ตอบ

Warning: this topic has not been posted in for at least 120 days.
Unless you're sure you want to reply, please consider starting a new topic.
ชื่อ:
อีเมล์:
หัวข้อ:
ไอค่อนข้อความ:

แนบไฟล์:
(Clear Attachment)
(แนบไฟล์เพิ่ม)
Restrictions: 4 per post, maximum total size 192KB, maximum individual size 128KB
Verification:
กรุณาพิมพ์ชื่อนี้ Rakayang เป็น???าษาไทย:

shortcuts: กด alt+s เพื่อตั้งกระทู้ หรือ alt+p แสดงตัวอย่าง


สรุปหัวข้อ

ข้อความโดย: Rakayang.Com
« เมื่อ: พฤศจิกายน 16, 2016, 08:55:43 AM »

กยท.มั่นใจ ส่งออกยางไม่กระทบ


นายธีธัช สุขสะอาด ผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) เปิดเผยว่า เมื่อพิจารณานโยบายด้านเศรษฐกิจของนาย โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐแล้ว ระยะแรกอาจทำให้อัตราแลกเปลี่ยนผันผวน แต่คาดว่าในที่สุดจะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ย จะส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินสกุลอื่น ซึ่งจะส่งผลดีกับราคายางในประเทศของไทย
    ทั้งนี้ เนื่องจากการค้าขายยางระหว่างประเทศส่วนมากจะค้าขายในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ จึงทำให้ราคายางเมื่อคิดกลับเป็นเงินบาทมีราคาเพิ่มขึ้น และหากสหรัฐมีนโยบายกดค่าเงินหยวนให้แข็งค่าขึ้น อุตสาหกรรมยางจะไม่ได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน เพราะไทยเป็นผู้ส่งออกยางเพื่อเป็นวัตถุดิบในการผลิตของจีน

    "การแข็งค่าขึ้นของเงินหยวนจึงไม่ได้เป็นปัจจัยกดดันราคายาง แต่กลับจะส่งเสริมให้การส่งออกเพิ่มขึ้น ขณะที่นโยบายการตั้งกำแพงภาษีสินค้าจากจีนจะส่งผลทางอ้อม ทำให้ความต้องการซื้อยางจากไทยลดลง" นายธีธัช กล่าว

    สำหรับปี 2558 ประเทศไทยส่งออกยางพาราไปยังประเทศสหรัฐประมาณ 16,500 ตัน คิดเป็นมูลค่ากว่า 8,000 ล้านบาท ถือเป็นผู้ซื้อยางจากไทยเป็นอันดับ 5 ของโลก โดยส่วนมากยางที่ส่งออกจะเป็นยางประเภทยางแท่ง ยางแผ่นรมควัน และน้ำยางข้น เป็นต้น

    นายธีธัช กล่าวว่า กยท.ในฐานะหน่วยงานที่ดูแลบริหารจัดการยางพาราทั้งระบบแบบครบวงจร ได้เร่งหาแนวทางลดต้นทุนการผลิต ยกระดับคุณภาพของผลผลิตให้ได้มาตรฐานในระดับสากล พร้อมทั้งแสวงหาตลาดใหม่เพื่อทำการค้าระหว่างประเทศ ตอกย้ำการเป็นผู้ผลิตยางคุณภาพและส่งออกเป็นอันดับ 1 ของโลก


    (ที่มา: หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ ประจำวันที่ 15 พฤศจิกายน 2559)