ข้อความโดย: Rakayang.Com
« เมื่อ: ตุลาคม 28, 2016, 11:00:23 AM »มาเลย์กว้านซื้อยางอีสาน2หมื่นตัน/เดือนแก้วิกฤต
สยยท.เผยมาเลเซียขาดแคลนหนัก แห่สั่งซื้อยางเครฟภาคอีสานเดือนละ 2 หมื่นตัน
นายวีระศักดิ์ สินธุวงศ์ ประชาสัมพันธ์สภาเครือข่ายยางและสถาบันเกษตรกรยางพาราแห่งประเทศไทย (สยยท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้สถานการณ์ยางพาราเกิดภาวะขาดแคลนอย่างหนัก เนื่องจากภาคใต้ของไทยอยู่ในช่วงปิดหน้ายางเพราะเข้าสู่ฤดูฝนไม่เพียงแต่ไทยเท่านั้น ทางอุตสาหกรรมแปรรูปยางพาราในประเทศมาเลเซียประสบปัญหายางไม่เพียงพอเช่นเดียวกัน ทั้งนี้ ทางมาเลเซียจึงจำเป็นต้องประสานงานติดต่อมายังแกนนำกลุ่มชาวสวนยาง 20 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือเพื่อขอซื้อยางเครฟจำนวน 2 หมื่นตัน/เดือน เพื่อนำเข้าไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ในประเทศมาเลเซีย และยังมีการนำเข้ายางจากประเทศเมียนมา ลาว กัมพูชา และอินโดนีเซีย
นายวีระศักดิ์ กล่าวอีกว่า ปัจจุบันมาเลเซียยังเหลือยางภาพรวมทั้งประเทศประมาณ 10% ซึ่งการประสานงานติดต่อกับแกนนำชาวสวนยางภาคตะวันออกเฉียงเหนือเพื่อซื้อยางเครฟครั้งนี้ ซึ่งคาดว่าจะบรรลุข้อตกลงในเร็วๆ นี้
"ยางเครฟเป็นผลผลิตของยางก้อนถ้วยนำไปบดเคี้ยวให้น้ำออกหมด แล้วจำแนกออกมาเป็นแผ่น ซึ่งสามารถนำไปแปรรูปเป็นยางต่างๆ ได้ตามต้องการ เช่น ยางเอสทีอาร์ ยางแท่งรมควัน ซึ่งมาเลเซียต้องการยางเครฟจำนวนดังกล่าว ทำให้ราคาปรับตัวสูงขึ้นอยู่ที่54-55 บาท/กก. จากเดิมประมาณ 50 บาท" นายวีระศักดิ์ กล่าว
ที่มา โพสต์ทูเดย์ ออนไลน์
สยยท.เผยมาเลเซียขาดแคลนหนัก แห่สั่งซื้อยางเครฟภาคอีสานเดือนละ 2 หมื่นตัน
นายวีระศักดิ์ สินธุวงศ์ ประชาสัมพันธ์สภาเครือข่ายยางและสถาบันเกษตรกรยางพาราแห่งประเทศไทย (สยยท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้สถานการณ์ยางพาราเกิดภาวะขาดแคลนอย่างหนัก เนื่องจากภาคใต้ของไทยอยู่ในช่วงปิดหน้ายางเพราะเข้าสู่ฤดูฝนไม่เพียงแต่ไทยเท่านั้น ทางอุตสาหกรรมแปรรูปยางพาราในประเทศมาเลเซียประสบปัญหายางไม่เพียงพอเช่นเดียวกัน ทั้งนี้ ทางมาเลเซียจึงจำเป็นต้องประสานงานติดต่อมายังแกนนำกลุ่มชาวสวนยาง 20 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือเพื่อขอซื้อยางเครฟจำนวน 2 หมื่นตัน/เดือน เพื่อนำเข้าไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ในประเทศมาเลเซีย และยังมีการนำเข้ายางจากประเทศเมียนมา ลาว กัมพูชา และอินโดนีเซีย
นายวีระศักดิ์ กล่าวอีกว่า ปัจจุบันมาเลเซียยังเหลือยางภาพรวมทั้งประเทศประมาณ 10% ซึ่งการประสานงานติดต่อกับแกนนำชาวสวนยางภาคตะวันออกเฉียงเหนือเพื่อซื้อยางเครฟครั้งนี้ ซึ่งคาดว่าจะบรรลุข้อตกลงในเร็วๆ นี้
"ยางเครฟเป็นผลผลิตของยางก้อนถ้วยนำไปบดเคี้ยวให้น้ำออกหมด แล้วจำแนกออกมาเป็นแผ่น ซึ่งสามารถนำไปแปรรูปเป็นยางต่างๆ ได้ตามต้องการ เช่น ยางเอสทีอาร์ ยางแท่งรมควัน ซึ่งมาเลเซียต้องการยางเครฟจำนวนดังกล่าว ทำให้ราคาปรับตัวสูงขึ้นอยู่ที่54-55 บาท/กก. จากเดิมประมาณ 50 บาท" นายวีระศักดิ์ กล่าว
ที่มา โพสต์ทูเดย์ ออนไลน์