ข้อความโดย: Rakayang.Com
« เมื่อ: เมษายน 25, 2016, 08:50:57 AM »เมืองจันท์แล้งวิกฤติ ร่วมลงขันแก้ปัญหา
โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์ 25 เม.ย. 2559 07:15
เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 24 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์ภัยแล้งพื้นที่ จ.จันทบุรี วิกฤติหนักครอบคลุมทั้งจังหวัด โดย สนง.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ประกาศพื้นที่ประสบภัยพิบัติภัยแล้งครอบ คลุมครบแล้วทั้ง 10 อำเภอ รวม 59 ตำบล 490 หมู่บ้าน พื้นที่ทางการเกษตรได้รับผลกระทบจากภัยแล้งเสียหายรวมกว่า 539,311 ไร่ ประชาชนได้รับผลกระทบ 59,829 ครัวเรือน โดยเฉพาะในเขตพื้นที่ทั้งหมดรวม 8 หมู่บ้านของ ต.อ่างคีรี อ.มะขาม จ.จันทบุรี ประสบภาวะภัยแล้งวิกฤติหนัก 7 หมู่บ้าน ขาดน้ำใช้ในภาคการเกษตร เนื่องจากแหล่งน้ำขนาดใหญ่รวมกว่า 10 แห่ง ของตำบลแห้งขอดมานานกว่าครึ่งเดือน ขณะที่เทศบาล ต.อ่างคีรี ได้รับผลกระทบไม่มีแหล่งน้ำดิบมาใช้ผลิตประปา ต้องใช้รถบรรทุกวิ่งรับน้ำดิบจากแหล่งน้ำธรรมชาติใกล้เคียงมาผลิตน้ำประปา แทน ส่งผลทำให้ปริมาณน้ำประปาไม่เพียงพอต่อความต้องการของชาวบ้าน จึงได้มีมาตรการแบ่งเวลาจ่ายน้ำประปาในชุมชน
นายจำรูญ อิ่มผ่อง อายุ 55 ปี ผญบ. ม.4 ต.อ่างคีรี เปิดเผยว่า แหล่งกักเก็บน้ำ ซึ่งเป็นสระน้ำขนาดใหญ่เนื้อที่ 100 ไร่ จำนวน 3 แห่ง ของหมู่บ้าน แห้งเหือดไปหมดแล้ว ทำให้ลูกบ้าน 95 ครัวเรือน พื้นที่การเกษตรกว่า 500 ไร่ ได้รับผลกระทบอย่างหนัก เบื้องต้นชาวบ้านในชุมชนได้รวบรวมเงินลงขัน สมทบทุนร่วมกับงบประมาณของเทศบาล และเงินบริจาคจากทางวัดในพื้นที่ จำนวนกว่า 400,000 บาท ซื้อเครื่องสูบน้ำขนาด 6 สูบ พร้อมเดินท่อน้ำดิบขนาด 4 นิ้ว รวมกว่า 1,500 ท่อน ระยะทางกว่า 6 กม. เพื่อใช้ผันน้ำจากฝายบ้านคลองมะลิพื้นที่ ม.8 มาใส่ลงในแหล่งกักเก็บน้ำของหมู่บ้าน เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนชั่วคราว
ที่ฝายบ้านคลองมะลิ พื้นที่ ม.8 ต.อ่างคีรี แหล่งน้ำดิบแห่งสุดท้ายของตำบล ทางคณะกรรมการ ?กลุ่มผู้ใช้น้ำบ้านคลองมะลิ? ได้จัดสรรแจกจ่ายน้ำให้กับทางชาวบ้านในพื้นที่ ต.อ่างคีรี ที่ได้รับความเดือดร้อนจากภัยแล้งทั้งหมด ทั้งการผันน้ำ รวมไปถึงการนำรถมาบรรทุกน้ำกลับไปใช้ในภาคการเกษตร พยุงไม่ให้ไม้ผลยืนต้นตาย ทำให้ในแต่ละวันจะมีรถบรรทุกแท็งก์น้ำขนาดใหญ่ จำนวน 12 คัน มาเข้าคิวรับน้ำไปแจกจ่ายให้กับชาวบ้าน
อย่างไรก็ตาม จากปัญหาภัยแล้งของ จ.จันทบุรีที่เข้าขั้นวิกฤติเกือบจะกลายเป็นศึกแย่งน้ำระหว่างชาวบ้าน 2 อำเภอพื้นที่รอยต่อระหว่าง อ.มะขาม และ อ.ขลุง หลังจากผู้นำชุมชนจากทาง อ.ขลุง ได้กล่าวอ้างถึงข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ระดับอำเภอ มีคำสั่งให้ทาง ?กลุ่มผู้ใช้น้ำบ้านคลองมะลิ? เปิดประตูฝายน้ำทั้ง 5 บาน เพื่อปล่อยน้ำให้เข้าไปในพื้นที่การเกษตรของ อ.ขลุง แต่ถูกทาง ?กลุ่มผู้ใช้น้ำบ้านคลองมะลิ? ตลอดจนชาวบ้านในพื้นที่คัดค้าน ซึ่งเห็นว่าเป็นการใช้อำนาจเด็ดขาดเกินไป และอีกทั้งยังไม่มีคำสั่งเป็นลายลักษณ์อักษร จึงเกิดการโต้เถียงกันขึ้นระหว่าง ?กลุ่มผู้ใช้น้ำบ้านคลองมะลิ? และทางผู้นำชุมชน อ.ขลุง ต่อมาเมื่อได้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่าเป็นเรื่องเข้าใจผิด ซึ่งเกิดจากการ สื่อสารไม่ตรงกัน เบื้องต้นได้เชิญทั้งสองฝ่ายมาร่วม เจรจาไกล่เกลี่ยจนได้ข้อสรุปที่ชัดเจน โดยทาง ?กลุ่มผู้ใช้น้ำบ้านคลองมะลิ? ยินยอมเปิดประตูฝาย 1 บาน เพื่อช่วยผันน้ำลงไปในคลองซึ้ง บ้านอีมุย และบ้านวังสรรพรส อ.ขลุง เพื่อช่วยบรรเทาปัญหาภัยแล้งในระดับหนึ่ง
โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์ 25 เม.ย. 2559 07:15
เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 24 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์ภัยแล้งพื้นที่ จ.จันทบุรี วิกฤติหนักครอบคลุมทั้งจังหวัด โดย สนง.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ประกาศพื้นที่ประสบภัยพิบัติภัยแล้งครอบ คลุมครบแล้วทั้ง 10 อำเภอ รวม 59 ตำบล 490 หมู่บ้าน พื้นที่ทางการเกษตรได้รับผลกระทบจากภัยแล้งเสียหายรวมกว่า 539,311 ไร่ ประชาชนได้รับผลกระทบ 59,829 ครัวเรือน โดยเฉพาะในเขตพื้นที่ทั้งหมดรวม 8 หมู่บ้านของ ต.อ่างคีรี อ.มะขาม จ.จันทบุรี ประสบภาวะภัยแล้งวิกฤติหนัก 7 หมู่บ้าน ขาดน้ำใช้ในภาคการเกษตร เนื่องจากแหล่งน้ำขนาดใหญ่รวมกว่า 10 แห่ง ของตำบลแห้งขอดมานานกว่าครึ่งเดือน ขณะที่เทศบาล ต.อ่างคีรี ได้รับผลกระทบไม่มีแหล่งน้ำดิบมาใช้ผลิตประปา ต้องใช้รถบรรทุกวิ่งรับน้ำดิบจากแหล่งน้ำธรรมชาติใกล้เคียงมาผลิตน้ำประปา แทน ส่งผลทำให้ปริมาณน้ำประปาไม่เพียงพอต่อความต้องการของชาวบ้าน จึงได้มีมาตรการแบ่งเวลาจ่ายน้ำประปาในชุมชน
นายจำรูญ อิ่มผ่อง อายุ 55 ปี ผญบ. ม.4 ต.อ่างคีรี เปิดเผยว่า แหล่งกักเก็บน้ำ ซึ่งเป็นสระน้ำขนาดใหญ่เนื้อที่ 100 ไร่ จำนวน 3 แห่ง ของหมู่บ้าน แห้งเหือดไปหมดแล้ว ทำให้ลูกบ้าน 95 ครัวเรือน พื้นที่การเกษตรกว่า 500 ไร่ ได้รับผลกระทบอย่างหนัก เบื้องต้นชาวบ้านในชุมชนได้รวบรวมเงินลงขัน สมทบทุนร่วมกับงบประมาณของเทศบาล และเงินบริจาคจากทางวัดในพื้นที่ จำนวนกว่า 400,000 บาท ซื้อเครื่องสูบน้ำขนาด 6 สูบ พร้อมเดินท่อน้ำดิบขนาด 4 นิ้ว รวมกว่า 1,500 ท่อน ระยะทางกว่า 6 กม. เพื่อใช้ผันน้ำจากฝายบ้านคลองมะลิพื้นที่ ม.8 มาใส่ลงในแหล่งกักเก็บน้ำของหมู่บ้าน เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนชั่วคราว ที่ฝายบ้านคลองมะลิ พื้นที่ ม.8 ต.อ่างคีรี แหล่งน้ำดิบแห่งสุดท้ายของตำบล ทางคณะกรรมการ ?กลุ่มผู้ใช้น้ำบ้านคลองมะลิ? ได้จัดสรรแจกจ่ายน้ำให้กับทางชาวบ้านในพื้นที่ ต.อ่างคีรี ที่ได้รับความเดือดร้อนจากภัยแล้งทั้งหมด ทั้งการผันน้ำ รวมไปถึงการนำรถมาบรรทุกน้ำกลับไปใช้ในภาคการเกษตร พยุงไม่ให้ไม้ผลยืนต้นตาย ทำให้ในแต่ละวันจะมีรถบรรทุกแท็งก์น้ำขนาดใหญ่ จำนวน 12 คัน มาเข้าคิวรับน้ำไปแจกจ่ายให้กับชาวบ้าน อย่างไรก็ตาม จากปัญหาภัยแล้งของ จ.จันทบุรีที่เข้าขั้นวิกฤติเกือบจะกลายเป็นศึกแย่งน้ำระหว่างชาวบ้าน 2 อำเภอพื้นที่รอยต่อระหว่าง อ.มะขาม และ อ.ขลุง หลังจากผู้นำชุมชนจากทาง อ.ขลุง ได้กล่าวอ้างถึงข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ระดับอำเภอ มีคำสั่งให้ทาง ?กลุ่มผู้ใช้น้ำบ้านคลองมะลิ? เปิดประตูฝายน้ำทั้ง 5 บาน เพื่อปล่อยน้ำให้เข้าไปในพื้นที่การเกษตรของ อ.ขลุง แต่ถูกทาง ?กลุ่มผู้ใช้น้ำบ้านคลองมะลิ? ตลอดจนชาวบ้านในพื้นที่คัดค้าน ซึ่งเห็นว่าเป็นการใช้อำนาจเด็ดขาดเกินไป และอีกทั้งยังไม่มีคำสั่งเป็นลายลักษณ์อักษร จึงเกิดการโต้เถียงกันขึ้นระหว่าง ?กลุ่มผู้ใช้น้ำบ้านคลองมะลิ? และทางผู้นำชุมชน อ.ขลุง ต่อมาเมื่อได้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่าเป็นเรื่องเข้าใจผิด ซึ่งเกิดจากการ สื่อสารไม่ตรงกัน เบื้องต้นได้เชิญทั้งสองฝ่ายมาร่วม เจรจาไกล่เกลี่ยจนได้ข้อสรุปที่ชัดเจน โดยทาง ?กลุ่มผู้ใช้น้ำบ้านคลองมะลิ? ยินยอมเปิดประตูฝาย 1 บาน เพื่อช่วยผันน้ำลงไปในคลองซึ้ง บ้านอีมุย และบ้านวังสรรพรส อ.ขลุง เพื่อช่วยบรรเทาปัญหาภัยแล้งในระดับหนึ่ง