ตอบ

Warning: this topic has not been posted in for at least 120 days.
Unless you're sure you want to reply, please consider starting a new topic.
ชื่อ:
อีเมล์:
หัวข้อ:
ไอค่อนข้อความ:

แนบไฟล์:
(Clear Attachment)
(แนบไฟล์เพิ่ม)
Restrictions: 4 per post, maximum total size 192KB, maximum individual size 128KB
Verification:
กรุณาพิมพ์ชื่อนี้ Rakayang เป็น???าษาไทย:

shortcuts: กด alt+s เพื่อตั้งกระทู้ หรือ alt+p แสดงตัวอย่าง


สรุปหัวข้อ

ข้อความโดย: Rakayang.Com
« เมื่อ: พฤษภาคม 16, 2016, 09:15:28 AM »

กยท.ลั่นหมดยุค"ยาง"3โล100 เชื่อราคาไม่ต่ำกว่ากก.ละ 60 บาท

วันที่: 14 พ.ค. 59 เวลา: 20:01 น.

  ยางพารา height=450
นายบวร วงศ์สินอุดม รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยภายหลังการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (เอ็มโอยู)เครือข่ายนวัตกรรมยางพารา ประกอบด้วย การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (ม.อ.) ส.อ.ท.และสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สวทช.) โดยศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (เอ็มเทค) เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคมที่ผ่านมาว่า การร่วมมือครั้งนี้เพื่อสร้างการต่อยอดงานวิจัยและการพัฒนาอุตสาหกรรม ยางพาราให้เกิดเป็นนวัตกรรมและมูลค่าเพิ่มของสินค้า โดยที่ผ่านมาการใช้ยางพาราไทยยังมีสัดส่วนไม่มากเมื่อเทียบกับปริมาณการส่ง ออก ซึ่งมีผลต่อความสามารถในการแข่งขันของประเทศ หากโครงการนี้ประสบผลสำเร็จเชื่อว่าไทยจะก้าวขึ้นเป็นเบอร์หนึ่งของ อุตสาหกรรมยางพาราในภูมิภาค แซงหน้ามาเลเซีย และอินโดนีเซียได้แน่อน


นาย ธีธัช สุขสะอาด ผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) กล่าวถึงสถานการณ์ราคายางพาราในปัจจุบัน มีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 60 บาทต่อกิโลกรัม (กก.) ถือเป็นระดับราคาที่เกษตรกรพึงพอใจ และคาดการณ์ว่าราคาจะทรงตัวระดับนี้ เนื่องจากปริมาณผลผลิตกับความต้องการใกล้เคียงกัน หรือมีความสมดุลกัน อีกทั้งขณะนี้เริ่มมีสัญญาณเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวดีขึ้น คาดว่าแนวโน้มความต้องการใช้ยางพาราจะสูงขึ้นตาม จึงประเมินว่าราคายางจะไม่ตกต่ำถึงระดับ 3 กก. ต่อ 100 บาทอย่างแน่นอน


นาย ธีธัช  กล่าวว่า นอกจากนี้ กยท.ยังเล็งที่จะขยายตลาดส่งออกยางพาราไปยังตลาดใหม่ๆ อาทิ รัสเซีย และอินเดีย เพื่อเป็นการกระจายความเสี่ยงจากตลาดส่งออกเดิมที่ยังประสบปัญหาเศรษฐกิจภาย ในประเทศอีกด้วย  ส่วนยางพาราในสต็อกของรัฐบาลที่มีอยู่ประมาณ 2 แสนตันนั้น ในขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการ (บอร์ด) กยท. ว่าจะดำเนินการอย่างไร ส่วนความคืบหน้าการส่งยางพาราจำนวน 2 แสนตันให้แก่บริษัท ชิโนเคม (SINOCHEM) ของประเทศจีน ในขณะนี้ได้มีการส่งมอบในล็อตแรกแล้วกว่า 1.6 หมื่นตัน ส่วนล็อตที่ 2 ยังอยู่ในระหว่างการพิจารณาของบอร์ดกยท. ซึ่งในขณะนี้ยังไม่สามารถกำหนดกรอบระยะเวลาที่ชัดเจนได้