้วย