ตอบ

Warning: this topic has not been posted in for at least 120 days.
Unless you're sure you want to reply, please consider starting a new topic.
ชื่อ:
อีเมล์:
หัวข้อ:
ไอค่อนข้อความ:

แนบไฟล์:
(Clear Attachment)
(แนบไฟล์เพิ่ม)
Restrictions: 4 per post, maximum total size 192KB, maximum individual size 128KB
Verification:
กรุณาพิมพ์ชื่อนี้ Rakayang เป็น???าษาไทย:

shortcuts: กด alt+s เพื่อตั้งกระทู้ หรือ alt+p แสดงตัวอย่าง


สรุปหัวข้อ

ข้อความโดย: Rakayang.Com
« เมื่อ: กันยายน 05, 2017, 05:07:02 PM »

ฟุ้งราคายางพุ่งแตะกิโลละ 60.50 บาท กทย. จ่อคืนเงิน 5 เสือบริษัทร่วมทุนฯ

วันที่ 5 กันยายน 2560 - 16:48 น. ที่ ประชาชาติธุรกิจ


นายธีธัช สุขสะอาด ผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) เปิดเผยว่า ตามที่ กยท. ร่วมกับ 5 บริษัทผู้ส่งออกยางรายใหญ่ของประเทศ ประกอบด้วย บริษัท ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) บริษัท วงศ์บัณฑิต จำกัด บริษัท เซาท์แลนด์รับเบอร์ จำกัด บริษัท ไทยฮั้วยางพารา จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ไทยรับเบอร์ลาเท็คซ์คอร์ปอร์เรชั่นประเทศไทย จำกัด (มหาชน) จัดตั้งบริษัทร่วมทุนยางพาราไทย จำกัด เมื่อวันที่ 20 ก.ค. 2560 เงินทุนจดทะเบียน 1,200 ล้านบาทเพื่อเข้าซื้อขายยางพาราภายในประเทศและภูมิภาค ได้แก่ ตลาดกลางยางพารา กยท. 6 แห่ง และตลาดกลางภูมิภาค RRM (ไทย อินโดนีเซียมาเลเซีย) รวมถึงดำเนินการซื้อขายยางพาราผ่านตลาดล่วงหน้าบริษัทร่วมทุนฯผลการดำเนินงานดังกล่าว ส่งผลให้ราคายางพารามีการปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งโครงการดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อรักษาเสถียรภาพราคา กำหนดเพื่อยกระดับราคาในตลาด ให้ได้ประมาณ กิโลกรัม(ก.ก.) ละ 60-70 บาท เมื่อราคานิ่งแล้วบริษัทจะหยุดดำเนินการ ปล่อยให้เป็นไปตามกลไกการตลาด ซึ่งราคายางแผ่นดิบรมควันชั้น 3 เมื่อวันที่ 5 ก.ย. อยู่ที่ 60.50 บาท/ก.ก. ถือว่าประสบผลสำเร็จแต่ต้องดูสถานการณ์อีกสักระยะหลังจากนั้นจะหารือกับบริษัทร่วมทุนเพื่อยุติการเข้าซื้อและคืนวงเงินลงทุนของแต่ละบริษัทไป