ข้อความโดย: Rakayang.Com
« เมื่อ: มิถุนายน 16, 2016, 06:27:19 PM »ชาวสวนยางพาราสตูลหันปลูกข้าวไร้สารเคมี
วันนี้ (14:27 น.)
ชาวสวนยางพาราสตูล หันปลูกปรับที่ดิน ปลูกข้าวไร้สารเคมี หลังราคาผลผลิตตกต่ำ
ชาวบ้านใน พื้นที่ ตำบลคลองใหญ่ อำเภอตะโหมด จังหวัดพัทลุง ลงทุนล้มสวนยางพารา เพื่อปรับสวนยางพารา เป็นนาข้าว โดยได้แนวคิดว่า ข้าวคืออาหารที่หล่อเลี้ยงชีวิต ขณะที่ยางพาราเป็นพืชเศรษฐกิจ แต่ราคาตกต่ำมายาวนาน ทำให้หันไปประกอบอาชีพใหม่แทน
โดย นายอนุกูล ทองมี อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 51 ม.5 ต.คลองใหญ่ อ.ตะโหมด จ.พัทลุง กล่าวว่า ตนมีพื้นที่สวนยางพาราซึ่งอยู่ติดเทือกเขาบรรทัด ทั้งหมด 8 ไร่ และปลูกยางพารามานานกว่า 25 ปี เมื่อยางหมดอายุ จึงได้ล้มไม้ยางพาราลง ตอนแรกคิดจะปลูกยางพาราต่อ แต่เมื่อคิดดูแล้ว ราคายางไม่ค่อยดีนัก จึงได้ปรับเปลี่ยนมุมมองใหม่ มาดัดแปลงเป็นที่นา 8 ไร่ เพราะเชื่อว่าการปลูกข้าวคือการปลูกอาหาร และเป็นปัจจัยหลัก ที่คนทั่วไปยังต้องใช้รับประทาน เพื่อความอยู่รอด ซึ่งเมื่อปรับปรุงที่ดินจาก 8 ไร่ ได้พื้นนา 5 ไร่ ส่วนที่เหลือ 3 ไร่เป็นแหล่งน้ำ และเป็นคันนา ซึ่งคิดว่าข้าวที่ปลูกนั้นจะปลูกข้าวนาปีเป็นหลัก และไม่ใช้สารเคมี เพื่อที่จะไม่เป็นผลกระทบต่อผู้บริโภค เมื่อผลิตส่งขายส่วนที่เหลืออีก 8 ไร่ ยังไม่ล้มสวนยางพารา คงสภาพไว้แบบเดิมพร้อมนำต้นไม้มาปลูกเพิ่มเพื่อไว้เป็นธนาคารต้นไม้ต่อไป
วันนี้ (14:27 น.)
ชาวสวนยางพาราสตูล หันปลูกปรับที่ดิน ปลูกข้าวไร้สารเคมี หลังราคาผลผลิตตกต่ำ
ชาวบ้านใน พื้นที่ ตำบลคลองใหญ่ อำเภอตะโหมด จังหวัดพัทลุง ลงทุนล้มสวนยางพารา เพื่อปรับสวนยางพารา เป็นนาข้าว โดยได้แนวคิดว่า ข้าวคืออาหารที่หล่อเลี้ยงชีวิต ขณะที่ยางพาราเป็นพืชเศรษฐกิจ แต่ราคาตกต่ำมายาวนาน ทำให้หันไปประกอบอาชีพใหม่แทน
โดย นายอนุกูล ทองมี อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 51 ม.5 ต.คลองใหญ่ อ.ตะโหมด จ.พัทลุง กล่าวว่า ตนมีพื้นที่สวนยางพาราซึ่งอยู่ติดเทือกเขาบรรทัด ทั้งหมด 8 ไร่ และปลูกยางพารามานานกว่า 25 ปี เมื่อยางหมดอายุ จึงได้ล้มไม้ยางพาราลง ตอนแรกคิดจะปลูกยางพาราต่อ แต่เมื่อคิดดูแล้ว ราคายางไม่ค่อยดีนัก จึงได้ปรับเปลี่ยนมุมมองใหม่ มาดัดแปลงเป็นที่นา 8 ไร่ เพราะเชื่อว่าการปลูกข้าวคือการปลูกอาหาร และเป็นปัจจัยหลัก ที่คนทั่วไปยังต้องใช้รับประทาน เพื่อความอยู่รอด ซึ่งเมื่อปรับปรุงที่ดินจาก 8 ไร่ ได้พื้นนา 5 ไร่ ส่วนที่เหลือ 3 ไร่เป็นแหล่งน้ำ และเป็นคันนา ซึ่งคิดว่าข้าวที่ปลูกนั้นจะปลูกข้าวนาปีเป็นหลัก และไม่ใช้สารเคมี เพื่อที่จะไม่เป็นผลกระทบต่อผู้บริโภค เมื่อผลิตส่งขายส่วนที่เหลืออีก 8 ไร่ ยังไม่ล้มสวนยางพารา คงสภาพไว้แบบเดิมพร้อมนำต้นไม้มาปลูกเพิ่มเพื่อไว้เป็นธนาคารต้นไม้ต่อไป