ตอบ

Warning: this topic has not been posted in for at least 120 days.
Unless you're sure you want to reply, please consider starting a new topic.
ชื่อ:
อีเมล์:
หัวข้อ:
ไอค่อนข้อความ:

แนบไฟล์:
(Clear Attachment)
(แนบไฟล์เพิ่ม)
Restrictions: 4 per post, maximum total size 192KB, maximum individual size 128KB
Verification:
กรุณาพิมพ์ชื่อนี้ Rakayang เป็น???าษาไทย:

shortcuts: กด alt+s เพื่อตั้งกระทู้ หรือ alt+p แสดงตัวอย่าง


สรุปหัวข้อ

ข้อความโดย: Rakayang.Com
« เมื่อ: ธันวาคม 21, 2016, 03:52:51 PM »

สยยท.ประชุมด่วนยื่นฟ้องศาลปกครองฉุกเฉินยุติขายยาง3.1แสนตันทำยางร่วงวันละ70ล้านบาท

updated: 21 ธ.ค. 2559 เวลา 13:38:13 น.


วันที่  21 ธันวาคม นายอุทัย  สอนหลักทรัพย์  ประธานสภาเครือข่ายางและสถาบันเกษตรกรยางพาราแห่งประเทศไทย (สยยท.)  เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ สยยท.ได้มีมติจากเสียงส่วนใหญ่ เห็นชอบให้ สยยท.ทำการยื่นฟ้องต่อศาลปกครองฉุกเฉินให้ยุติการขายยางค้างสต๊อก 310,000 ตันของรัฐบาล  โดยชะลอไปถึงเดือนมีนาคม 2560  ทั้งนี้ จากการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) ได้ทำการเชิญชวนประมูลยาง ที่ค้างสต๊อกของรัฐบาลยู่จำนวน 310,000 ตัน แล้วส่งผลกระทบต่อชาวสวนยางทั่วประเทศในขณะนี้  ทำให้ราคายางทยอยลง ตั้งแต่วันที่ 19 ธันวาคม จนถึงขณะนี้แล้ว 5-6 บาท / กก.  ทำให้เงินของชาวสวนยางหายไปวันละประมาณ 70 ล้านบาท

"ในการยื่นฟ้องฉุกเฉินต่อศาลปกครองให้ยุติการขายยาง โดยชะลอไปถึงเดือนมีนาคม 2560  โดยยึดต้นแบบที่เคยฟ้องฉุกเฉินต่อศาลปกครอง สมัยนายยุคล  ลิ้มแหลมทอง เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์  เมื่อปี 2554  ขณะนั้นยางชุดนี้ มีอยู่จำนวน 210,000 ตัน แต่ตอนนี้ขยับเป็น 310,000 ตัน ในการเชิญชวนประมูลยาง 310,000 ตันครั้งนี้ ทางประเทศจีน กลับรู้ก่อนประเทศไทย  ทำให้ราคายางในระเทศจีน ตกไปตั้งแต่ 200 - 700 หยวน / ตัน"



นายวีระศักดิ์  สินธุวงศ์  ประชาสัมพันธ์ สยยท. เปิดเผยว่า  ประเด็นการเปิดประมูลยาง 3.1 แสนตัน ของ กยท. โดยเริ่มแรกเนื่องจากบริษัทอุตสาหกรรมแปรรูปยางรายใหญ่ในประเทศมาเลเซีย  และในประเทศจีน มีการประสานงานมายังสถาบันเกษตรกรยางจะขอซื้อยางในสต๊อกของรัฐบาล 3.1 แสนตัน  โดยทาง กยท. ต้องออกแบบในการประมูลแบบอีอ๊อคชั่น บริษัทอุตสาหกรรมยางในประเทศมาเลเซียและจีน จึงถอนตัว

"สำหรับราคายางที่บริษัทอุตสาหกรรมแปรรูปยางจะซื้อในราคา 80 บาท / กก."


นายวีระศักดิ์ กล่าวอีกว่า ยางราคาลงทุกวัน โดยเฉพาะก้อนถ้วยสดกว่า 30 บาทมาเหลือที่ 26 บาท / กก. และจากยางราคาลงทำให้สถาบันเกษตรกรกลุ่มยาง กลุ่มสหกรณ์  กลุ่มวิสาหกิจยาง ขาดทุนขนาดหนัก โดยกลุ่มขนาดใหญ่บางกลุ่ม กว่า 1 ล้านบาท ขนาดกลาง บางกลุ่ม 300,000 บาท   และขนาดเล็ก 50,000 - 70,000 บาท และยางโดยเฉพาะทางภาคเหนือ อีสาน อีก 2 เดือนกว่า จะถึงฤดูกาลปิดหน้ากรีด กว่ายางขยับขึ้นในระดับเดิม  ทำให้ชาวสวนยางสูญเสียเงินไปประมาณ 2,500 ล้านบาท นายวีระศักดิ์  กล่าวอีกว่า  ขอให้กลุ่มยางต่าง ๆ รวบรวมความเสียหายที่เกิดขึ้น  เพื่อดำเนินยื่นฟ้องต่อศาลปกครอง  เพื่อหาผู้รับผิดชอบและชดเชยความเสียหายที่เกิดขึ้น


ที่มา ประชาชาติธุรกิจ   http://m.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1482302324