ตอบ

Warning: this topic has not been posted in for at least 120 days.
Unless you're sure you want to reply, please consider starting a new topic.
ชื่อ:
อีเมล์:
หัวข้อ:
ไอค่อนข้อความ:

แนบไฟล์:
(Clear Attachment)
(แนบไฟล์เพิ่ม)
Restrictions: 4 per post, maximum total size 192KB, maximum individual size 128KB
Verification:
กรุณาพิมพ์ชื่อนี้ Rakayang เป็น???าษาไทย:

shortcuts: กด alt+s เพื่อตั้งกระทู้ หรือ alt+p แสดงตัวอย่าง


สรุปหัวข้อ

ข้อความโดย: Rakayang.Com
« เมื่อ: พฤษภาคม 06, 2016, 09:32:14 AM »

ยอดส่งออกยางของเวียดนามอาจลดลงเหลือ 1 ล้านตันในปีนี้



กรุงฮานอย ? ยอดการส่งออกยางธรรมชาติของเวียดนามในปีนี้อาจลดลงจากปี 2558 ถึงร้อยละ 12 หรือเหลือเพียงราว 1 ล้านตัน และถือว่าต่ำสุดในรอบ 6 ปี ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนของประเทศที่จะลดการจำหน่ายเพื่อช่วยให้ราคายางมี เสถียรภาพมากขึ้น


    ราคายางอ้างอิงตามตลาดล่วงหน้าสิงคโปร์และ โตเกียวนั้นลดลงในช่วงต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมาจนอยู่ในระดับต่ำที่สุดนับ ตั้งแต่ปลายปี 2551 จนถึงต้นปี 2552 


    การคาดการณ์ของสมาคม ยางเวียดนามระบุว่า การลดปริมาณการส่งออกของเวียดนามตามข้อตกลงที่ทำร่วมกับประเทศไทย อินโดนีเซีย และมาเลเซียในการลดปริมาณอุปทานยาง


    ?เราได้สนับ สนุนให้บริษัทยางลดการผลิตลง ซึ่งปัญหาภัยแล้งที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องนั้นได้ยืดระยะเวลาการเก็บเกี่ยว น้ำยางออกไปและยังลดปริมาณน้ำยางที่ได้อีกด้วย? สมาคมฯกล่าว


    เวียดนาม เป็นประเทศผู้ผลิตยางรายใหญ่ลำดับที่ 3 ของโลกรองจากไทยและอินโดนีเซีย การกรีดยางนั้นเริ่มขึ้นในช่วงเดือนเมษายนและจะได้ผลผลิตมากที่สุดในเดือน พฤศจิกายน


    ยอดการส่งออกยางของเวียดนามในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้อยู่ที่ราว 312,000 ตัน เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านร้อยละ 26.7 แต่ยอดส่งออกในปีนี้ที่คาดว่าจะต่ำที่สุดนับตั้งแต่ปี 2554 ในปีนั้นเวียดนามส่งออกยางถึง 817,000 ตัน โดยประเทศจีน อินเดีย และมาเลเซียเป็นตลาดรายใหญ่ของเวียดนาม


    เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ทางสภาไตรภาคียางนานาชาติ (ITRC) กล่าวว่า ประเทศสมาชิกคือ ไทย มาเลเซีย และอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นผู้ส่งออกยางรายใหญ่ 3 รายของโลก จะลดการส่งออกยางรวมกัน 615,000 ตัน


    ทาง World Bank กล่าวในรายงานตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 26 เมษายนที่ผ่านมาว่า ราคายางพาราได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 4 ในช่วงไตรมาสแรก ซึ่งเป็นผลมาจากมาตรการลดปริมาณการส่งออกของประเทศสมาชิก ITRC ที่เริ่มเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงที่ผลผลิตยางของมาเลเซียและไทยลดลงตามฤดูกาล ประกอบกับอุปสงค์จากจีนที่มีมากขึ้น
    ?ถึงแม้ราคายางจะเพิ่มขึ้นมาเล็กน้อยก็ตาม แต่ก็คาดว่าราคายางจะยังคงอ่อนแอในปีนี้ และจะเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อยในปีหน้า?

    (ที่มา: http://globalrubbermarkets.com, 29/04/2016)