ตอบ

Warning: this topic has not been posted in for at least 120 days.
Unless you're sure you want to reply, please consider starting a new topic.
ชื่อ:
อีเมล์:
หัวข้อ:
ไอค่อนข้อความ:

แนบไฟล์:
(Clear Attachment)
(แนบไฟล์เพิ่ม)
Restrictions: 4 per post, maximum total size 192KB, maximum individual size 128KB
Verification:
กรุณาพิมพ์ชื่อนี้ Rakayang เป็น???าษาไทย:

shortcuts: กด alt+s เพื่อตั้งกระทู้ หรือ alt+p แสดงตัวอย่าง


สรุปหัวข้อ

ข้อความโดย: Rakayang.Com
« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 02, 2016, 08:35:54 AM »

ยูคาฯ ขาดตลาด! ราคาพุ่งโลละ 1,000 รง.อำนาจเจริญ วอนรัฐหนุนปลูกแทนยาง-มัน
โดย ไทยรัฐออนไลน์ 1 ก.พ. 2559 23:30


 

 
 อำนาจเจริญ ไม้ยูคาลิปตัส ขาดตลาด ผลิตส่งขายไม่ทัน ขณะราคาปรับสูงขึ้นถึงโลละ 1,000 บาท กว้านซื้อส่งโรงงานวันละ 500-900 ตัน ยังไม่พอ เจ้าของโรงงานแนะภาครัฐ ส่งเสริมเกษตรกรหันปลูกแทนยาง-มันสำปะหลัง


เมื่อวันที่ 1 ก.พ. 59 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ในพื้นที่ จ.อำนาจเจริญ ไม้ยูคาลิปตัสกำลังขาดแคลนตลาด เนื่องจากเกษตรกรยังไม่นิยมปลูก เพราะที่ผ่านมาเชื่อว่าไม้ยูคาลิปตัส สร้างปัญหาให้กับสิ่งแวดล้อม เช่น ปลูกตามคันนาหญ้าไม่เกิด ข้าวไม่เจริญเติบโตตลอดจนปลาอยู่ไม่ได้
นายสมโภชน์ ศรีสะอาด เจ้าของโรงงานบดไม้ยูคาลิปตัส หจก.ธนากิจ กุ๊ดชิพ บ้านสามแยกชมพู ม.6 ต.นาป่าแซง อ.ปทุมราชวงศา จ.อำนาจเจริญ กล่าวว่า ถึงแม้ราคาพืชผลทางการเกษตรหลายอย่างจะตกต่ำ แต่ไม้ยูคาลิปตัส ยังเป็นที่ต้องการของตลาด จนผลิตส่งไม่ทันกับความต้องการของตลาด ทั้งการส่งออกต่างประเทศ โรงงานปูนซีเมนต์ไทย และโรงงานกระดาษ


ทั้งนี้ ในปีที่ผ่านมา โรงงานกระดาษรับซื้อกิโลกรัมละ 500 - 600 บาท แต่ขณะนี้ราคาถีบตัวสูงขึ้นถึงกิโลกรัมละ 950-1,000 บาท แต่ละวันจะมีลูกค้าออกไปรับซื้อจากเกษตรกรมาส่งโรงงานวันละไม่น้อยกว่า 500 - 900 ตัน ซึ่งใน จ.อำนาจเจริญ มีโรงงานผลิตยูคาลิปตัสมากถึง 10 โรงงาน แต่ก็ไม่สามารถผลิตได้เพียงพอกับความต้องการของตลาด เนื่องจากต้นยูคาลิปตัสเจริญเติบโตไม่ทัน


ดังนั้น อยากจะให้ภาครัฐส่งเสริมให้เกษตรกรหันมาปลูกไม้ยูคาลิปตัส แทนการปลูกยางพารา อ้อย และมันสำปะหลัง ที่มีราคาตกต่ำในขณะนี้.