ตอบ

Warning: this topic has not been posted in for at least 120 days.
Unless you're sure you want to reply, please consider starting a new topic.
ชื่อ:
อีเมล์:
หัวข้อ:
ไอค่อนข้อความ:

แนบไฟล์:
(Clear Attachment)
(แนบไฟล์เพิ่ม)
Restrictions: 4 per post, maximum total size 192KB, maximum individual size 128KB
Verification:
กรุณาพิมพ์ชื่อนี้ Rakayang เป็น???าษาไทย:

shortcuts: กด alt+s เพื่อตั้งกระทู้ หรือ alt+p แสดงตัวอย่าง


สรุปหัวข้อ

ข้อความโดย: Rakayang.Com
« เมื่อ: มกราคม 04, 2017, 09:08:11 AM »


แนวโน้มส่งออก-ราคายางสดใสกยท.มั่นใจปีหน้าพุ่งต่อเนื่อง-แนะรอขายเมื่อได้ราคา


หนังสือพิมพ์แนวหน้า -- อังคารที่ 3 มกราคม 2560 00:00:59 น.
 
นายธีธัช สุขสะอาด ผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ราคายางพาราที่ปรับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะราคายางแผ่น รมควันชั้น 3 ในตลาดล่วงหน้า ซึ่งกยท.ได้ทำการประเมินพบว่าเกิดจากปัจจัยบวกด้านต่างๆ ทั้งเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้น การอ่อนค่าของเงินเยน การเก็งกำไรอย่างหนักในตลาดล่วงหน้า รวมถึงสต๊อกยางในประเทศจีน


"ในช่วงทุกสิ้นปีราคายางอาจชะลอลงเล็กน้อย เนื่องจากประเทศ ผู้ซื้อเข้าสู่ช่วงวันหยุดเทศกาลต่างๆ แต่จากปริมาณสต๊อกยางในเดือนธันวาคมที่เพิ่มขึ้นไม่มาก ประกอบกับแนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจและการขยายตัวของจีนยังคงแข็งแกร่ง จึงคาดว่าราคายางในเดือนมกราคม 2560 โดยเฉลี่ยยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้น ผู้ประกอบการต้องทยอยซื้อยางเพื่อลดความเสี่ยง ส่วนเกษตรกรสามารถตัดสินใจขายเมื่อได้ราคาในระดับที่พอใจ ไม่จำเป็นต้องเทขายครั้งเดียว"
 
นายธีธัชกล่าวต่อว่า เมื่อพิจารณาพื้นที่ปลูกยางกับปริมาณการใช้ยางของโลก พบว่า มีแนวโน้มเกิดความสมดุลระหว่างผลผลิตยางและความต้องการใช้ยางของโลก สำหรับประเทศไทย ในปี 2559 ผลผลิตถึงเดือนกันยายน 2559 ประมาณ 4.452 ล้านตันลดลงจากช่วงเดียวกันในปีก่อน 0.32% ในปี 2559 ผลผลิตโดยรวมของประเทศไทยลดลงกว่าปี 2558 เล็กน้อย เป็นผลมาจากการดำเนินการตามมาตรการของรัฐและจากสภาพอากาศที่มีฝนตกต่อเนื่องยาวนาน
 
"จากคาดการณ์เจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของโลกและเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าที่สำคัญ พบว่า แนวโน้มการค้าและสถานการณ์การส่งออกยางในปี 2560 ยังคงมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นโดยเฉพาะประเทศจีน ซึ่งเป็นผู้ซื้อรายใหญ่ ได้มี แผนพัฒนาเศรษฐกิจสังคมฉบับที่ 13 (2016-2020) เน้นการพัฒนาทางการแพทย์ และนโยบาย One Belt One Road เส้นทางที่ทำให้ภูมิภาคเอเชียสามารถเชื่อมต่อกับภูมิภาคอื่นๆ ของโลกได้ สร้างเขตการค้าเสรีที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลกจากปี 2017 นับว่าเป็นยุทธศาสตร์ความร่วมมือระหว่างจีนกับประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อประโยชน์ทางเศรษฐกิจร่วมกัน จึงเป็นผลดีกับอุตสาหกรรมยางไทย ประกอบกับในปี 2560 ซึ่งเป็นปีแรกของการเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐซึ่งคาดว่าทรัมป์จะพยายามผลักดันให้เศรษฐกิจสหรัฐเติบโตและส่งผลให้เศรษฐกิจโลกดีตามอีกทั้งแนวโน้ม การเกิด over supply ที่ลดลงอาจคาดได้ว่า การค้าและการส่งออก และราคายางในปี 2560 คงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น" นายธีธัช กล่าว