ตอบ

Warning: this topic has not been posted in for at least 120 days.
Unless you're sure you want to reply, please consider starting a new topic.
ชื่อ:
อีเมล์:
หัวข้อ:
ไอค่อนข้อความ:

แนบไฟล์:
(Clear Attachment)
(แนบไฟล์เพิ่ม)
Restrictions: 4 per post, maximum total size 192KB, maximum individual size 128KB
Verification:
กรุณาพิมพ์ชื่อนี้ Rakayang เป็น???าษาไทย:

shortcuts: กด alt+s เพื่อตั้งกระทู้ หรือ alt+p แสดงตัวอย่าง


สรุปหัวข้อ

ข้อความโดย: Rakayang.Com
« เมื่อ: พฤศจิกายน 15, 2018, 08:12:30 AM »

STA แจงกำไรสุทธิ Q3/61 โต 201% จากปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การขาย-บริหารต้นทุนวัตถุดิบ-รับกำไรจากธุรกิจถุงมือยาง


สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 14 พฤศจิกายน 2561 17:55:27 น.
 
บมจ. ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี (STA) ชี้แจงว่า กำไรสุทธิในไตรมาสที่ 3/2561 เท่ากับ 501.6 ล้านบาท ปรับเพิ่มขึ้นร้อยละ 201.0 จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน อันเป็นผลจากการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์เป็นการขายแบบเลือกสรร (Selective Selling) และการบริหารต้นทุนวัตถุดิบของธุรกิจยางธรรมชาติ ทำให้บริษัททำกำไรได้ดีขึ้น กอปรกับการเติบโตของธุรกิจถุงมือยางสามารถทำกำไรให้กับบริษัทได้อย่างต่อเนื่อง


ทั้งนี้ กำไรก่อนค่าใช้จ่ายทางการเงินและภาษีเงินได้ (EBIT) ค่อนข้างคงที่เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และปรับตัวดีขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 39.7 อีกทั้งต้นทุนทางการเงินสุทธิลดลงร้อยละ 0.4 จากงวดปีก่อน และ 8.0 ไตรมาสก่อน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลจากดอกเบี้ยจ่ายที่ลดลง ตามการลดลงของเงินกู้ระยะสั้น ที่สอดคล้องกับการลดลงของปริมาณการขายและราคาวัตถุดิบ
 
โดยบริษัทมีรายได้จากการขายและการให้บริการรวม ในไตรมาสที่ 3/2561 เท่ากับ 18,859.4 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 3.5 จากงวดปีก่อน ในส่วนนี้เป็นรายได้จากธุรกิจยางธรรมชาติ 15,640.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.9 โดยหลักเป็นผลมาจากปริมาณการขายในทุกผลิตภัณฑ์ NR ที่ขยายตัวอย่างมากเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ทำให้ผลกระทบจากราคาขายเฉลี่ยที่ปรับลดลงตามทิศทางของราคายางธรรมชาติในตลาดโลกเบาบางลง
 
แต่หากพิจารณาเทียบผลกำไรสุทธิต่อไตรมาส บริษัทมีกำไรลดลงร้อยละ 15.3 ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลมาจากค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้ที่เพิ่มขึ้น 103.2 ล้านบาท สืบเนื่องจากภาษีเงินได้รอการตัดบัญชีที่เพิ่มขึ้น