ข้อความโดย: Rakayang.Com
« เมื่อ: มิถุนายน 11, 2018, 09:56:46 AM »กยท. เตรียมสอบบัญชีบริษัทร่วมทุนยางพารา วงเงิน 1.2 พันล้านบาท หลังบอร์ด ให้ปิดบริษัทหลังขาดทุน
วันที่ 10 มิ.ย. 2561 เวลา 18:28 น. ทีมา โพสทูเดย์

นายเยี่ยม ถาวโรฤทธิ์ รักษาการผู้ว่าการยางแห่งประเทศไทย(กยท)เปิดเผย ขณะนี้รอให้มีการปิดบัญชีบริหารร่วมทุนยางพารา ของ 6 บริษัทประมาณเดือน ก.ค. ที่ กยท.ไปร่วมทุนกับ 5 เสือยางรายใหญ่วงเงิน 1,200 ล้านบาท ซึ่งแต่ละแห่งจะลงขัน200 ล้านบาท ภายหลังที่คณะกรรมการการยางแห่งประเทศไทย(บอร์ดกยท.)มีมติให้ปิดบริษัท และมีข่าวว่าการบริหารขาดทุน
"การลงทุนมีความเสี่ยง แต่ก็จะดูว่าขาดทุนเพราะอะไร เพราะหากขาดทุนโดยสภาพตลาด โดยสุจริตไม่มีปัญหาแต่หากขาดทุนเพราะประเด็นอื่นก็จะเสนอบอร์ดให้พิจารณา และให้บอร์ดตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง เพื่อหาคนรับผิดชอบ"นายเยี่ยมกล่าว
นอกจากนั้น กำลังผลักดันตลาดกลางของกยท.ทั้ง6 แห่งทั่วประเทศ ให้เข้ามามีส่วนในการซื้อขายยางพาราให้มากกว่า 50% ของตลาดยางพาราทั้งหมด 4.2 ล้านตันต่อปี เพื่อพัฒนาธุรกิจยางพาราของประเทศ และการดำเนินธุรกิจของกยท.เอง โดยจะลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมตลาดกลางยางพาราของกทย.ทั้ง 6 แห่งประเทศเพื่อดูศักยภาพการผลิตที่แท้จริง ว่าแต่ละแห่งมีการซื้อขายวันละประมาณเท่าไหร่ เพื่อเติมเงินทุนหมุนเวียนลงไปให้สามารถซื้อขายยางพาราได้มากขึ้นรองรับมาตรการใช้ราคากลางเป็นราคาเดียวทั่วประเทศ
วันที่ 10 มิ.ย. 2561 เวลา 18:28 น. ทีมา โพสทูเดย์

นายเยี่ยม ถาวโรฤทธิ์ รักษาการผู้ว่าการยางแห่งประเทศไทย(กยท)เปิดเผย ขณะนี้รอให้มีการปิดบัญชีบริหารร่วมทุนยางพารา ของ 6 บริษัทประมาณเดือน ก.ค. ที่ กยท.ไปร่วมทุนกับ 5 เสือยางรายใหญ่วงเงิน 1,200 ล้านบาท ซึ่งแต่ละแห่งจะลงขัน200 ล้านบาท ภายหลังที่คณะกรรมการการยางแห่งประเทศไทย(บอร์ดกยท.)มีมติให้ปิดบริษัท และมีข่าวว่าการบริหารขาดทุน
"การลงทุนมีความเสี่ยง แต่ก็จะดูว่าขาดทุนเพราะอะไร เพราะหากขาดทุนโดยสภาพตลาด โดยสุจริตไม่มีปัญหาแต่หากขาดทุนเพราะประเด็นอื่นก็จะเสนอบอร์ดให้พิจารณา และให้บอร์ดตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง เพื่อหาคนรับผิดชอบ"นายเยี่ยมกล่าว
นอกจากนั้น กำลังผลักดันตลาดกลางของกยท.ทั้ง6 แห่งทั่วประเทศ ให้เข้ามามีส่วนในการซื้อขายยางพาราให้มากกว่า 50% ของตลาดยางพาราทั้งหมด 4.2 ล้านตันต่อปี เพื่อพัฒนาธุรกิจยางพาราของประเทศ และการดำเนินธุรกิจของกยท.เอง โดยจะลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมตลาดกลางยางพาราของกทย.ทั้ง 6 แห่งประเทศเพื่อดูศักยภาพการผลิตที่แท้จริง ว่าแต่ละแห่งมีการซื้อขายวันละประมาณเท่าไหร่ เพื่อเติมเงินทุนหมุนเวียนลงไปให้สามารถซื้อขายยางพาราได้มากขึ้นรองรับมาตรการใช้ราคากลางเป็นราคาเดียวทั่วประเทศ