ตอบ

Warning: this topic has not been posted in for at least 120 days.
Unless you're sure you want to reply, please consider starting a new topic.
ชื่อ:
อีเมล์:
หัวข้อ:
ไอค่อนข้อความ:

แนบไฟล์:
(Clear Attachment)
(แนบไฟล์เพิ่ม)
Restrictions: 4 per post, maximum total size 192KB, maximum individual size 128KB
Verification:
กรุณาพิมพ์ชื่อนี้ Rakayang เป็น???าษาไทย:

shortcuts: กด alt+s เพื่อตั้งกระทู้ หรือ alt+p แสดงตัวอย่าง


สรุปหัวข้อ

ข้อความโดย: Rakayang.Com
« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 16, 2017, 01:34:13 PM »

บึงกาฬเจอฝนทิ้งช่วงกระทบต้นยางให้น้ำน้อย ทำชาวสวนรายได้หดถึงกับหยุดกรีด

updated: 16 ก.พ. 2560 เวลา 11:31:06 น



 



วันที่ 16 กุมภาพันธ์ เวลา 09.00 น. เข้าสู่หน้าแล้งที่จังหวัดบึงกาฬ ได้ส่งผลกระทบต่อเกษตรกรชาวสวนยางพาราในพื้นที่ อ.เซกา จ.บึงกาฬ พื้นที่ปลูกยางพาราต้องประสบกับปัญหาภัยแล้งเมื่อฝนทิ้งช่วงมาเป็นระยะเวลายาวนาน ต้นยางเมื่อขาดน้ำก็ให้น้ำยางน้อยลงกว่าครึ่ง ประกอบกับเป็นช่วงเวลาที่ต้นยางถึงฤดูผลัดใบก็เริ่มผลัดใบร่วงหล่นลงมา ฝนที่ทิ้งช่วงไม่ตกมายาวนานมาหลายเดือน ทำให้พื้นดินแห้งแล้งขาดน้ำ ต้นยางที่เคยมีลำต้นสมบูรณ์เมื่อขาดน้ำก็เริ่มผลัดใบให้น้ำยางน้อยลง เหลือประมาณ 50-60% โดยเฉพาะยางกรีดใหม่อายุน้อย 7-8 ปี จะได้รับผลกระทบจากภัยแล้งเป็นอย่างมากถึงกับต้องหยุดพักการกรีดยาง

 ขณะที่ราคายางพาราได้ปรับตัวสูงขึ้น อยู่ที่กิโลกรัมละ 42.80 บาท (ยางก้อนถ้วย) ทำให้เกษตรกรชาวสวนยางเสียโอกาสในการสร้างรายได้ อีกไม่นาน ถ้าสถานการณ์ภัยแล้งเพิ่มขึ้น ต้นยางก็จะผลัดใบเต็มที่ เกษตรกรก็ต้องหยุดกรีดยางไม่น้อยกว่า 1-2 เดือน เกษตรกรก็จะเดือดร้อนมากกว่านี้




ที่มา : มติชนออนไลน์