ตอบ

Warning: this topic has not been posted in for at least 120 days.
Unless you're sure you want to reply, please consider starting a new topic.
ชื่อ:
อีเมล์:
หัวข้อ:
ไอค่อนข้อความ:

แนบไฟล์:
(Clear Attachment)
(แนบไฟล์เพิ่ม)
Restrictions: 4 per post, maximum total size 192KB, maximum individual size 128KB
Verification:
กรุณาพิมพ์ชื่อนี้ Rakayang เป็น???าษาไทย:

shortcuts: กด alt+s เพื่อตั้งกระทู้ หรือ alt+p แสดงตัวอย่าง


สรุปหัวข้อ

ข้อความโดย: Rakayang.Com
« เมื่อ: ตุลาคม 21, 2016, 09:19:40 AM »

ราคายางที่ลดลงส่งผลกระทบต่อคนกรีดยางและเจ้าของสวนยางขนาดใหญ่ในเวียดนาม

วันพุธที่ 19 ตุลาคม  2016 เวลา 10:29 น.

ปัญหาการลดลงของราคายางในเวียดนามไม่เพียงแต่จะส่งผลกระทบต่อเกษตรกรสวนยางรายย่อยในเท่านั้น แต่ธุรกิจขนาดใหญ่ก็ได้รับผลกระทบให้ต้องเลิกกิจการด้วย ราคายางและการผลิตยางที่มีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง ผลักดันให้เกษตรกรจำนวนมากต้องหยุดกรีดยาง และหันไปปลูกพืชชนิดอื่นแทน จากการให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวท้องถิ่นของเจ้าของสวนที่ปลูกต้นยางพาราในจังหวัดทางตอนใต้ของจังหวัด BinhPhuoc และในประเทศกัมพูชา ระบุว่า พวกเขาได้ลดขนาดของพื้นที่ปลูกยางอย่างรวดเร็ว โดยลดลงกว่า 1,000 ไร่ เจ้าของสวนกล่าวว่า ถึงแม้เขาจะยินดีที่จะขายสวนยางของเขาแบบยอมขาดทุน แต่ในการหาผู้ซื้อไม่ใช่เรื่องง่าย เนื่องจากผู้ซื้อต้องการพื้นที่สวนยางที่ถนนสายหลักเข้าถึงและอยู่ใกล้กับแม่น้ำ สวนยางที่มีอายุมากแม้จะให้ผลผลิตน้ำยางเป็นที่ต้องการของนักลงทุน เพราะพวกเขาสามารถเลือกที่จะทำธุรกิจด้านเกษตรต่อไปหรือซื้อเพื่อการลงทุนในระยะยาว เนื่องจากสามารถโค่นต้นยางพาราเพื่อขายไม้ยางได้ต่อไป ราคายางแตะระดับต่ำสุดตั้งแต่ปี 2552 เนื่องจากมีปริมาณสต็อกเป็นจำนวนมากและความต้องการใช้ในประเทศจีนลดลงอย่างต่อเนื่อง ตามรายงานของ Vietnam Rubber Group ซึ่งเป็นกิจการของรัฐ ระบุว่า ยางได้กลายเป็นหนึ่งในสินค้าโภคภัณฑ์ที่อ่อนแอมากที่สุด เนื่องจากที่ผ่านมาผู้ผลิตยังไม่สามารถที่จะควบคุมการผลิตได้ และจากการรวบรวมข้อมูลนั้นราคายางได้ลดลงสู่ระดับต่ำสุดอยู่ที่ 26 ล้านดงต่อตัน (1,164 เหรียญสหรัฐต่อตัน) ในขณะที่ต้นทุนอยู่ที่ 25 ล้านดงต่อตัน นอกจากนี้กลุ่มฯยังมีการลงทุนในภาคธุรกิจอื่นๆ ได้แก่ ด้านไฟฟ้า ด้านปศุสัตว์ และการโรงแรม และลดการผลิตยางลงโดยการโค่นต้นยางบนเนื้อถึง 3,000 เฮกตาร์ การผลิตยางในช่วงหกเดือนแรกของปีนี้ให้ผลกำไรสำหรับกลุ่มเพียงร้อยละ 4 ของกำไรรวมทั้งหมด ผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ว่าราคายางอาจลดลงต่อไปอีกในเดือนท้ายๆของปี เนื่องจากปริมาณสต็อกยางมีระดับสูง ในขณะเดียวกันปริมาณการผลิตยางโดยรวมของประเทศผู้ผลิตรายใหญ่ 11 ประเทศซึ่งมีสัดส่วนการผลิตประมาณร้อยละ 92 ของปริมาณการผลิตรวมของโลกนั้นมีการผลิตเพิ่มขึ้น

ที่มา: http://rubberjournalasia.com, 14/10/2016