ตอบ

Warning: this topic has not been posted in for at least 120 days.
Unless you're sure you want to reply, please consider starting a new topic.
ชื่อ:
อีเมล์:
หัวข้อ:
ไอค่อนข้อความ:

แนบไฟล์:
(Clear Attachment)
(แนบไฟล์เพิ่ม)
Restrictions: 4 per post, maximum total size 192KB, maximum individual size 128KB
Verification:
กรุณาพิมพ์ชื่อนี้ Rakayang เป็น???าษาไทย:

shortcuts: กด alt+s เพื่อตั้งกระทู้ หรือ alt+p แสดงตัวอย่าง


สรุปหัวข้อ

ข้อความโดย: Rakayang.Com
« เมื่อ: กรกฎาคม 05, 2017, 03:39:36 PM »

อุตฯยางพาราเล็งใช้เครื่องจักรแทนแรงงาน


Update: 13.46 น.  5 ก.ค. 60  Money Channel

อุตสาหกรรมยางพารา  ยอมรับกฎหมายแรงงานต่างด้าว  ส่งกระทบรุนแรงต่อ SMEs  ระบุเตรียมใช้เครื่องจักรทดแทน  ส่วนราคายางปีนี้คาด อยู่ที่ 60-65 บาทต่อกิโลกรัม

นายเอกชัย   ลิมปิโชติพงษ์   ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ยาง  สภาอุตสาหกรรมแห่งประทศไทย  หรือส.อ.ท. บอกถึงการใช้มาตรา 44  เพื่อผ่อนผันการบังคับใช้พระราชกำหนด การจัดระเบียบแรงงานต่างด้าวว่า   แม้รัฐบาลจะผ่อนผันออกไปอีก 6 เดือน  แต่ผู้ประกอบการยังคงได้รับผลกระทบ   โดยเฉพาะผู้ประกอบการSMEs หรืออุตสาหกรรมในต่างจังหวัด  ที่มีการใช้แรงงานต่างด้าว เป็นจำนวนมาก   

ดังนั้นในระหว่าง  6 เดือนที่มีการผ่อนผันนี้  ภาคอุตสาหกรรมก็จะปรับตัวโดยจะเน้นการใช้เครื่องจักรในการผลิตสินค้าให้มากขึ้น

ทั้งนี้กฎหมายใหม่ที่ทำให้ภาคอุตสาหกรรมได้รับผลกระทบมาก  ได้แก่  การกำหนดค่าปรับในกรณีที่ลูกจ้างมีการย้ายงาน  ที่สูงถึงคนละ  4 แสน- 8 แสนบาท

สำหรับการทิศทางอุตสาหกรรมยางพารา  นายเอกชัย  ยอมรับว่าทิศทางราคายางพาราในปีนี้น่าจะเคลื่อนไหวอยู่ที่กิโลกรัมละ 60-65 บาท  สอดคล้องกับทิศทางราคาน้ำมันในตลาดโลก   

ส่วนการปรับตัวของอุตสาหกรรมเพื่อรองรับกับนโยบาย Thailand  4.0  แบ่งเป็น  3 กลุ่ม   กลุ่มต้นน้ำ   เป็นกลุ่มที่น่าเป็นห่วงมากที่สุด   ได้แก่ ชาวสวนยาง ซึ่งปัจจุบันกำลังมีการพัฒนาร่วมกับมหาวิทยาลัย ในการผลิตเครื่องจักรช่วยในการกรีดยาง  เพื่อลดต้นทุน ส่วนกลางน้ำและปลายน้ำ ภาคอุตสาหกรรมกำลังพัฒนาเครื่องมือและผลิตภัณฑ์ เพื่อเพิ่มมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้า