ข้อความโดย: Rakayang.Com
« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 15, 2017, 07:34:20 PM »ดำเนินคดี 2 โรงงานยางระบายน้ำทิ้งเกินมาตรฐาน ทำน้ำในคลองเน่า
โดย MGR Online
15 กุมภาพันธ์ 2560 16:44 น. (แก้ไขล่าสุด 15 กุมภาพันธ์ 2560 16:48 น.)
โดย MGR Online
15 กุมภาพันธ์ 2560 16:44 น. (แก้ไขล่าสุด 15 กุมภาพันธ์ 2560 16:48 น.)
ระยอง - อุตสาหกรรม จ.ระยอง สั่งดำเนินคดี 2 โรงงานยางในพื้นที่ หลังตรวจสอบพบระบายน้ำทิ้งเกินมาตรฐานประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม ต้นตอทำน้ำในคลองกะเฉดเน่าเสีย ปลาตายเกลื่อน
เมื่อเวลา 14.00 น.วันนี้ (15 ก.พ.) นายกรณ์ภัฐวีญ์ ม่วงน้อย อุตสาหกรรมจังหวัดระยอง ได้สั่งการให้ นายปิตินันต์ อักษร วิศวกรชำนาญการ สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดระยอง ประสานไปยัง ร.ท.ธนากร สีขาว ผู้ควบคุมชุดปฏิบัติการร้อย รส.ที่ 2 กองพันทหารราบที่ 6 พร้อมด้วย นายจรัน ศรีทอง นักวิชาการสาธารณสุข องค์การบริหารส่วนตำบลกะเฉด เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเข้าตรวจสอบโรงงานยางพารา 4 แห่งในพื้นที่ พร้อมเก็บตัวอย่างน้ำเสียส่งตรวจพิสูจน์ หลังเกิดเหตุน้ำในคลองกะเฉด เน่าเสีย จนทำให้ปลาในคลองตายเกลื่อน เมื่อวันที่ 22 มกราคมที่ผ่านมา
ผลการลงพื้นที่ตรวจสอบพบว่า บริษัท ไทยรับเบอร์ ลาเท็กซ์ ซึ่งผลิตน้ำยางข้น ได้ปล่อยน้ำทิ้งเกินมาตรฐานประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม จึงทำการเปรียบเทียบปรับเป็นเงินไม่เกิน 2 แสนบาท และสั่งการให้ดำเนินการปรับปรุงระบบบำบัดน้ำเสียให้มีประสิทธิภาพให้แล้วเสร็จภายใน 45 วัน
ส่วนบริษัท ซันไทยอุตสาหกรรมถุงมือยาง พบว่า มีการปล่อยน้ำทิ้งเป็นไปตามมาตรฐานประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม แต่ได้ตักเตือนให้ระมัดระวังในการประกอบกิจการ ก่อนดำเนินคดีในข้อหาขยายโรงงานและติดตั้งเครื่องจักรเพิ่มโดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษปรับไม่เกิน 2 แสนบาท และจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ
สำหรับบริษัท ไทยฮั้วระยองยางพารา จำกัด ผลิตยางแท่ง SCR-20 พบว่า ระบายน้ำทิ้งเกินมาตรฐานประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม จึงถูกสั่งให้ปรับปรุงระบบบำบัดน้ำเสียให้มีประสิทธิภาพให้แล้วเสร็จภายใน 45 วัน พร้อมดำเนินคดีในข้อหาระบายน้ำทิ้งไม่เป็นไปตามประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม และสั่งให้หยุดประกอบกิจการเป็นเวลา 15 วัน
บริษัท หมิงอังอุตสาหกรรมลาเท็กซ์ ผลิตน้ำยางข้น จากการตรวจสอบพบว่า มีการระบานน้ำทิ้งเป็นไปตามมาตรฐานประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม
นายกรณ์ภัฐวีญ์ ม่วงน้อย อุตสาหกรรมจังหวัดระยอง กล่าวว่า ขณะนี้ได้เรียกตัวแทนจาก 4 โรงงานยาง เข้าร่วมประชุมที่สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดระยอง พร้อมมอบนโยบายให้โรงงานทั้ง 4 แห่ง กำกับดูแลสิ่งแวดล้อมให้เป็นไปตามกฎกระทรวง โดยอุตสาหกรรมจังหวัดระยอง จะเป็นพี่เลี้ยงในการให้ความรู้ด้านสิ่งแวดล้อม พร้อมให้โรงงานรวมกลุ่มกันแก้ปัญหาอย่างมีประสิทธิภาพ
เมื่อเวลา 14.00 น.วันนี้ (15 ก.พ.) นายกรณ์ภัฐวีญ์ ม่วงน้อย อุตสาหกรรมจังหวัดระยอง ได้สั่งการให้ นายปิตินันต์ อักษร วิศวกรชำนาญการ สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดระยอง ประสานไปยัง ร.ท.ธนากร สีขาว ผู้ควบคุมชุดปฏิบัติการร้อย รส.ที่ 2 กองพันทหารราบที่ 6 พร้อมด้วย นายจรัน ศรีทอง นักวิชาการสาธารณสุข องค์การบริหารส่วนตำบลกะเฉด เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเข้าตรวจสอบโรงงานยางพารา 4 แห่งในพื้นที่ พร้อมเก็บตัวอย่างน้ำเสียส่งตรวจพิสูจน์ หลังเกิดเหตุน้ำในคลองกะเฉด เน่าเสีย จนทำให้ปลาในคลองตายเกลื่อน เมื่อวันที่ 22 มกราคมที่ผ่านมา
ผลการลงพื้นที่ตรวจสอบพบว่า บริษัท ไทยรับเบอร์ ลาเท็กซ์ ซึ่งผลิตน้ำยางข้น ได้ปล่อยน้ำทิ้งเกินมาตรฐานประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม จึงทำการเปรียบเทียบปรับเป็นเงินไม่เกิน 2 แสนบาท และสั่งการให้ดำเนินการปรับปรุงระบบบำบัดน้ำเสียให้มีประสิทธิภาพให้แล้วเสร็จภายใน 45 วัน
ส่วนบริษัท ซันไทยอุตสาหกรรมถุงมือยาง พบว่า มีการปล่อยน้ำทิ้งเป็นไปตามมาตรฐานประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม แต่ได้ตักเตือนให้ระมัดระวังในการประกอบกิจการ ก่อนดำเนินคดีในข้อหาขยายโรงงานและติดตั้งเครื่องจักรเพิ่มโดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษปรับไม่เกิน 2 แสนบาท และจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ
สำหรับบริษัท ไทยฮั้วระยองยางพารา จำกัด ผลิตยางแท่ง SCR-20 พบว่า ระบายน้ำทิ้งเกินมาตรฐานประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม จึงถูกสั่งให้ปรับปรุงระบบบำบัดน้ำเสียให้มีประสิทธิภาพให้แล้วเสร็จภายใน 45 วัน พร้อมดำเนินคดีในข้อหาระบายน้ำทิ้งไม่เป็นไปตามประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม และสั่งให้หยุดประกอบกิจการเป็นเวลา 15 วัน
บริษัท หมิงอังอุตสาหกรรมลาเท็กซ์ ผลิตน้ำยางข้น จากการตรวจสอบพบว่า มีการระบานน้ำทิ้งเป็นไปตามมาตรฐานประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม
นายกรณ์ภัฐวีญ์ ม่วงน้อย อุตสาหกรรมจังหวัดระยอง กล่าวว่า ขณะนี้ได้เรียกตัวแทนจาก 4 โรงงานยาง เข้าร่วมประชุมที่สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดระยอง พร้อมมอบนโยบายให้โรงงานทั้ง 4 แห่ง กำกับดูแลสิ่งแวดล้อมให้เป็นไปตามกฎกระทรวง โดยอุตสาหกรรมจังหวัดระยอง จะเป็นพี่เลี้ยงในการให้ความรู้ด้านสิ่งแวดล้อม พร้อมให้โรงงานรวมกลุ่มกันแก้ปัญหาอย่างมีประสิทธิภาพ