ตอบ

Warning: this topic has not been posted in for at least 120 days.
Unless you're sure you want to reply, please consider starting a new topic.
ชื่อ:
อีเมล์:
หัวข้อ:
ไอค่อนข้อความ:

แนบไฟล์:
(Clear Attachment)
(แนบไฟล์เพิ่ม)
Restrictions: 4 per post, maximum total size 192KB, maximum individual size 128KB
Verification:
กรุณาพิมพ์ชื่อนี้ Rakayang เป็น???าษาไทย:

shortcuts: กด alt+s เพื่อตั้งกระทู้ หรือ alt+p แสดงตัวอย่าง


สรุปหัวข้อ

ข้อความโดย: Rakayang.Com
« เมื่อ: ธันวาคม 15, 2016, 09:40:28 AM »

ราคายางอินเดียถูกกว่าราคายางนำเข้าเนื่องจากผลผลิตเพิ่มขึ้น


อุตสาหกรรมในประเทศอินเดียต้องนำเข้ายางจากประเทศอื่นๆ เนื่องจากมีราคาถูกกว่ายางที่ผลิตในประเทศ ซึ่งเป็นผลจากผลผลิตยางในประเทศเพิ่มขึ้น ทำให้ราคาในประเทศถูกลง


    ราคายางในตลาดต่างประเทศในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของเดือนพฤศจิกายนสูงกว่าราคายางในอินเดีย 10 รูปีต่อกิโลกรัม บวกกับค่าภาษีนำเข้า ทำให้ยางนำเข้ามีราคาอยู่ที่ 170 รูปีต่อกิโลกรัม ในขณะยางที่ผลิตในอินเดียมีราคา 130 รูปีต่อกิโลกรัม 


    อย่างไรก็ตาม การขาดแคลนยางในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศในช่วงฤดูมรสุม ได้สร้างความกังวลเนื่องจากผู้ผลิตในอุตสาหกรรมคาดว่าจะลดการผลิต ซึ่งจะสามารถเห็นได้ชัดตั้งแต่เดือนมกราคมต้นปีนี้


    "เนื่องจากการประกาศยกเลิกธนบัตรมูลค่า 500 และ 1,000 รูปี จะทำให้ยอดขายยางล้อในประเทศลดลงร้อยละ 30-40 ซึ่งอาจส่งผลให้อุตสาหกรรมชะลอตัว แต่ขณะนี้ราคายางอินเดียถูกกว่าจึงเป็นผลดีต่อเกษตรกรผู้ปลูกยาง และไม่มีผลกระทบต่อยางในระยะยาว" นาย Tomy Abraham ประธานสมาพันธ์ผู้ค้ายางของประเทศอินเดีย (Indian Rubber Dealers Federation; IRDF) กล่าว   


    ตามข้อมูลของคณะกรรมการยางอินเดียระบุว่า ในเดือนตุลาคมที่ผ่านมาปริมาณการผลิตยางธรรมชาติในอินเดียเพิ่มขึ้นร้อยละ 15 มีปริมาณ 60,000 ตัน และมีปริมาณการใช้ 86,000 ตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 4
 
    "การผลิตและการใช้ยางธรรมชาติในเดือนตุลาคมที่ผ่านมาอยู่ที่ 52,000 ตัน และ 82,650 ตัน ตามลำดับ ในเดือนตุลาคมมีปริมาณการนำเข้า 44,520 ตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 3 และในช่วงเดือนเมษายนถึงเดือนตุลาคม ปีงบประมาณ 2559-2560 ปริมาณการผลิตเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าเกือบร้อยละ 11? คณะกรรมการยางกล่าว 


    นาย Rajiv Budhraja ผู้อำนวยการทั่วไปของสมาคมผู้ผลิตยางล้อรถยนต์ (ATMA) กล่าวว่า ขณะนี้สถานการณ์ยังเหมือนเดิม ยังจะต้องรอผลกระทบที่เกิดจากการเพิ่มปริมาณการผลิต การชะงักงันของยางในสต็อกใหม่ที่จะออกสู่ตลาดเนื่องจากการประกาศยกเลิกธนบัตรเก่า ฉะนั้นจึงยังมีความเป็นห่วงว่าจะมียางเพียงพอในตลาดหรือไม่ แม้ว่าปริมาณการผลิตจะเพิ่มขึ้นแล้วก็ตาม 


    เขายังกล่าวเสริมว่า การนำเข้ายางธรรมชาติที่เพิ่มขึ้นในช่วงเดือนเมษายนถึงเดือนตุลาคมนั้นส่งผลกระทบต่อเกษตรกรผู้ปลูกยางในอินเดีย

    (ที่มา: http://rubberjournalasia.com, 09/12/2016)