ตอบ

Warning: this topic has not been posted in for at least 120 days.
Unless you're sure you want to reply, please consider starting a new topic.
ชื่อ:
อีเมล์:
หัวข้อ:
ไอค่อนข้อความ:

แนบไฟล์:
(Clear Attachment)
(แนบไฟล์เพิ่ม)
Restrictions: 4 per post, maximum total size 192KB, maximum individual size 128KB
Verification:
กรุณาพิมพ์ชื่อนี้ Rakayang เป็น???าษาไทย:

shortcuts: กด alt+s เพื่อตั้งกระทู้ หรือ alt+p แสดงตัวอย่าง


สรุปหัวข้อ

ข้อความโดย: Rakayang.Com
« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 08, 2018, 09:39:21 PM »


ก.เกษตรฯ เล็งเข้าพบบริษัทผู้ผลิตยางรถยนต์และรองเท้ากีฬาขนาดใหญ่ของญี่ปุ่น เพื่อขยายปริมาณการใช้ยางพาราไทย


สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 8 กุมภาพันธ์ 2561 17:15:16 น.
 
นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ ผู้ช่วยปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังหารือร่วมกับ Mr.Mitsuhiro Onosato , Executive Officer และผู้บริหารระดับสูงตลาดซื้อขายล่วงหน้าโตเกียว (Tokyo Commodity Exchange: TOCOM) ว่า สาระสำคัญที่หารือร่วมกับโตคอมในครั้งนี้ ประเด็นหลัก คือ ฝ่ายไทยได้ชี้แจงและเน้นย้ำการดำเนินมาตรการจำกัดการส่งออกยางพาราของไทยอย่างจริงจัง และมาตรการการกระตุ้นการใช้ยางพาราในประเทศ ตามนโยบายของ รมว.เกษตรและสหกรณ์ พร้อมแจ้งว่าเอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงโตเกียว และอัครราชทูตที่ปรึกษา ฝ่ายการเกษตร จะเข้าพบกับบริษัทผู้ผลิตยางรถยนต์ และรองเท้ากีฬาขนาดใหญ่ของญี่ปุ่น เพื่อขยายปริมาณการใช้ยางพาราไทย


นอกจากนี้ ทางโตคอมยังพร้อมที่จะช่วยเผยแพร่ข้อมูลสินค้ายางพาราของไทยให้ผู้ซื้อขายในตลาดโตคอมทราบ ซึ่งได้มอบหมายให้สำนักงานที่ปรึกษาการเกษตรต่างประเทศประจำกรุงโตเกียว เป็นหน่วยงานกลางในการให้ข้อมูลข่าวสารทางการของฝ่ายไทยกับโตคอม และยินดีที่จะช่วยเฝ้าระวังและติดตามการผันผวนของราคายางในตลาด (Market Monitoring) อย่างสม่ำเสมอ ทั้งนี้ หากพบมาตรการที่ผิดปกติจะรีบแจ้งเตือนมายังฝ่ายไทยทันที
 
ขณะเดียวกัน ในช่วงเดือนตุลาคม 2561 โตคอมมีกำหนดเปิดการค้าขาย (Trade) สินค้ายางชนิด TSR ซึ่งนับเป็นสินค้าตัวใหม่ในตลาดโตคอม และจะใช้ราคา FOB ของประเทศไทยในการ Trade โดยคาดว่าจะทำให้ปริมาณการค้าและการใช้ยางมีเพิ่มมากขึ้น และน่าจะส่งผลที่ดีต่อราคายางในตลาดโลก ซึ่งจะขอเข้าชี้แจงและหารือกับการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) และสมาคมยางพาราไทยในช่วงเดือนพฤษภาคมนี้ โดยสำนักงานที่ปรึกษาการเกษตรต่างประเทศประจำกรุงโตเกียว จะได้เป็นผู้ประสานรายละเอียดต่อไป