ข้อความโดย: Rakayang.Com
« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 11, 2016, 11:51:59 AM »วิเคราะห์ปัจจัยที่มีผลต่อราคายาง
วันพฤหัสบดีที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559
ปัจจัย
วิเคราะห์
1. สภาพภูมิอากาศ
- บริเวณความกดอากาศสูงที่ปกคลุมประเทศไทยอ่อนกำลังลง ทำให้มีอุณหภูมิสูงขึ้น 2-4 องศาเซลเซียส แต่ยังคงทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอากาศหนาวเย็น ส่วนภาคใต้ยังคงมีคลื่นลมแรงและมีฝนตกบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ไม่ส่งผลกระทบต่อการกรีดยาง
2. การใช้ยาง
- ฟอร์ด มอเตอร์โค ผู้ผลิตรถยนต์อันดับ 2 ของสหรัฐฯ เตรียมสร้างโรงงานประกอบรถยนต์ในเม็กซิโก โดยจะเพิ่มการผลิตรถยนต์อีก 500,000 คันในปี 2561 จากเดิมที่ผลิตได้ 433,000 คันเมื่อปีที่แล้ว สะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงการลงทุนของผู้ผลิตรถยนต์สหรัฐฯ หลังมีสัญญาณค่าแรงในประเทศสูงขึ้น
3. สต๊อคยาง
- สต๊อคยางจีน ณ วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2559 เพิ่มขึ้น 3,974 ตัน หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.46 อยู่ที่ 275,345 ตัน จากระดับ 271,371 ตัน เมื่อวันที่ 29 มกราคม 2559
4. เศรษฐกิจโลก
- ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) แถลงต่อคณะกรรมาธิการบริหารการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ว่า ปัจจัยจากสภาวะที่ตึงตัวในตลาดการเงินที่มีสาเหตุจากการลดลงของราคาหุ้น ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับเศรษฐกิจจีน และการประเมินความเสี่ยงด้านสินเชื่อในระดับโลก อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ ให้อ่อนแอลง นับเป็นสัญญาณชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนหน้า
- สำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษ (ONS) เปิดเผยว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนธันวาคมปรับตัวลดลงร้อยละ 1.1 เมื่อเทียบเป็นรายเดือน ลดลงมากกว่าการคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ที่คาดว่าจะขยับลงร้อยละ 0.1
- กระทรวงการคลังญี่ปุ่นรายงานว่า หนี้สินของรัฐบาลกลางญี่ปุ่นอยู่ที่ 1,044.59 ล้านล้านเยน (9.1 ล้านล้านดอลล่าร์สหรัฐ) ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2558 ลดลง 9.83 ล้านล้านเยน จากช่วงสามเดือนก่อนหน้า อย่างไรก็ตาม กระทรวงคาดการณ์ว่าหนี้สินของรัฐบาลจะทำสถิติ 1,087.30 ล้านล้านเยน ณ สิ้นปีงบประมาณปัจจุบันในวันที่ 31 มีนาคม 2559 สะท้อนถึงต้นทุนด้านการประกันสังคมที่สูงขึ้นในสังคมญี่ปุ่นที่จำนวนประชากรสูงอายุเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
- ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เปิดเผยว่า ดัชนีราคาค้าส่งเดือนมกราคมปรับตัวลดลงร้อยละ 3.1 เมื่อเทียบเป็นรายปี ทำสถิติลดลงเป็นเดือนที่ 10 ติดต่อกัน เนื่องจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนและความวิตกกังวลเกี่ยวกับอุปทานที่สูงเกินไป อาจส่งผลให้ราคาน้ำมันและสินค้าโภคภัณฑ์อื่น ๆ ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง
5. อัตราแลกเปลี่ยน
- เงินบาทอยู่ที่ 35.28 บาทต่อดอลล่าร์สหรัฐ แข็งค่าขึ้น 0.14 บาทต่อดอลล่าร์สหรัฐ
- เงินเยนอยู่ที่ 112.87 เยนต่อดอลล่าร์สหรัฐ แข็งค่าขึ้น 1.57 เยนต่อดอลล่าร์สหรัฐ
6. ราคาน้ำมัน
- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาด Nymex ส่งมอบเดือนมีนาคม 2559 ปิดตลาดที่ 27.45 ดอลล่าร์สหรัฐต่อบาร์เรล ลดลง 0.49 ดอลล่าร์สหรัฐต่อบาร์เรล หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) รายงานสต๊อคน้ำมันดิบสหรัฐฯ ปรับตัวลดลงน้อยกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้
- สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (Brent) ตลาดลอนดอนส่งมอบเดือนมีนาคม 2559 ปิดที่ 30.82 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.52 ดอลล่าร์สหรัฐต่อบาร์เรล
- สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) รายงานว่า สต๊อคน้ำมันดิบสหรัฐฯ ลดลง 800,000 บาร์เรล ทางด้านสถาบันปิโตรเลียมอเมริกัน (API) รายงานว่า สต๊อคน้ำมันดิบสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 2.4 ล้านบาร์เรล แต่ต่ำกว่าระดับ 3.6 ล้านบาร์เรลที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้
7. การเก็งกำไร
- ตลาด TOCOM ปิดทำการเนื่องในวัน National Foundation Day
- ราคา SICOM เปิดตลาดที่ 121.8 เซนต์สหรัฐต่อกิโลกรัม ลดลงจากวันศุกร์ที่ 5 กุมภาพันธ์ 2.8 เซนต์สหรัฐต่อกิโลกรัม
8. ข่าว
- คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ของจีน (CSRC) เปิดเผยว่า บริษัทจีนมียอดการระดมทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศเพิ่มขึ้นในปี 2558 เนื่องจากขั้นตอนการอนุมัติมีความสะดวกมากขึ้น โดยรายงานระบุว่า CSRC ได้อนุมัติให้บริษัท 69 แห่งทำการระดมในตลาดหุ้นผ่านทางการเปิดขายหุ้นให้กับสาธารณะเป็นครั้งแรก
9. ข้อคิดเห็นของประกอบการ
- ราคายางปรับตัวลดลงเล็กน้อย เพราะราคาชี้นำตลาดญี่ปุ่นและจีนหยุดทำการ ทำให้ผู้ซื้อชะลอการซื้อ และรอดูสถานการณ์หลังตรุษจีน ขณะที่ปริมาณยางออกสู่ตลาดน้อยลง ทำให้คาดว่าราคาน่าจะดีขึ้นหลังตรุษจีน
แนวโน้ม ราคายางมีแนวโน้มปรับตัวลดลง โดยมีปัจจัยลบจากเงินเยนและเงินบาทแข็งค่า ประกอบกับนักลงทุนวิตกกังวลเพิ่มขึ้น หลังจากประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ได้แสดงความกังวลต่อแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ และเศรษฐกิจทั่วโลก นอกจากนี้ราคายางยังได้รับแรงกดดันจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ตลาดล่วงหน้าโตเกียวหยุดทำการเนื่องในวันชาติ และตลาดจีนยังอยู่ในช่วงหยุดยาวเทศกาลตรุษจีน